สาวผู้ช่วยทันตแพทย์ ทำใจไม่ได้ อดีตแฟนไล่ให้ไปทำแท้งเพราะกำลังจะหมั้นกับแฟนใหม่ คว้ามีดปักอกตัดขั้วหัวใจแฟนดับคาที่ ก่อนพยายามฆ่าตัวตายตาม แต่เจ้าหน้าที่มาช่วยทัน อาการสาหัส
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (8 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในห้องพักของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยห้องที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 2 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในพบศพ นายประเวช อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้อง สภาพสวมเสื้อผ้านอนหงาย มีผ้าห่มสีชมพูคลุมร่างอยู่ที่พื้นข้างเตียงนอน มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจ 1 แผล ข้างกันพบร่าง น.ส.เปมิกา อายุ 32 ปี แฟนสาวนอนหมดสติหายใจรวยริน มีผ้าห่มสีชมพูอีกผืนคลุมร่าง มีบาดแผลถูกกรีดที่ข้อมือด้านซ้าย 1 แผล มีน้ำลายฟูมปาก เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ตรวจสอบในห้องพบอาวุธมีดทำครัวยาว 6 นิ้ว วางอยู่ที่พื้น 2 เล่ม พร้อมกับขวดน้ำบรรจุน้ำยาซักรีดผ้าวางอยู่ 2 ขวด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนญาติผู้ตาย ทราบว่า ทั้งคู่เคยคบหากันมาประมาณ 1 ปี และเลิกกันช่วงโควิด 19 จากนั้นผู้ตายได้มีแฟนใหม่และกำลังจะหมั้นกัน แต่ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.เปมิกา ย้อนกลับมาหาผู้ตายและบอกว่าท้อง ทำให้ผู้ตายเครียดมาก
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพผู้ตายและ น.ส.เปมิกา กลับมาที่ห้องพักเพียง 2 คน ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กระทั่งช่วงค่ำผู้ตายเดินออกจากห้องพักไปทำธุระข้างนอก แล้วย้อนกลับเข้ามาที่ห้องพักช่วงตี 2 ของวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยไม่มีบุคคลต้องสงสัยรายอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจต้องรอสอบสวน น.ส.เปมิกา ก่อนถึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาได้
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุในเฟซบุ๊กของ น.ส.เปมิกา ได้มีการโพสต์ข้อความตัดพ้อ ประมาณว่า ฝ่ายชายทำร้ายความรู้สึกด้วยการให้ทำแท้งเพราะจะไปหมั้นกับผู้หญิงอื่น ซ้ำครอบครัวฝ่ายชายก็สนับสนุน แต่ต่อจากนี้จะไม่มีใครมาพรากเรา 3 คนพ่อแม่ลูกได้อีกต่อไป นอกจากนี้ น.ส.เปมิกา ยังมีการส่งข้อความไปลาครอบครัวผ่านทางไลน์อีกด้วย
ด้านน้องสาวผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาดูศพ ให้การว่า พี่ชายตนมีอาชีพเป็นผู้จัดการร้านอาหารอินเดีย อยู่ย่านสีลม ส่วน น.ส.เปมิกา เป็นผู้ช่วยทันตแพทย์อยู่ที่คลินิกหมอฟัน ย่านถนนเจริญราษฎร์ ทั้งคู่คบหากันประมาณ 1 ปี และเลิกกันตอนช่วงโควิด แต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันอยู่แม้จะรู้ว่า ต่างคนต่างมีคนคบหาดูใจใหม่แล้ว
โดยเฉพาะพี่ชายตน กำลังวางแผนจะหมั้นหมายกับผู้หญิงอีกคนที่คบหาอยู่ด้วย กระทั่งมาเกิดเหตุเสียก่อน ซึ่งคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากที่พี่ชายตนกับ น.ส.เปมิกา ยังตกลงเรื่องท้องไม่ได้ จึงเชื่อว่าระหว่างเกิดเหตุ พี่ชายคงดื่มเหล้าหนักจนหลับไม่ได้สติ อีกฝ่ายเลยถือโอกาสใช้มีดปักอกตัดขั้วหัวใจ ก่อนจะพยายามฆ่าตัวตายตาม ด้วยการกรีดข้อมือ และกินน้ำยารีดผ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (8 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในห้องพักของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยห้องที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 2 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในพบศพ นายประเวช อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้อง สภาพสวมเสื้อผ้านอนหงาย มีผ้าห่มสีชมพูคลุมร่างอยู่ที่พื้นข้างเตียงนอน มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจ 1 แผล ข้างกันพบร่าง น.ส.เปมิกา อายุ 32 ปี แฟนสาวนอนหมดสติหายใจรวยริน มีผ้าห่มสีชมพูอีกผืนคลุมร่าง มีบาดแผลถูกกรีดที่ข้อมือด้านซ้าย 1 แผล มีน้ำลายฟูมปาก เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ตรวจสอบในห้องพบอาวุธมีดทำครัวยาว 6 นิ้ว วางอยู่ที่พื้น 2 เล่ม พร้อมกับขวดน้ำบรรจุน้ำยาซักรีดผ้าวางอยู่ 2 ขวด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนญาติผู้ตาย ทราบว่า ทั้งคู่เคยคบหากันมาประมาณ 1 ปี และเลิกกันช่วงโควิด 19 จากนั้นผู้ตายได้มีแฟนใหม่และกำลังจะหมั้นกัน แต่ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.เปมิกา ย้อนกลับมาหาผู้ตายและบอกว่าท้อง ทำให้ผู้ตายเครียดมาก
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพผู้ตายและ น.ส.เปมิกา กลับมาที่ห้องพักเพียง 2 คน ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กระทั่งช่วงค่ำผู้ตายเดินออกจากห้องพักไปทำธุระข้างนอก แล้วย้อนกลับเข้ามาที่ห้องพักช่วงตี 2 ของวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยไม่มีบุคคลต้องสงสัยรายอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจต้องรอสอบสวน น.ส.เปมิกา ก่อนถึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาได้
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุในเฟซบุ๊กของ น.ส.เปมิกา ได้มีการโพสต์ข้อความตัดพ้อ ประมาณว่า ฝ่ายชายทำร้ายความรู้สึกด้วยการให้ทำแท้งเพราะจะไปหมั้นกับผู้หญิงอื่น ซ้ำครอบครัวฝ่ายชายก็สนับสนุน แต่ต่อจากนี้จะไม่มีใครมาพรากเรา 3 คนพ่อแม่ลูกได้อีกต่อไป นอกจากนี้ น.ส.เปมิกา ยังมีการส่งข้อความไปลาครอบครัวผ่านทางไลน์อีกด้วย
ด้านน้องสาวผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาดูศพ ให้การว่า พี่ชายตนมีอาชีพเป็นผู้จัดการร้านอาหารอินเดีย อยู่ย่านสีลม ส่วน น.ส.เปมิกา เป็นผู้ช่วยทันตแพทย์อยู่ที่คลินิกหมอฟัน ย่านถนนเจริญราษฎร์ ทั้งคู่คบหากันประมาณ 1 ปี และเลิกกันตอนช่วงโควิด แต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันอยู่แม้จะรู้ว่า ต่างคนต่างมีคนคบหาดูใจใหม่แล้ว
โดยเฉพาะพี่ชายตน กำลังวางแผนจะหมั้นหมายกับผู้หญิงอีกคนที่คบหาอยู่ด้วย กระทั่งมาเกิดเหตุเสียก่อน ซึ่งคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากที่พี่ชายตนกับ น.ส.เปมิกา ยังตกลงเรื่องท้องไม่ได้ จึงเชื่อว่าระหว่างเกิดเหตุ พี่ชายคงดื่มเหล้าหนักจนหลับไม่ได้สติ อีกฝ่ายเลยถือโอกาสใช้มีดปักอกตัดขั้วหัวใจ ก่อนจะพยายามฆ่าตัวตายตาม ด้วยการกรีดข้อมือ และกินน้ำยารีดผ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์












