แม่ร้องเอาผิด ครูยึดมือถือลูกสาววัย 13 ปี เอาแชตลับไปประจานให้เพื่อนดู จนลูกสาวเครียดจัดตัดสินใจผูกคอตัวเอง เคราะห์ดีเชือกขาดจึงรอดตายมาได้หวุดหวิด
![ครูยึดมือถือเด็ก ครูยึดมือถือเด็ก]()
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 23 ตุลาคม 2563 เดลินิวส์ รายงานว่า ญาติของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) เด็กนักเรียนชั้น ม.1 วัย 13 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ใน ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า หลานสาวของตนผูกคอตัวเองที่บ้าน แต่โชคดีที่แม่และพี่ชายช่วยเหลือไว้ได้ทัน สอบถามทราบสาเหตุมาจากครูประจำชั้น ยึดโทรศัพท์มือถือแล้วนำไปเปิดแชตส่วนตัวประจานให้เพื่อนดู ทำให้เกิดความอับอายจนตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
โดยนางบี ผู้เป็นแม่ ให้การว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกลับจากทำงานเห็นลูกสาวมีท่าทีซึมเศร้า จึงสอบถามทราบว่า ครูที่โรงเรียนยึดโทรศัพท์ของลูกไป เพราะเล่นโทรศัพท์ในโรงเรียน ตนจึงปลอบใจลูกแต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงอะไร หลังจากนั้นไม่นาน ลูกสาวคนเล็กวิ่งมาบอกว่า เห็นพี่ผูกคอตัวเองในห้องนอน ตนกับลูกชายคนโตจึงรีบวิ่งเข้าไปดูก็พบว่าลูกสาวใช้เชือกผูกคอตัวเองกับขื่อหลังคา แต่โชคดีที่เชือกขาดตกลงมาหมดสติ จึงรีบเข้าไปช่วยอุ้มร่างลูกและช่วยชีวิตไว้ได้ทัน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อลูกฟื้นขึ้นมาจึงสอบถามลูกจนทราบว่า ลูกรู้สึกอายเพื่อนที่โรงเรียน หลังจากครูประจำชั้นผู้ชายยึดเอามือถือไป กลับนำโทรศัพท์ของลูกไปเปิดแชตข้อความส่วนตัวให้เพื่อนในโรงเรียนดูกันหลายคน ทำให้ลูกเกิดความอับอาย และคิดสั้น การกระทำของครูเป็นการประจานเด็ก หากครูจะยึดโทรศัพท์ก็ยึดไป แต่ไม่ควรเอาแชตส่วนตัวไปเปิดประจานแบบนี้ หลังเกิดเหตุสามีโทร. ไปสอบถามครู แต่เจ้าตัวปฏิเสธและขอโทษ สามีบอกว่าหากจะขอโทษให้มาขอโทษที่บ้าน ตนอยากให้ครูคนนี้ออกไปจากโรงเรียนไม่อยากให้อยู่โรงเรียนนี้ เพราะเคยเกิดเหตุกับเด็กนักเรียนหลายคนมาแล้ว ตอนนี้ลูกไม่กล้าไปโรงเรียนแล้ว
ถึงแม้ว่าขณะนี้ครูคนดังกล่าวได้มาขอโทษ และควักเงินให้ 500 บาท โดยบอกเป็นค่าทำขวัญเด็ก แต่ฝ่ายปฏิเสธรับคำขอโทษดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เพื่อนที่โรงเรียนของลูกติดต่อมาบอกตนเองว่า ครูไปพูดกับเด็กนักเรียนคนอื่นว่า ถ้าเด็ก ม.1 ย้ายออกจากโรงเรียนไปทั้งหมด ครูจะทำบุญให้ 1,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก






