ผู้บริหาร แสนสิริ เปิดผนึกถึง ยูนิเซฟ ชี้รัฐบาลใช้มาตรการรุนแรงสลายม็อบ 16 ตุลา ขอออกมาเรียกร้องไม่ให้รัฐใช้ความรุนแรงเพราะมีเด็กและเยาวชน เชื่อเป็นหนึ่งเสียงสำคัญที่รัฐจะฟัง
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Sansiri
วันที่ 19 ตุลาคม 2563 นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Thavisin โดยส่งหนังสือถึงผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ระบุว่า "จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่รัฐบาลใช้มาตรการค่อนข้างรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมที่สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ซึ่งประกอบไปด้วย ประชาชน เยาวชน และเด็ก
ทำให้ข้าพเจ้าซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของยูนิเซฟที่มีโอกาสทำงานด้านสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนร่วมกับยูนิเซฟมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี รู้สึกมีความกังวลใจในเหตุการณ์ดังกล่าวและมีความจำเป็นต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงยูนิเซฟ โดยยืนยันว่าเจตนามิได้ต้องการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือให้การสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Thavisin
เข้าใจว่ายูนิเซฟต้องระวังการออกมาแสดงความคิดเห็น อาจกังวลจากการถูกติหรือโจมตีจากพันธมิตรที่สนับสนุนเงินบริจาค แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในสถานการณ์ ณ ขณะนี้ คือทุกฝ่ายต้องมองให้ตรงกันว่าเรื่องของสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน และเรื่องของทัศนคติความเห็นทางการเมือง เป็นสองเรื่องที่ต้องถูกแยกออกจากกันให้ชัดเจน"
ทั้งนี้ ยังมีการระบุด้วยว่า "ทุกคนรอคอยความจริงใจจาก @UNICEF_Thailand ที่จะกล้าออกมาเรียกร้องไม่ให้รัฐใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมที่มีเด็กและเยาวชน ก้าวข้ามเรื่องการเมืองก่อนครับ แล้วโฟกัสที่ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเด็ก ท่านเป็นองค์กรระดับโลก ผมเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งเสียงสำคัญที่ทางรัฐบาลจะรับฟัง"
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Sansiri
วันที่ 19 ตุลาคม 2563 นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Thavisin โดยส่งหนังสือถึงผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ระบุว่า "จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่รัฐบาลใช้มาตรการค่อนข้างรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมที่สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ซึ่งประกอบไปด้วย ประชาชน เยาวชน และเด็ก
ทำให้ข้าพเจ้าซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของยูนิเซฟที่มีโอกาสทำงานด้านสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนร่วมกับยูนิเซฟมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี รู้สึกมีความกังวลใจในเหตุการณ์ดังกล่าวและมีความจำเป็นต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงยูนิเซฟ โดยยืนยันว่าเจตนามิได้ต้องการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือให้การสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Thavisin
เข้าใจว่ายูนิเซฟต้องระวังการออกมาแสดงความคิดเห็น อาจกังวลจากการถูกติหรือโจมตีจากพันธมิตรที่สนับสนุนเงินบริจาค แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในสถานการณ์ ณ ขณะนี้ คือทุกฝ่ายต้องมองให้ตรงกันว่าเรื่องของสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน และเรื่องของทัศนคติความเห็นทางการเมือง เป็นสองเรื่องที่ต้องถูกแยกออกจากกันให้ชัดเจน"
ทั้งนี้ ยังมีการระบุด้วยว่า "ทุกคนรอคอยความจริงใจจาก @UNICEF_Thailand ที่จะกล้าออกมาเรียกร้องไม่ให้รัฐใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมที่มีเด็กและเยาวชน ก้าวข้ามเรื่องการเมืองก่อนครับ แล้วโฟกัสที่ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเด็ก ท่านเป็นองค์กรระดับโลก ผมเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งเสียงสำคัญที่ทางรัฐบาลจะรับฟัง"