ตร. ชี้ คุย ขสมก. แล้ว ใครทำรถเมล์พัง คนนั้นจ่าย หลังเช่ารถไปขวางม็อบ จ่อเอาผิดแกนนำม็อบราษฎรสาส์น
จากกรณีที่ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
ได้ออกมาระบุว่าไม่อยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่ารถเมล์ไปขวางม็อบราษฎรสาส์น เมื่อวันที่ 8
พฤศจิกายน 2563 พร้อมระบุว่าจะเรียกค่าเสียหาย
และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเช่ารถเมล์ไปขวางม็อบ
ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : สหภาพ ขสมก. จ่อเรียกค่าเสียหาย ตร. หลังเอารถเมล์ไปขวางม็อบ ลั่นถ้าทำอีกจะฟ้อง
ล่าสุด (13 พฤศจิกายน 2563) สปริงนิวส์ รายงานว่า พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ระบุว่า จะมีการดำเนินคดีกับแกนนำการชุมนุมราษฎรสาส์น โดยจะแบ่งออกเป็น 2 คดี ดังนี้
- คดีในพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ ความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มีผู้ถูกดำเนินคดี 14 ราย
- คดีในพื้นที่ สน.ชนะสงคราม เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาด กรุงเทพมหานครได้มาแจ้งความร้องทุกข์เรียบร้อย มีผู้กระทำความผิด 3 ราย
โดยความผิด ในพื้นที่ สน.ชนะสงคราม ที่เป็นความผิด พ.ร.บ.ความสะอาด นั้น เนื่องจากมีการนำตู้ไปรษณีย์เข้ามาในพื้นที่ เมื่อดำเนินการเกี่ยวกับความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาด แล้วจะส่งพยานหลักฐานไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ตรวจสอบข้อความในจดหมาย นำไปประกอบความผิดที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ
พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวด้วยว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 ที่มีการปิดสนามบินมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 522 ล้านบาท ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำเลยทั้งหมดชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว คดีมีการวางเพลิงเผาทรัพย์อาคารพาณิชย์บริเวณแยกราชปรารภมีการฟ้องจำเลย 3 ราย ให้ชดใช้คือแกนนำที่กระทำความผิด และคดีปิด ปตท. ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลย 4 รายชดใช้เงินค่าเสียหาย 9.7 ล้านบาท ขอให้ ขสมก. ไม่ต้องกังวลปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถ ขสมก. มาใช้นั้นไม่ว่า ขสมก. จะวิ่งหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาใช้ปฏิบัติราชการ หากมีผู้หนึ่งผู้ใดนำมาใช้ให้เกิดความเสียหาย ผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตตำรวจนำมาใช้นั้น ได้พิจารณาตามความเหมาะสมแล้ว โดยเป็นหน่วยงานรัฐด้วยกันจึงประสานงานขออนุญาตนำมาใช้โดยการหารือกับ ขสมก.