x close

คนขายไส้กรอก กับคำขอสุดแปลกจากลูกค้าประจำ จุดเริ่มต้นของน้ำใจ ที่ช่วยเปลี่ยนชีวิต

 

                เปิดเรื่องราวชวนตื้นตัน เมื่อภรรยาของชายคนหนึ่ง ขอร้องคนขายไส้กรอก ไม่ให้ขายแก่สามีเพราะเขาป่วยโรคไต นำมาสู่การให้ที่ไม่คาดฝัน


เรื่องราวดี ๆ
แอนดริว สกุลลี่ ไวต์ กับ ทิม ฮิสค็อก
ภาพจาก Lullys Food Experience

             เรื่องราวของการให้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็นับเป็นสิ่งดี ๆ ที่ช่วยสร้างความอบอุ่นใจแก่เราได้อย่างมาก ขณะที่เมื่อไม่นานมานี้ผู้คนก็มีอันได้ตื้นตันใจกับเรื่องราวระหว่างคนขายฮอตดอกรายหนึ่ง กับลูกค้าขาประจำของเขา ที่ได้ขยับสถานะขึ้นมาเป็นผู้ให้แก่กันและกัน ในช่วงเวลาที่พวกเขาต่างต้องการความช่วยเหลือ

             - แอนดริว สกุลลี่ ไวต์ เป็นเจ้าของร้านฮอตดอก Lully?s Food Experience ซึ่งเปิดแผงอยู่ที่ลานจอดรถของร้านค้าปลีกแห่งหนึ่ง ในเมืองอับบอทส์ฟอร์ด รัฐบริติชโคลัมเบีย ของแคนาดา

             - หนึ่งในลูกค้าประจำของร้านนี้ก็คือ ทิม ฮิสค็อก เขาแวะมาซื้อไส้กรอกที่นี่มานานถึง 3 ปีแล้ว โดยเมนูโปรดของเขาก็คือไส้กรอกแฟรงค์เฟอร์เตอร์ เมนูดังของร้าน

             - ทั้งคู่มีปฏิสัมพันธ์กันในฐานะลูกค้ากับเจ้าของร้านมานาน จนกระทั่งวันที่ 8 ธันวาคม 2562 ในขณะที่ไวต์เปิดร้านของเขาตามปกติ ก็มีหญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น พร้อมคำร้องขอจากใจ

             - หญิงคนนี้ก็คือ ซินดี้ เรย์โน ภรรยาของฮิสค็อก โดยเธอขอให้ไวท์เลิกขายไส้กรอกแก่สามีของเธอ เพราะเขากำลังป่วยเป็นโรคไต และจำเป็นต้องเลี่ยงอาหารเค็ม ๆ อย่างพวกไส้กรอก

             - และสาเหตุที่เธอจำเป็นต้องมาขอร้องเขาถึงที่ เนื่องจากอาการของสามีเธอทรุดหนัก ไตของเขาใกล้จะล้มเหลว และจำเป็นต้องรับการผ่าตัดปลูกถ่ายอย่างเร่งด่วน

             - ในฐานะเจ้าของร้าน ไวต์อาจจะรับฟังคำของจากเธอหรือปล่อยผ่านไปก็ได้ แต่เขาเลือกทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง นั่นคือถามเธอทันทีว่า คนที่จะบริจาคอวัยวะได้ ต้องมีเกณฑ์ใดบ้าง และเขายินดีจะมอบไตให้ ถ้าอวัยวะของเขาเข้ากับฮิสค็อกได้


เรื่องราวดี ๆ
แอนดริว สกุลลี่ ไวต์ เจ้าของร้านฮอตดอก
ภาพจาก Lullys Food Experience

             - 2 วันต่อมา ไวต์ได้ติดต่อไปยังครอบครัวของฮิสค็อก แจ้งข่าวดีว่าผลตรวจเลือดของเขา เข้าเกณฑ์ที่สามารถจะบริจาคได้

             - หลังจากการทดสอบทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับข่าวดีในช่วงกลางเดือนมกราคม 2563 ว่าอวัยวะจากไวต์ สามารถเข้ากับผู้รับได้อย่างสมบูรณ์

             - กำหนดการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะ มีขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ซึ่งทั้งไวต์และฮิสค็อก จำเป็นต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน

             - และแล้วการผ่าตัดก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยไวต์เผยว่า 1 วันหลังการผ่าตัด เขาได้เข้าไปเยี่ยมฮิสค็อกในห้องพัก
            
             "เขามองมาทางผม มีน้ำตาเอ่ออยู่ที่ตา และเขาก็ส่งยิ้มมาให้" ไวต์ กล่าวถึงช่วงเวลานั้น ซึ่งเขาบอกได้เลยว่า เขาได้ทำในสิ่งที่ถูกแล้ว

             มันเป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยม สำหรับผมที่สามารถนำบางอย่างออกไปจากตัว ในขณะที่ผมยังมีชีวิตอยู่ และนำสิ่งนั้นไปใส่ไว้ในตัวของเขา มันช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุด" ไวต์ กล่าว

             - ทั้งนี้ ไวต์สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในเวลาไม่กี่วันหลังการผ่าตัด แต่ฮิสค็อกยังคงต้องรักษาตัวอยู่อีกสักพัก กว่าที่ทั้งคู่จะออกมาฉลองด้วยกันที่แผงขายอาหารของไวต์ได้

             - อย่างไรก็ตาม ในขณะที่น้ำใจของไวต์สามารถเปลี่ยนชีวิตของลูกค้าเขาได้ แต่ในฐานะเจ้าของกิจการ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จากการต้องปิดร้าน 14 วันก่อนผ่าตัด และยังต้องพักฟื้นอีกนาน 3 เดือน

             - ด้วยเหตุนี้ ภรรยาของฮิสค็อก จึงตัดสินใจเปิดเพจระดมทุน เพื่อเป็นอีกช่องทางในการช่วยเหลือชายผู้ที่ช่วยชีวิตสามีของเธอ ให้เขาได้พอมีเงินมาประทังชีวิตบ้าง เพื่อทดแทนรายได้ที่เสียไปจากการปิดร้าน

              - เรื่องราวของความมีน้ำใจของไวต์ กลายเป็นที่ตราตรึงใจผู้คนจำนวนมาก โดยพบว่าขณะนี้มีคนเข้ามาร่วมส่งกำลังใจ และบริจาคเงินแก่เขากว่า 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 752,000 บาท แล้ว



ขอบคุณข้อมูลจาก Global News, Go Fund Me



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คนขายไส้กรอก กับคำขอสุดแปลกจากลูกค้าประจำ จุดเริ่มต้นของน้ำใจ ที่ช่วยเปลี่ยนชีวิต อัปเดตล่าสุด 24 ธันวาคม 2563 เวลา 16:58:56 20,463 อ่าน
TOP