x close

ดราม่าใจสลาย เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน ทั้งที่รักกันมาก เราขอมากไป หรือเธอรักเราไม่มากพอ

          สาววัย 40 ระบายความอัดอั้น แฟนหนุ่มคบกันเกือบ 6 ปี ยอมจดทะเบียนสมรส แต่ไม่ยอมจัดงานแต่งด้วย รักกันมากแท้ ๆ สุดท้ายเลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน เราขอมากไป หรือเธอรักเราไม่มากพอ

เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน

          เพราะชีวิตจริงไม่ได้อิงนิยาย เราจึงเห็นหนุ่มสาวมากมายที่ยังเดินทางค้นหารักแท้ ตามหาใครสักคนที่จะอยู่เคียงคู่กันไปตลอด หลายคนพบที่พักพิงหัวใจแล้ว แต่หลายคนยังคงผิดหวังซ้ำ ๆ หรือแม้แต่มีเหตุผลต่าง ๆ นานาที่ทำให้คนสองคนต้องเลิกรากันไป แม้ในใจจะยังรักกันมากก็ตาม เช่นเดียวกับหญิงสาววัย 40 ปีคนนี้ เธอระบายเรื่องราวความรักของเธอกับชายคนรักวัย 45 ปี ที่รักกันโดยดีมีความสุขมาตลอด แต่สุดท้ายต้องจบลงด้วยเรื่อง "แต่งงาน"

          วันที่ 15 ธันวาคม 2563 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 6226259 ตั้งกระทู้ "เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน" เล่าความรักหวานชื่นของทั้งคู่ที่คบหาดูใจกันมา 5 ปีกว่า เกือบ 6 ปีแล้ว กระทั่งวันที่เธออยากมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ จึงตัดสินใจคุยเรื่องแต่งงานกับฝ่ายชาย ซึ่งฝ่ายชายยอมไปจดทะเบียนสมรส แต่ไม่อยากจัดงานแต่ง และไม่ยอมพาญาติผู้ใหญ่มาคุยกับที่บ้านของฝ่ายหญิง จนสุดท้ายเธอตัดสินใจคืนแหวนขอแต่งงาน และจบที่การเลิกรา...

เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน

คบกัน 5 ปี อายุถึงวัยจะแต่งงาน แต่ฝ่ายชายไม่อยากจัดงาน ขอแค่จดทะเบียนก็พอ

          ทั้งนี้ สาวคนนี้ ได้เผยประสบการณ์ความรักของเธอว่า เธออายุ 40 ปี ส่วนฝ่ายชายอายุประมาณ 45 ปี ที่ผ่านมาเรารักกัน เขาดูแลเอาใจใส่เธอดีมาก มีพาไปเที่ยวต่างจังหวัด เที่ยวต่างประเทศ เราอาจจะมีทะเลาะกันบ้าง มีงอนบ้าง แต่ไม่มีการด่าหรือลงไม้ลงมือ เขาคือคนที่มาเติมเต็มพลังในชีวิต เราคบกันมา 5 ปี และจะครบ 6 ปี ในต้นปีหน้านี้

          ในช่วง 1 ปีกว่า ๆ เธอได้ลองถามฝ่ายชายเรื่องการแต่งงาน เธออยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ อยากให้พ่อแม่ดีใจ ทำทุกอย่างให้ถูกตามประเพณี เรื่องสินสอดไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ฝ่ายชายกลับมองว่า การจัดงานแต่งงานนั้นเป็นเรื่องสิ้นเปลือง เขาพร้อมจะจดทะเบียนสมรส แต่ไม่อยากจัดงานแต่งงาน

เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน

ในที่สุด ฝ่ายชายใจอ่อนยอมผ่อนปรนบ้าง ขอแต่งงานต้นปี แต่ปลายปีไม่มีอะไรคืบหน้า

          อย่างไรก็ตาม ต่อมาฝ่ายชายเองก็ยอมผ่อนปรนบ้าง และเธอก็ให้เขาไปคุยกับที่บ้าน จนกระทั่งครึ่งปีแล้ว ฝ่ายชายก็ไม่เคยพาผู้ใหญ่มาคุยกับผู้ใหญ่ของเธอ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ฝ่ายชายได้ให้แหวนแต่งงานและขอแต่งงาน จนเธอเองก็มีความหวัง ไปดูสถานที่จัดงาน ดูชุดที่จะใส่ แต่จนปลายปี เมื่อไม่ได้เจอหน้าผู้ใหญ่ของอีกฝ่าย และทางฝ่ายชายก็ไม่พูดอะไร ประกอบกับคนรอบตัวก็ทยอยแต่งงานกันไป ก็เลยเกิดคำถามที่เธอถามตัวเองว่า ทำไมความรักของเราถึงไม่คืบหน้า

สุดท้ายฝ่ายหญิงตัดสินใจคืนแหวน พอกันทีกับการวิ่งตามความรัก

          เรื่องนี้ทำให้เธอตัดสินใจคืนแหวนแต่งงานให้กับเขาไป และบอกว่า เธอเหนื่อยที่จะวิ่งตาม รู้สึกอาย สมเพชตัวเอง ที่คิดบ้าบอไปคนเดียว ตนอยากใช้ชีวิตกับผู้ชายคนนี้ ไม่ได้อยากมีชีวิตที่หวือหวา อยากทำงานเก็บเงินด้วยกัน แต่กลับต้องมาลงเอยแบบนี้ ซึ่งพอเอาแหวนไปคืน ฝ่ายชายก็เงียบในตอนแรก และพูดว่า เขาอาจจะเป็นคนคิดอะไรแปลก ๆ จนอาจจะเหมาะกับการใช้ชีวิตคนเดียวก็ได้

          "จนวันนี้ ดิฉันไม่ไหวกับความเงียบของเขาจึงตัดสินใจโทรถามว่าตกลงจะยังไงดี ดิฉันบอกความรู้สึกดิฉันที่มีต่อเขาตลอดที่คบกัน ว่า รักเขายังไงไม่เคยเปลี่ยน เขาคือส่วนเติมเต็มความสุข และพลังให้ดิฉันก้าวต่อไปข้างหน้า วันนี้ดิฉันวิ่งตามเหนื่อยแล้ว เสียใจมากพอแล้ว พยายามที่จะยอมรับความจริง เขาเลยบอกกลับมาว่าถ้าดิฉันเหนื่อยแล้ว เขาก็ไม่ขอทำลายชีวิตดิฉันอีกต่อไป ดิฉันร้องไห้และก็ยอมรับในสิ่งที่เขาตอบมาแล้วบอกว่าจากนี้ไปดิฉันก็จะไม่เข้าไปวุ่นวายเขาอีก"

เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน

ชาวเน็ตร่วมวิเคราะห์ เราขอมากไป หรือ เธอให้ไม่ได้

          ทั้งนี้ เมื่อกระทู้ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตให้ความสนใจและร่วมแสดงความคิดเห้นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เข้าใจฝ่ายหญิงที่วาดฝันและอยากแต่งงานสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ก็อยากให้เปิดใจมองมุมฝ่ายชายบ้าง เพราะการที่เขายอมจะไปจดทะเบียนสมรสด้วย นั่นก็เป็นการยืนยันแล้วว่าเขาก็รักฝ่ายหญิงจริง ๆ แต่การที่ไม่ยอมจัดงานแต่งอาจเพราะหลายสาเหตุ เช่น เคยผ่านแต่งงานมาก่อนแล้วหรือไม่ ก่อนจะจบด้วยการเลิกรา เขาจึงคิดว่าการจัดงานแต่งสิ้นเปลืองและไม่ได้การันตีความรักมั่นคง อีกทั้งไม่อยากเชิญญาติหรือเพื่อน ๆ มางานแต่งซ้ำสอง ซึ่งก็เป็นการคาดเดาจากชาวเน็ต และอยากให้เจ้าของกระทู้เปิดใจเคลียร์กับฝ่ายชายดี ๆ อีกครั้ง

          หรือหากฝ่ายหญิงยอมลดอีโก้ต่าง ๆ ไม่จัดงานแต่ง จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส ก็คงได้ใช้ชีวิตสามีภรรยาด้วยกันอย่างมีความสุขไปแล้ว รวมถึงหลายคนคิดว่าฝ่ายชายอาจจะไม่อยากสิ้นเปลืองจริง ๆ และกลัวว่าเจ้าของกระทู้จะจัดงานใหญ่โต หากลองคุยกันเรื่องจัดงานเล็ก ๆ อาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้

          อย่างไรก็ตาม อีกด้านก็เข้าใจความรู้สึกของเจ้าของกระทู้ที่อยากให้ฝ่ายชายให้เกียรติด้วยการจัดงานแต่งและมาสู่ขอตามประเพณี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ควรเปิดใจพูดคุยกันให้มากกว่านี้ รวมถึงเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ได้กลับมารักกันอีกครั้ง

เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน

เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน

เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน

ขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 6226259

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดราม่าใจสลาย เลิกกันเพราะเรื่องแต่งงาน ทั้งที่รักกันมาก เราขอมากไป หรือเธอรักเราไม่มากพอ อัปเดตล่าสุด 17 ธันวาคม 2563 เวลา 16:15:15 43,717 อ่าน
TOP