คุณลุงขับแท็กซี่ วัย 66 ปี เปิดใจหลังถูกผู้โดยสารสาวแสบ หลอกเหมารถให้ไปส่งศรีราชา ก่อนอ้างจะไปเอาเงินกับพี่ แล้วทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ในรถ สุดท้ายหายเงียบไม่จ่ายค่าโดยสาร รับเสียทั้งเวลาและความรู้สึก
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ช่อง 3 รายงานว่า นายจิรภัทร คะกลาง โชเฟอร์แท็กซี่ วัย 66 ปี เปิดใจกับทีมข่าว ว่า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตนได้รับผู้โดยสารหญิงวัยประมาณ 20 ต้น ๆ จากรถไฟฟ้าใต้ดิน ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร โดยผู้โดยสารบอกให้ไปส่งที่โรบินสัน ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมตกลงราคาเหมาอยู่ที่ 1,000 บาท ระหว่างทางไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก แต่ผู้โดยสารได้พูดคุยว่าเห็นใจคนขับแท็กซี่และพ่อค้าแม่ค้าที่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทำมาหากินลำบาก ก่อนจะขอยืมโทรศัพท์ของตนโทร. หาพี่สาวเพื่อขอเงินมาจ่ายค่ารถ โดยตนเห็นใจ จึงช่วยออกค่าทางด่วนจำนวน 85 บาท ส่วนผู้โดยสารจ่ายค่าทางด่วนด่านแรกไป 50 บาท ซึ่งก่อนออกเดินทางตนได้แวะเติมก๊าซไป 400 บาท
เมื่อถึงที่หมาย หญิงสาวคนดังกล่าวบอกกับตนว่าให้จอดรอด้านหน้า ขอขึ้นไปเอาเงินกับพี่สาวที่ขายอาหารอยู่ในห้าง พร้อมทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ในรถ โดยตนก็ได้จอดรอผู้โดยสารนานกว่า 2 ชั่วโมง ตั้งแต่บ่าย 2 โมง ไปจนถึง 4 โมงเย็น จนเห็นท่าไม่ดีจึงไปแจ้ง รปภ. ให้ช่วยไปตามหาผู้หญิงคนดังกล่าว แต่ก็ไม่เจอตัวแล้ว จึงรู้ทันทีว่าถูกหลอก ตนจึงตัดสินใจเอากระเป๋าเสื้อผ้าของผู้หญิงคนดังกล่าวไปฝากไว้ที่สถานีตำรวจภูธรศรีราชา โดยไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะไม่อยากเสียเวลาทำมาหากิน ส่วนสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋านั้นไม่มีของมีค่าใด ๆ มีเพียงเสื้อผ้าและชุดชั้นใน
โชเฟอร์แท็กซี่ระบุอีกว่า แม้หลายคนจะมองว่าเงิน 1,000 บาท เป็นเงินจำนวนไม่เยอะ แต่สำหรับตนนั้น 1,000 บาทเป็นเงินจำนวนมาก จึงขอร้องคนที่ทำแบบนี้ อย่าทำกับใครอีกเลย เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ ทำมาหากินยากลำบาก เงินทองหายาก อย่าสร้างความเดือดร้อนกับใครอีกเลย เพราะตนต้องเสียเวลา เสียความรู้สึก และเสียเงินฟรี
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3

เมื่อถึงที่หมาย หญิงสาวคนดังกล่าวบอกกับตนว่าให้จอดรอด้านหน้า ขอขึ้นไปเอาเงินกับพี่สาวที่ขายอาหารอยู่ในห้าง พร้อมทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ในรถ โดยตนก็ได้จอดรอผู้โดยสารนานกว่า 2 ชั่วโมง ตั้งแต่บ่าย 2 โมง ไปจนถึง 4 โมงเย็น จนเห็นท่าไม่ดีจึงไปแจ้ง รปภ. ให้ช่วยไปตามหาผู้หญิงคนดังกล่าว แต่ก็ไม่เจอตัวแล้ว จึงรู้ทันทีว่าถูกหลอก ตนจึงตัดสินใจเอากระเป๋าเสื้อผ้าของผู้หญิงคนดังกล่าวไปฝากไว้ที่สถานีตำรวจภูธรศรีราชา โดยไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะไม่อยากเสียเวลาทำมาหากิน ส่วนสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋านั้นไม่มีของมีค่าใด ๆ มีเพียงเสื้อผ้าและชุดชั้นใน
