ป.ป.ส. เผยคืบหน้าจับยาเค 11.5 ตัน ไม่ใช่ยาเคทั้งหมด มีสารให้นมไม่ตกตะกอนด้วย

 
          ป.ป.ส. ชี้แจงปมจับยาเค 11.5 ตัน ล็อตใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ชี้บางส่วนเป็นสารใช้ในอุตสาหกรรมนมจะทำให้นมไม่ตกตะกอน เร่งตรวจสอบกระสอบที่เหลือทั้งหมด
          จากกรณีที่มีการจับยาเคล็อตใหญ่ จำนวน 11.5 ตัน มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ที่โกดังแห่งหนึ่งใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากได้รับข้อมูลจากต่างประเทศว่าจะมีการลำเลียงมา จึงสืบข้อมูลจนทราบและยึดได้ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า คนที่เช่าโกดังเก็บยาเค เป็นชนเผ่าที่ได้รับสัญชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดชายแดนภาคเหนือ คาดว่ายังคงอยู่ในประเทศ

          อ่านข่าว : ป.ป.ส. ยึดยาเค 11.5 ตัน ล็อตใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ 30,000 ล้าน ก่อนออกนอกประเทศ

          อ่านข่าว : คืบหน้าจับยาเค ล็อตใหญ่ในประวัติศาสตร์ พบไม่เอี่ยวแก๊งค้ายาในไทย เร่งล่าใครเจ้าของกันแน่

          วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นางสาวกัญญนันท์ คงภัสนิธิโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมชี้แจงผลการตรวจสอบสารเคมีจากการจับกุมยาเคตามีนดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้น 60 กระสอบที่ตรวจพบว่าเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ใช้ในการซุกซ่อนสารเสพติดส่งออกนอกประเทศ

          โดย นายวิชัย กล่าวว่า เนื่องจากทางประเทศปลายทางได้แจ้งเรามาเมื่อวันที่ 23 กันยายน ว่าได้จับกุมสารเคมี พร้อมเคตามีน จำนวน 300 กิโลกรัม จากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว ซึ่งเขาจับกุมผู้ต้องหาและหลักฐานได้ จากนั้นได้ทำหนังสือมาถึงเราเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม เราจึงได้เริ่มสืบสวนในเรื่องของการส่งออก จนพบโกงดังสินค้าดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน


          เบื้องต้นได้ใช้น้ำยาทดสอบแล้วผลออกมาเป็นสีม่วง ซึ่งตรงกับทางไต้หวัน ที่แจ้งเรามาว่าเป็นสารแคลเซียมคาร์บอเนต จากประเทศไทย จำนวน 16 เมตริกตัน และภายในจำนวนนี้ได้มีการซุกซ่อนเคตามีนมาจำนวน 300 กิโลกรัม และอีกจำนวนได้นำเข้าโซเดียมฟอสเฟต 19.95 เมตริกตัน เจอยาเสพติดระดับ 4 ของประเทศเขาอีก 200 กิโลกรัม

          จากการสืบสวนพบว่า การนำเข้าไปที่ไต้หวันมาล็อตเดียวกับโกดังนี้ พบภายในโกดังสินค้าจำนวน 466 กระสอบ กระสอบละ 25 กิโลกรัม ซึ่งมีกระสอบที่แกะไว้จำนวน 60 กระสอบ เราได้ทดสอบเบื้องต้นปรากฏว่ามีสีม่วง หลังจากนั้นได้นำไปทดสอบภายในห้องแล็บให้ละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะกระสอบที่ยังไม่ได้แกะก็จะได้แกะทดสอบอีกครั้ง ในวันจันทร์นี้ ป.ป.ส. จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนของ บช.ปส. ทาง บช.ปส. จะทำเรื่องถึงอัยการสูงสุด จากนั้นอัยการสูงสุดจะมอบหมายให้กับอัยการ ร่วมกับตำรวจ ตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมา จากนั้นถึงจะมีการดำเนินการสอบสวนต่อ

          ขณะที่ น.ส.กัญญนันท์ กล่าวว่า วันที่ 12 พฤศจิกายน ได้ตรวจสอบไปจำนวน 60 กระสอบ พบสารไตรโซเดียมฟอสเฟต เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น หากใช้ในอุตสาหกรรมนม จะทำให้นมไม่ตกตะกอน ซึ่งใช้เป็นตัวอำพรางซุกซ่อนยาเสพติด โดยเราจะต้องตรวจทุกกระสอบ ส่วนอีก 400 กว่ากระสอบนั้น เราจะทำการตรวจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม รูปลักษณ์ภายนอกของสารดังกล่าวจะเหมือนเคตามีน