"เอ๋ ปารีณา" ดาวสภาปี 63 เปิดชีวิตหมดเปลือก ! ลั่นช่วยไม่ได้ ทำอะไรก็ดัง อีก 6 ปีอยากมีแฟนใหม่ ฝากถึง "น้องตี๋หัวตั้ง" เบาได้เบา !
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
รายการ ถามสุดซอย ทางเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส" วันนี้ (4 มกราคม 2564) ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "เอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์" ส.ส. จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นักการเมืองดาวสภาในปี 2563 ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในสังคมในปีที่ผ่านมา
เล่นการเมืองมากี่ปี ?
เอ๋ ปารีณา : เป็น ส.ส. มามากกว่า 15 ปีค่ะ เราตั้งใจอยากเป็นนักการเมืองเหมือนคุณพ่อ
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ?
เอ๋ ปารีณา : คุณพ่ออยากให้พี่ชายเป็น ส.ส. แต่พี่ชายไม่เอา น้องชายอายุไม่ถึง ดิฉันเลยไปขอเขาสมัครเอง ดิฉันเป็นลูกสาวคนเดียว
เริ่มต้นด้วยการประกวดนางสาวไทย ดูเหมือนคนละเรื่องกับการเมือง มันมายังไง ?
เอ๋ ปารีณา : ตอนเด็ก ๆ ไปอยู่อเมริกา ไปทำผม ก็มีคนชวนไปประกวดนางนพมาศตามวัดก็มี ใครเจอก็ชวนไปประกวด ตอนเด็ก ๆ หน้าตาดี (หัวเราะ) พอโตขึ้นใครชวนประกวดก็ไป ไปเล่น ๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
ไม่ได้อยากเข้าสู่นางงามหรือบันเทิง ?
เอ๋ ปารีณา : จริง ๆ ชอบทุกวงการ ทุกวงการมีเสน่ห์ และได้เข้ามาสัมผัสทุกวงการ ตอนเป็นนางงามไปไหนได้ตังค์ ได้เดินแฟชั่นโชว์ เพราะเป็นคนตัวสูง แต่เป็นคนไม่ขึ้นกล้อง แต่ถ้าการเมืองไปไหนจะมีแต่ค่าใช้จ่ายและเสียตังค์ นี่คือข้อแตกต่าง
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
ได้ตังค์แล้วทำไมไม่อยู่วงการ ?
เอ๋ ปารีณา : อายุปูนนี้แล้วอยู่ไม่ไหว ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ ๆ เยอะมาก สวยมาก
ตอนเข้าสู่วงการการเมือง อายุเท่าไหร่ ?
เอ๋ ปารีณา : เป็น ส.ส. สมัยแรก อายุ 28
ไม่คิดเหรอว่าการเข้าสู่วงการการเมืองจะโดนด่ามากกว่าถูกชม และงานค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะตอนหาเสียง เราอยากเล่นเพราะอะไร ?
เอ๋ ปารีณา : ก็เข้าใจ ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยและมาเล่นการเมืองด้วย จะยิ่งโดนโจมตีหนักหน่อย ถ้าเราไปยึดติดกับสังคมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากก็คงไม่ต้องทำอะไร เพราะมันต้องโดนอยู่แล้ว ตอนสมัยไม่ดังในการเมืองท้องถิ่นเล็ก ๆ ในจังหวัดดิฉัน แม้แต่นายก อบต. เวลาเขาแข่งขันกันก็สาดโคลนกันเรื่องปกติ ขนาดผู้ใหญ่บ้านยังสาดกันเลย ขุดขึ้นมา จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ด้วยระบบประชาธิปไตย ประชาชนจะเป็นคนชี้ขาดว่าเขาจะเอาใครเป็นผู้แทนราษฎรของเขา ตรงนี้เป็นอรรถรสและสีสันของการเมือง ถ้าใครที่ไปอินและเศร้าใจ เสียใจ ซีเรียส โมโหโทโสต่าง ๆ ก็ไม่ต้องเล่น แต่ถ้าเราคิดมาทำตรงนี้ คิดเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนในสภา ก็ต้องรับสภาพว่านี่คือการเมือง และการเมืองก็ต้องยอมรับว่ามันไม่สะอาด มันสกปรก แม้แต่ทุกวันนี้่ก็ยังมีคนส่งรูปโป๊ดิฉันมาให้ดู ซึ่งดิฉันก็พยายามอธิบายคนสำคัญที่สุดในชีวิตคือลูกชาย ถามว่าเชื่อไหมว่าเป็นรูปแม่ เขาก็หัวเราะ และบอกว่าแม่ไม่มีทางทำแบบนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกชาย แต่โชคดีดิฉันโตมาในสังคมแวดวงการเมือง เรื่องใส่ร้ายป้ายสีเกิดมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ
เราชิน เรารับได้แล้ว พูดง่ายๆ ?
เอ๋ ปารีณา : เรารับได้ และเราก็อยากให้ลูกรับได้ อย่างตอนดิฉันเป็นเด็ก ดิฉันเห็นภาพคนโทรศัพท์มาขู่จะฆ่าคุณพ่อ สมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์มือถือ แม่รับโทรศัพท์บ้าน คุณแม่ก็บอกคุณพ่อว่าเขาจะไม่ให้เห็นหน้าลูกและเมียภายใน 7 วัน วันนี้มาหลายสายเลย แม่เขาชิล ดิฉันเติบโตมาเห็นการข่มขู่ใส่ร้ายป้ายสี สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อ แต่ดิฉันก็ยึดมั่นว่าคุณพ่อเป็นคนดี เดินหน้าปราบคอร์รัปชันต่าง ๆ และตอนนี้ลูกชายดิฉันอายุ 10 ขวบ ก็พยายามให้เขาเข้าใจว่าคุณแม่อยู่ในจุดที่ทำงานและต้องถูกอะไรต่ออะไรเยอะ เขาก็เข้าใจ
เราเห็นธรรมเนียมแบบนี้จนปรับสภาพได้และเข้าใจแล้ว ด้านครอบครัวก่อนหน้านี้แต่งงาน มีครอบครัวก่อนมีลูกชาย ตอนนั้นครอบครัวรับได้ เข้าใจไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ตอนนั้นโซเชียลไม่แรงขนาดนี้ก็ยังมีปัญหา สามีเก่าไปอ่านเจอคอมเมนต์ แต่งงานกับไอ้เตี้ยที่เชียงใหม่อะไรแบบนี้ เขาก็โกรธดิฉันมาก ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นคนคอมเมนต์ เราก็พยายามอธิบายว่าการอยู่จุดนี้จะถูกวิจารณ์ทุกเรื่อง มันเป็นเรื่องปกติ ก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจเหมือนกัน เขาหงุดหงิดมาก แต่ก็ดีค่ะ วันนี้ก็เลิกกันไปแล้ว เขาก็ไปกับคนอื่นแล้ว (หัวเราะ) เขาก็มีความสุขของเขา
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
จุดนี้ไหมเป็นสาเหตุของการหย่าร้าง ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่น่าใช่นะคะ ดิฉันมีปัญหากับสามีมาโดยตลอด ในที่สุดก่อนดิฉันเซ็นใบหย่า มีการคลอดลูกกับคนอื่น 3 เดือนก่อนหย่ากัน ก็เป็นหลายสาเหตุที่ผู้หญิงประสบอยู่ มีปัญหาระหองระแหงกันตลอด ทะเลาะกันเยอะ
ทุกวันนี้คุยกันไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่คุยค่ะ
พอมีสีสันในสภา เขามีคอมเมนต์อะไรบ้างไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่ทราบค่ะ แต่เห็นเขามีความสุขกับครอบครัวใหม่ก็ดีใจกับเขา
ตอนนี้โสด ?
เอ๋ ปารีณา : โสดและมีลูกชายค่ะ คิดว่าอีก 5-6 ปี อยากมีแฟน ตอนนี้งานเยอะ พยายามเตรียมหาซื้อที่ดินทำฟาร์มไก่ใหม่ด้วย (หัวเราะ) ชอบเลี้ยงไก่
มีคนเข้ามาจีบไหม ?
เอ๋ ปารีณา : สมัยไม่ดังก็มีคนจีบค่ะ แต่พอดังไม่มีคนจีบแล้วค่ะ ดังปุ๊บคนไม่จีบเลย เพราะภาพมันเหมือนเราแรง คนก็จะกลัว คิดว่าแบบนั้นนะคะ
อะไรเป็นสาเหตุทำให้เราดัง ?
เอ๋ ปารีณา : วันนี้มีพื้นที่โซเชียลมีเดีย ซึ่งสมัยก่อนไม่มี พอมีโซเชียลขึ้นมาและเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงออกความคิดเห็นต่าง ๆ และการแสดงออกของดิฉันไปถูกใจคนเยอะ และไม่ถูกใจคนเยอะ ก็เกิดกระแสขึ้นมา อย่างทุกครั้งที่ไปออกรายการจะมียอดวิวสูงมาก มันเกิดจากการที่ดิฉันตอบคำถามเท่านั้นเอง
ทุกครั้งการออกความคิดเห็น มันออกมาจากความต้องการของเราโดยตรงไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ถามมาตอบไปค่ะ ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่พอเราพูดหรือโพสต์อะไรออกไป ทำให้มีคนชอบมากและเกลียดมากเท่านั้นเอง
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
แต่มีกระแสว่าคุณเอ๋ไม่ได้จบเมืองนอก ?
เอ๋ ปารีณา : เป็นกระแสโจมตีค่ะ ทุกวันนี้ยังถูกโจมตีอยู่ แต่เชื่อว่า ณ วันนั้นที่มาใหม่ ๆ คนเชื่อเยอะ ดูถูก ดูหมิ่นดูแคลนกัน ลดศักดิ์ศรี ดิสเครดิตทุกอย่าง แต่คิดว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนเริ่มแยกแยะออกแล้วว่าอะไรคือโซเชียลมีเดีย อะไรคือความบันเทิง อะไรคือเกรียนสนุกกัน และเชื่อว่าอาจมีกระบวนการด้วยหน่อย ๆ เพราะผู้ใดที่เห็นต่างก็โดนหมด ดิฉันเป็นรุ่นแรกที่โดน ประชาชนเริ่มมองเห็นแล้ว
แสดงว่าไม่จริง ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่จริง เป็นการโจมตี ดิสเครดิตกัน ดิฉันใช้วุฒินั้นในการสมัคร ส.ส. ถ้าดิฉันไม่จบก็ต้องมีปัญหา
เป็นดาวสภาในระยะที่ผ่านมา ไปเล่นติ๊กต๊อกด้วย เพราะอะไร ?
เอ๋ ปารีณา : เจอนักข่าวที่สภาบอกว่าทำไมปารีณาไม่เล่นติ๊กต๊อก ก็เลยบอกว่าเล่นไม่เป็น นักข่าวที่สภาก็สอนเลย ก็เลยโพสต์ไป คนดูเยอะ มีเต้นอันสองอัน ว่าจะเต้นเพิ่มเหมือนกันแต่ไม่มีเวลา เพิ่งจะทราบว่าพอเราลงพื้นที่ กลายเป็นเด็กเล็ก ๆ วิ่งมาขอถ่ายรูป แสดงว่าติ๊กต๊อกเด็กเล่นเยอะ แล้วก็มีคนอื่นเอาคลิปดิฉันไปตัดต่อเพื่อความบันเทิงเยอะ ดิฉันดูก็ตลกเหมือนกัน
มีคนล้อเลียนเยอะ ?
เอ๋ ปารีณา : ใช่ มีคนปลอมเป็นดิฉันเยอะ ก็สนุกดี เป็นบันเทิงไป ไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้เอาเรื่องใคร
เวลาเขาเอารูปเรามาล้อเลียน เห็นแล้วรู้สึกยังไง โกรธไหม ?
เอ๋ ปารีณา : รู้สึกว่าเป็นแค่ผู้แทนราษฎรตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่ ถ้าใครจะเอาดิฉันไปเพื่อความบันเทิงก็ไม่ได้ขัดอะไร แต่ถ้าเอาไปตัดต่อรูปโป๊ ดิฉันไม่พอใจ ถ้าเอาไปทำบันเทิงในลักษณะเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ก็ไม่เป็นไร
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
คิดไหมว่าภาพนักการเมืองไม่ควรมีภาพออกมาเต้น ร้องเพลง ออกมาในแนวบันเทิงเยอะ เพราะมันดูไม่เป็นนักการเมือง ?
เอ๋ ปารีณา : มีผู้ใหญ่ในพื้นที่ราชบุรีพูดแบบนี้เหมือนกัน เขาพูดว่าเราไม่ควรเต้นติ๊กต๊อก ไม่ควรเล่นติ๊กต๊อกด้วย ก็รับฟังได้ แต่โดยปกติกลางคืนดิฉันก็รำวงเยอะ รำวงย้อนยุค ไปเต้นรำ ไปร้องเพลงเยอะเลยค่ะ เข้าใจว่าภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถืออาจลดลงจากการที่เราไปเต้นรำ แต่มั่นใจว่าเป็นสิ่งที่ตัดสินใจและน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว
บุคลิกลักษณะนิสัยโดยเฉพาะการออกมาตอบโต้ แสดงความคิดเห็นหลายเรื่อง เราตั้งใจสร้างภาพของเราให้เกิดขึ้นในสังคม ในสภาไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่ได้ตั้งใจ เพราะอย่าลืมว่าผู้แทนราษฎรของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในเฟซบุ๊กเหมือนกันเลย ฝ่ายค้านก็ด่าฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลก็ด่าฝ่ายค้าน แต่สังเกตอย่างหนึ่ง ดิฉันก็มีพฤติกรรมเดียวกันกับเฟซบุ๊กสองฟากฝั่ง แต่ประชาชนอาจให้ความสนใจดิฉันเยอะแค่นั้นเอง
คิดว่าเพราะอะไร ?
เอ๋ ปารีณา : เพราะถูกใจและไม่ชอบใจ แต่คนอื่นก็โพสต์กันทั้งวันเหมือนกัน
บางคนอาจมองว่าเราเหมือนตัวตลก ติ๊งต๊อง ไม่เต็ม เคยได้ยินแบบนี้ไหม ?
เอ๋ ปารีณา : เคยค่ะ มดดำก็พูดอยู่ค่ะ เรื่องตลก ดิฉันเป็นคนตลกจริง ๆ
เขาไม่ได้มองในเรื่องคนเอนเตอร์เทน แต่เขามองเราเป็นตัวตลก ?
เอ๋ ปารีณา : ก็เป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าดิฉันติ๊งต๊องจริง ใครจะมาเลือกดิฉัน ใครจะให้ความสนใจขนาดนี้ เพราะทุกคำพูดถ้าดูในสิ่งที่ดิฉันพูดหรือโพสต์ มันมีความหมาย มีสิ่งที่พยายามสื่อสารให้พี่น้องประชาชนทราบ แต่อาจแฝงด้วยมุกตลกเข้าไปเล็กน้อยด้วยลักษณะนิสัย
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
พูดไปพูดมาเหมือนวกไปวนมา พูดไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้เรื่อง อันนั้นตั้งใจ ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่ได้ตั้งใจ เป็นเรื่องที่พยายามแก้ไขอยู่ ขนาดพูดกับลูกชายเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดิฉัน พูดภาษาอังกฤษ-ไทยก็ไม่เข้าใจ เขาว่าคุณแม่เข้าใจยาก (หัวเราะ) พยายามแก้ไขอยู่ อาจจะเป็นเพราะบางวันพักผ่อนน้อยจริง ๆ ดิฉันเป็นคนงานเยอะมาก ๆ เพราะทำงานในสภาและนอกสภา นอกจากรับเรื่องร้องเรียนพี่น้องในพื้นที่แล้ว ทั่วประเทศก็มาร้องเรียน วินมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศไทยก็มาร้องเรียนดิฉัน ถูกอิทธิพลทำร้ายร่างกาย ยึดวินคืนก็มาร้องเรียน รถตู้ไม่ได้รับการเยียวยาอะไรต่าง ๆ ก็มาช่วยกันหาทางออกในสภา ดิฉันรับเรื่องทั่วแผ่นดินเลยค่ะ และตอนนี้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย เน้นเลี้ยงดูด้วยตนเอง
มีหลายบทบาทหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ?
เอ๋ ปารีณา : ใช่ค่ะ ดิฉันงานเยอะจริง ๆ พักผ่อนน้อย ก็ยอมรับว่าบางวันอาจจะเบลอค่ะ การพูดไม่รู้เรื่องบางครั้งก็ไม่รู้เรื่องจริง ๆ อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้งว่าดิฉันก็พูดไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ)
คดีความก็เยอะ มีกี่คดีที่ยังไม่จบ ?
เอ๋ ปารีณา : มีคดีอาวุธสงคราม ฟาร์มไก่ และคดีหมิ่นประมาทต่าง ๆ หมิ่นประมาทประมาณ 4 คดี มีทั้งเขาฟ้องเราและเราฟ้องเขา
เบื่อไหม เวลาเป็นคดีความเยอะ ๆ หรือกลัวไหม ?
เอ๋ ปารีณา : เฉย ๆ ค่ะ เป็นระบบกล่าวหา ว่ากันที่ศาลได้
เคยคิดไหมหรือสงบปากสงบคำลงหน่อยเพื่อให้มีคดีความน้อยลงหน่อย จะได้ไปอยู่กับลูกมากขึ้น ?
เอ๋ ปารีณา : ถ้าสงบปากสงบคำเพื่อให้คดีน้อยลงมันไม่จำเป็น เพราะเป็นระบบกล่าวหา ต่อให้สงบปากสงบคำคนก็กล่าวหาได้ เป็นกฎหมายไทยอยู่แล้ว ไปว่ากันที่ศาลเลย แต่สำหรับลูกชาย ดิฉันมีเวลาให้ลูกเยอะ สิ่งแรกที่กลับไปคือต้องทานข้าวกับลูกและเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน มั่นใจว่าลูกดิฉันเป็นเด็กแฮปปี้ ขี้เล่นเหมือนดิฉันเป๊ะเลย
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
ลูกโดนบูลลี่บ้างไหม พอคนรู้ว่าคุณแม่คือคุณเอ๋ ?
เอ๋ ปารีณา : ยังไม่ปรากฏ ณ ตอนนี้ แต่มีเขาโทรศัพท์เล่นเกมกับเพื่อน ดิฉันไปคุยกับเขาด้วย เขาเปิดโฟน ถามว่าเขากินอะไรตัวสูง แล้วแม่เขาได้ยินก็มาบอกว่าสู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ เชื่อว่าการถูกบูลลี่ ตัวดิฉันในโซเชียลเป็นแค่คนกลุ่มเดิม กลุ่มเล็ก ๆ ดิฉันเชื่อว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่อยู่ฝั่งเดียวกับดิฉันค่ะ
ลูกชายเข้าใจไหม ?
เอ๋ ปารีณา : เข้าใจค่ะ เคยลองถามเขาดูเล่น ๆ เหมือนกัน เขาก็ยืนข้างแม่เขาตลอด ดิฉันเลี้ยงลูกด้วยตนเองและเลี้ยงใกล้ชิดมาก ดิฉันมั่นใจว่าเขาไม่มีปัญหากับเรื่องนี้
สอนลูกยังไงในการดำเนินชีวิต หรือการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ?
เอ๋ ปารีณา : ดิฉันจะบอกให้ลูกชายเป็นตัวของตัวเองและให้ฟังแม่ที่สุดของชีวิต เพราะดิฉันไม่ถูกต้องทุกอย่าง แต่เป็นคนที่ปรารถนาดีที่สุดกับลูก ดังนั้นแนะนำไปให้รับฟังด้วย และคิดยังไงให้โต้ตอบกลับมา เราสัญญากันว่าจะให้เกียรติกัน ถ้าดิฉันจะกลับบ้านดึกก็ต้องขออนุญาต ถ้าเขาไปไหนต้องขออนุญาต ดิฉันจะกินอะไรก็ต้องขออนุญาต เขาจะเป็นเหมือนเพื่อนกัน ดูแลกัน
มีหลายคนบอกว่าพอมีกระแสการเมืองที่ร้อนแรง คุณเอ๋ออกมาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นเสมอ เป็นหน้าที่ของเราหรือเปล่า ?
เอ๋ ปารีณา : มันไม่เกี่ยวค่ะ มันดังจริง ๆ ทำอะไรก็ดังไปหมด ก็ช่วยไม่ได้ ไม่ได้มีเจตนา สื่อเขาทำเอง ดิฉันไม่ได้มีเจตนา แล้วบางประเด็นโพสต์ไป สาระเยอะหน่อยก็ไม่ได้พื้นที่ แต่สื่อสนใจในประเด็นอะไรแบบนั้น
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
เรารู้เลยออกมาตรงนี้แหละเพื่อดึงความสนใจ ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่มีเจตนาจริง ๆ ค่ะ เป็นไปตามธรรมชาติทั้งหมด เป็นคนชอบอ่านข่าว เห็นข่าวอะไรก็โพสต์ ๆ โพสต์ไปโพสต์มาสื่อรวมตัวจับประเด็นนี้เล่นกันเอง
คนชอบกับคนไม่ชอบ คิดว่าอย่างไหนมากกว่ากัน ?
เอ๋ ปารีณา : ไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่ก็ไม่มีอะไร มีคนให้กำลังใจเยอะ
คิดว่าจะเป็นนักการเมืองไปถึงเมื่อไหร่ ?
เอ๋ ปารีณา : ก็เป็นไปเรื่อย ๆ ค่ะ พยายามทำให้ดีที่สุดทุกวัน
นอกจากการเมือง มีการมองอาชีพอื่น ๆ ไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ตอนนี้เหลือวัว ก็เลี้ยงวัวอยู่ ฝากไว้ตามบ้านเพื่อนค่ะ วัวมหาศาล 500 ตัว เยอะมาก ก็ฝากเพื่อน ๆ ดูแลอยู่
ถ้าไม่ทำการเมืองจะทำอะไร จะเลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ ?
เอ๋ ปารีณา : ค่ะ ดิฉันชอบอาชีพนี้ มันสนุกดีค่ะ อยากเป็นเกษตรกรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ และพ่วงนักการเมืองด้วย เพราะเราเป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่
ปี 2564 มองสถานการณ์บ้านเมืองประเทศเรายังไง ?
เอ๋ ปารีณา : ก็หวังว่าจะดีขึ้นจากปีที่แล้ว ต้องให้กำลังใจ พลเอก ประยุทธ์ ในการแก้ไขปัญหาโควิดต่อ โควิดที่เกิดขึ้นครั้งใหม่ ถ้าย้อนไปดูเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ศิริราชออกมาเตือนแล้วว่าโควิดรอบใหม่กำลังจะมาถึง เพราะโควิดรอบใหม่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว และก็เป็นตามนั้นจริง ๆ ขณะเดียวกันเชื่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จะพาประเทศในการก้าวพ้นโควิดรอบใหม่ได้ และพาพวกเราผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ด้วย เพราะพี่น้องได้รับผลกระทบในรอบนี้เยอะ การเยียวยาออกมาใช้เงินต่าง ๆ ก็ได้ผลดีจริง ๆ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน
ปารีณา กล่าวด้วยว่า ส่วนน้องตี๋หัวตั้งอยากให้เบา ๆ หน่อย เพราะพี่น้องประชาชนตั้งจิตอธิษฐานอยากให้เขาติดคุก ทั้งแม่และน้องชายและเขาด้วย เพราะจะทำให้บ้านเมืองหมดความวุ่นวายและร่มเย็นเหมือนที่เคยเป็นมา ไม่มีคนไปปั่นเยาวชนให้ออกมาด่าคนโน้นคนนี้ บ้านเมืองก็จะดีขึ้น อยากให้ปี 2564 บ้านเมืองสงบสุข
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
รายการ ถามสุดซอย ทางเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส" วันนี้ (4 มกราคม 2564) ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "เอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์" ส.ส. จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นักการเมืองดาวสภาในปี 2563 ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในสังคมในปีที่ผ่านมา
เล่นการเมืองมากี่ปี ?
เอ๋ ปารีณา : เป็น ส.ส. มามากกว่า 15 ปีค่ะ เราตั้งใจอยากเป็นนักการเมืองเหมือนคุณพ่อ
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ?
เอ๋ ปารีณา : คุณพ่ออยากให้พี่ชายเป็น ส.ส. แต่พี่ชายไม่เอา น้องชายอายุไม่ถึง ดิฉันเลยไปขอเขาสมัครเอง ดิฉันเป็นลูกสาวคนเดียว
เริ่มต้นด้วยการประกวดนางสาวไทย ดูเหมือนคนละเรื่องกับการเมือง มันมายังไง ?
เอ๋ ปารีณา : ตอนเด็ก ๆ ไปอยู่อเมริกา ไปทำผม ก็มีคนชวนไปประกวดนางนพมาศตามวัดก็มี ใครเจอก็ชวนไปประกวด ตอนเด็ก ๆ หน้าตาดี (หัวเราะ) พอโตขึ้นใครชวนประกวดก็ไป ไปเล่น ๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
ไม่ได้อยากเข้าสู่นางงามหรือบันเทิง ?
เอ๋ ปารีณา : จริง ๆ ชอบทุกวงการ ทุกวงการมีเสน่ห์ และได้เข้ามาสัมผัสทุกวงการ ตอนเป็นนางงามไปไหนได้ตังค์ ได้เดินแฟชั่นโชว์ เพราะเป็นคนตัวสูง แต่เป็นคนไม่ขึ้นกล้อง แต่ถ้าการเมืองไปไหนจะมีแต่ค่าใช้จ่ายและเสียตังค์ นี่คือข้อแตกต่าง
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
ได้ตังค์แล้วทำไมไม่อยู่วงการ ?
เอ๋ ปารีณา : อายุปูนนี้แล้วอยู่ไม่ไหว ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ ๆ เยอะมาก สวยมาก
ตอนเข้าสู่วงการการเมือง อายุเท่าไหร่ ?
เอ๋ ปารีณา : เป็น ส.ส. สมัยแรก อายุ 28
ไม่คิดเหรอว่าการเข้าสู่วงการการเมืองจะโดนด่ามากกว่าถูกชม และงานค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะตอนหาเสียง เราอยากเล่นเพราะอะไร ?
เอ๋ ปารีณา : ก็เข้าใจ ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยและมาเล่นการเมืองด้วย จะยิ่งโดนโจมตีหนักหน่อย ถ้าเราไปยึดติดกับสังคมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากก็คงไม่ต้องทำอะไร เพราะมันต้องโดนอยู่แล้ว ตอนสมัยไม่ดังในการเมืองท้องถิ่นเล็ก ๆ ในจังหวัดดิฉัน แม้แต่นายก อบต. เวลาเขาแข่งขันกันก็สาดโคลนกันเรื่องปกติ ขนาดผู้ใหญ่บ้านยังสาดกันเลย ขุดขึ้นมา จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ด้วยระบบประชาธิปไตย ประชาชนจะเป็นคนชี้ขาดว่าเขาจะเอาใครเป็นผู้แทนราษฎรของเขา ตรงนี้เป็นอรรถรสและสีสันของการเมือง ถ้าใครที่ไปอินและเศร้าใจ เสียใจ ซีเรียส โมโหโทโสต่าง ๆ ก็ไม่ต้องเล่น แต่ถ้าเราคิดมาทำตรงนี้ คิดเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนในสภา ก็ต้องรับสภาพว่านี่คือการเมือง และการเมืองก็ต้องยอมรับว่ามันไม่สะอาด มันสกปรก แม้แต่ทุกวันนี้่ก็ยังมีคนส่งรูปโป๊ดิฉันมาให้ดู ซึ่งดิฉันก็พยายามอธิบายคนสำคัญที่สุดในชีวิตคือลูกชาย ถามว่าเชื่อไหมว่าเป็นรูปแม่ เขาก็หัวเราะ และบอกว่าแม่ไม่มีทางทำแบบนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกชาย แต่โชคดีดิฉันโตมาในสังคมแวดวงการเมือง เรื่องใส่ร้ายป้ายสีเกิดมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ
เราชิน เรารับได้แล้ว พูดง่ายๆ ?
เอ๋ ปารีณา : เรารับได้ และเราก็อยากให้ลูกรับได้ อย่างตอนดิฉันเป็นเด็ก ดิฉันเห็นภาพคนโทรศัพท์มาขู่จะฆ่าคุณพ่อ สมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์มือถือ แม่รับโทรศัพท์บ้าน คุณแม่ก็บอกคุณพ่อว่าเขาจะไม่ให้เห็นหน้าลูกและเมียภายใน 7 วัน วันนี้มาหลายสายเลย แม่เขาชิล ดิฉันเติบโตมาเห็นการข่มขู่ใส่ร้ายป้ายสี สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อ แต่ดิฉันก็ยึดมั่นว่าคุณพ่อเป็นคนดี เดินหน้าปราบคอร์รัปชันต่าง ๆ และตอนนี้ลูกชายดิฉันอายุ 10 ขวบ ก็พยายามให้เขาเข้าใจว่าคุณแม่อยู่ในจุดที่ทำงานและต้องถูกอะไรต่ออะไรเยอะ เขาก็เข้าใจ
เราเห็นธรรมเนียมแบบนี้จนปรับสภาพได้และเข้าใจแล้ว ด้านครอบครัวก่อนหน้านี้แต่งงาน มีครอบครัวก่อนมีลูกชาย ตอนนั้นครอบครัวรับได้ เข้าใจไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ตอนนั้นโซเชียลไม่แรงขนาดนี้ก็ยังมีปัญหา สามีเก่าไปอ่านเจอคอมเมนต์ แต่งงานกับไอ้เตี้ยที่เชียงใหม่อะไรแบบนี้ เขาก็โกรธดิฉันมาก ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นคนคอมเมนต์ เราก็พยายามอธิบายว่าการอยู่จุดนี้จะถูกวิจารณ์ทุกเรื่อง มันเป็นเรื่องปกติ ก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจเหมือนกัน เขาหงุดหงิดมาก แต่ก็ดีค่ะ วันนี้ก็เลิกกันไปแล้ว เขาก็ไปกับคนอื่นแล้ว (หัวเราะ) เขาก็มีความสุขของเขา
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
จุดนี้ไหมเป็นสาเหตุของการหย่าร้าง ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่น่าใช่นะคะ ดิฉันมีปัญหากับสามีมาโดยตลอด ในที่สุดก่อนดิฉันเซ็นใบหย่า มีการคลอดลูกกับคนอื่น 3 เดือนก่อนหย่ากัน ก็เป็นหลายสาเหตุที่ผู้หญิงประสบอยู่ มีปัญหาระหองระแหงกันตลอด ทะเลาะกันเยอะ
ทุกวันนี้คุยกันไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่คุยค่ะ
พอมีสีสันในสภา เขามีคอมเมนต์อะไรบ้างไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่ทราบค่ะ แต่เห็นเขามีความสุขกับครอบครัวใหม่ก็ดีใจกับเขา
ตอนนี้โสด ?
เอ๋ ปารีณา : โสดและมีลูกชายค่ะ คิดว่าอีก 5-6 ปี อยากมีแฟน ตอนนี้งานเยอะ พยายามเตรียมหาซื้อที่ดินทำฟาร์มไก่ใหม่ด้วย (หัวเราะ) ชอบเลี้ยงไก่
มีคนเข้ามาจีบไหม ?
เอ๋ ปารีณา : สมัยไม่ดังก็มีคนจีบค่ะ แต่พอดังไม่มีคนจีบแล้วค่ะ ดังปุ๊บคนไม่จีบเลย เพราะภาพมันเหมือนเราแรง คนก็จะกลัว คิดว่าแบบนั้นนะคะ
อะไรเป็นสาเหตุทำให้เราดัง ?
เอ๋ ปารีณา : วันนี้มีพื้นที่โซเชียลมีเดีย ซึ่งสมัยก่อนไม่มี พอมีโซเชียลขึ้นมาและเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงออกความคิดเห็นต่าง ๆ และการแสดงออกของดิฉันไปถูกใจคนเยอะ และไม่ถูกใจคนเยอะ ก็เกิดกระแสขึ้นมา อย่างทุกครั้งที่ไปออกรายการจะมียอดวิวสูงมาก มันเกิดจากการที่ดิฉันตอบคำถามเท่านั้นเอง
ทุกครั้งการออกความคิดเห็น มันออกมาจากความต้องการของเราโดยตรงไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ถามมาตอบไปค่ะ ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่พอเราพูดหรือโพสต์อะไรออกไป ทำให้มีคนชอบมากและเกลียดมากเท่านั้นเอง
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
แต่มีกระแสว่าคุณเอ๋ไม่ได้จบเมืองนอก ?
เอ๋ ปารีณา : เป็นกระแสโจมตีค่ะ ทุกวันนี้ยังถูกโจมตีอยู่ แต่เชื่อว่า ณ วันนั้นที่มาใหม่ ๆ คนเชื่อเยอะ ดูถูก ดูหมิ่นดูแคลนกัน ลดศักดิ์ศรี ดิสเครดิตทุกอย่าง แต่คิดว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนเริ่มแยกแยะออกแล้วว่าอะไรคือโซเชียลมีเดีย อะไรคือความบันเทิง อะไรคือเกรียนสนุกกัน และเชื่อว่าอาจมีกระบวนการด้วยหน่อย ๆ เพราะผู้ใดที่เห็นต่างก็โดนหมด ดิฉันเป็นรุ่นแรกที่โดน ประชาชนเริ่มมองเห็นแล้ว
แสดงว่าไม่จริง ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่จริง เป็นการโจมตี ดิสเครดิตกัน ดิฉันใช้วุฒินั้นในการสมัคร ส.ส. ถ้าดิฉันไม่จบก็ต้องมีปัญหา
เป็นดาวสภาในระยะที่ผ่านมา ไปเล่นติ๊กต๊อกด้วย เพราะอะไร ?
เอ๋ ปารีณา : เจอนักข่าวที่สภาบอกว่าทำไมปารีณาไม่เล่นติ๊กต๊อก ก็เลยบอกว่าเล่นไม่เป็น นักข่าวที่สภาก็สอนเลย ก็เลยโพสต์ไป คนดูเยอะ มีเต้นอันสองอัน ว่าจะเต้นเพิ่มเหมือนกันแต่ไม่มีเวลา เพิ่งจะทราบว่าพอเราลงพื้นที่ กลายเป็นเด็กเล็ก ๆ วิ่งมาขอถ่ายรูป แสดงว่าติ๊กต๊อกเด็กเล่นเยอะ แล้วก็มีคนอื่นเอาคลิปดิฉันไปตัดต่อเพื่อความบันเทิงเยอะ ดิฉันดูก็ตลกเหมือนกัน
มีคนล้อเลียนเยอะ ?
เอ๋ ปารีณา : ใช่ มีคนปลอมเป็นดิฉันเยอะ ก็สนุกดี เป็นบันเทิงไป ไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้เอาเรื่องใคร
เวลาเขาเอารูปเรามาล้อเลียน เห็นแล้วรู้สึกยังไง โกรธไหม ?
เอ๋ ปารีณา : รู้สึกว่าเป็นแค่ผู้แทนราษฎรตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่ ถ้าใครจะเอาดิฉันไปเพื่อความบันเทิงก็ไม่ได้ขัดอะไร แต่ถ้าเอาไปตัดต่อรูปโป๊ ดิฉันไม่พอใจ ถ้าเอาไปทำบันเทิงในลักษณะเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ก็ไม่เป็นไร
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
คิดไหมว่าภาพนักการเมืองไม่ควรมีภาพออกมาเต้น ร้องเพลง ออกมาในแนวบันเทิงเยอะ เพราะมันดูไม่เป็นนักการเมือง ?
เอ๋ ปารีณา : มีผู้ใหญ่ในพื้นที่ราชบุรีพูดแบบนี้เหมือนกัน เขาพูดว่าเราไม่ควรเต้นติ๊กต๊อก ไม่ควรเล่นติ๊กต๊อกด้วย ก็รับฟังได้ แต่โดยปกติกลางคืนดิฉันก็รำวงเยอะ รำวงย้อนยุค ไปเต้นรำ ไปร้องเพลงเยอะเลยค่ะ เข้าใจว่าภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถืออาจลดลงจากการที่เราไปเต้นรำ แต่มั่นใจว่าเป็นสิ่งที่ตัดสินใจและน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว
บุคลิกลักษณะนิสัยโดยเฉพาะการออกมาตอบโต้ แสดงความคิดเห็นหลายเรื่อง เราตั้งใจสร้างภาพของเราให้เกิดขึ้นในสังคม ในสภาไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่ได้ตั้งใจ เพราะอย่าลืมว่าผู้แทนราษฎรของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในเฟซบุ๊กเหมือนกันเลย ฝ่ายค้านก็ด่าฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลก็ด่าฝ่ายค้าน แต่สังเกตอย่างหนึ่ง ดิฉันก็มีพฤติกรรมเดียวกันกับเฟซบุ๊กสองฟากฝั่ง แต่ประชาชนอาจให้ความสนใจดิฉันเยอะแค่นั้นเอง
คิดว่าเพราะอะไร ?
เอ๋ ปารีณา : เพราะถูกใจและไม่ชอบใจ แต่คนอื่นก็โพสต์กันทั้งวันเหมือนกัน
บางคนอาจมองว่าเราเหมือนตัวตลก ติ๊งต๊อง ไม่เต็ม เคยได้ยินแบบนี้ไหม ?
เอ๋ ปารีณา : เคยค่ะ มดดำก็พูดอยู่ค่ะ เรื่องตลก ดิฉันเป็นคนตลกจริง ๆ
เขาไม่ได้มองในเรื่องคนเอนเตอร์เทน แต่เขามองเราเป็นตัวตลก ?
เอ๋ ปารีณา : ก็เป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าดิฉันติ๊งต๊องจริง ใครจะมาเลือกดิฉัน ใครจะให้ความสนใจขนาดนี้ เพราะทุกคำพูดถ้าดูในสิ่งที่ดิฉันพูดหรือโพสต์ มันมีความหมาย มีสิ่งที่พยายามสื่อสารให้พี่น้องประชาชนทราบ แต่อาจแฝงด้วยมุกตลกเข้าไปเล็กน้อยด้วยลักษณะนิสัย
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
พูดไปพูดมาเหมือนวกไปวนมา พูดไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้เรื่อง อันนั้นตั้งใจ ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่ได้ตั้งใจ เป็นเรื่องที่พยายามแก้ไขอยู่ ขนาดพูดกับลูกชายเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดิฉัน พูดภาษาอังกฤษ-ไทยก็ไม่เข้าใจ เขาว่าคุณแม่เข้าใจยาก (หัวเราะ) พยายามแก้ไขอยู่ อาจจะเป็นเพราะบางวันพักผ่อนน้อยจริง ๆ ดิฉันเป็นคนงานเยอะมาก ๆ เพราะทำงานในสภาและนอกสภา นอกจากรับเรื่องร้องเรียนพี่น้องในพื้นที่แล้ว ทั่วประเทศก็มาร้องเรียน วินมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศไทยก็มาร้องเรียนดิฉัน ถูกอิทธิพลทำร้ายร่างกาย ยึดวินคืนก็มาร้องเรียน รถตู้ไม่ได้รับการเยียวยาอะไรต่าง ๆ ก็มาช่วยกันหาทางออกในสภา ดิฉันรับเรื่องทั่วแผ่นดินเลยค่ะ และตอนนี้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย เน้นเลี้ยงดูด้วยตนเอง
มีหลายบทบาทหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ?
เอ๋ ปารีณา : ใช่ค่ะ ดิฉันงานเยอะจริง ๆ พักผ่อนน้อย ก็ยอมรับว่าบางวันอาจจะเบลอค่ะ การพูดไม่รู้เรื่องบางครั้งก็ไม่รู้เรื่องจริง ๆ อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้งว่าดิฉันก็พูดไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ)
คดีความก็เยอะ มีกี่คดีที่ยังไม่จบ ?
เอ๋ ปารีณา : มีคดีอาวุธสงคราม ฟาร์มไก่ และคดีหมิ่นประมาทต่าง ๆ หมิ่นประมาทประมาณ 4 คดี มีทั้งเขาฟ้องเราและเราฟ้องเขา
เบื่อไหม เวลาเป็นคดีความเยอะ ๆ หรือกลัวไหม ?
เอ๋ ปารีณา : เฉย ๆ ค่ะ เป็นระบบกล่าวหา ว่ากันที่ศาลได้
เคยคิดไหมหรือสงบปากสงบคำลงหน่อยเพื่อให้มีคดีความน้อยลงหน่อย จะได้ไปอยู่กับลูกมากขึ้น ?
เอ๋ ปารีณา : ถ้าสงบปากสงบคำเพื่อให้คดีน้อยลงมันไม่จำเป็น เพราะเป็นระบบกล่าวหา ต่อให้สงบปากสงบคำคนก็กล่าวหาได้ เป็นกฎหมายไทยอยู่แล้ว ไปว่ากันที่ศาลเลย แต่สำหรับลูกชาย ดิฉันมีเวลาให้ลูกเยอะ สิ่งแรกที่กลับไปคือต้องทานข้าวกับลูกและเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน มั่นใจว่าลูกดิฉันเป็นเด็กแฮปปี้ ขี้เล่นเหมือนดิฉันเป๊ะเลย
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
ลูกโดนบูลลี่บ้างไหม พอคนรู้ว่าคุณแม่คือคุณเอ๋ ?
เอ๋ ปารีณา : ยังไม่ปรากฏ ณ ตอนนี้ แต่มีเขาโทรศัพท์เล่นเกมกับเพื่อน ดิฉันไปคุยกับเขาด้วย เขาเปิดโฟน ถามว่าเขากินอะไรตัวสูง แล้วแม่เขาได้ยินก็มาบอกว่าสู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ เชื่อว่าการถูกบูลลี่ ตัวดิฉันในโซเชียลเป็นแค่คนกลุ่มเดิม กลุ่มเล็ก ๆ ดิฉันเชื่อว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่อยู่ฝั่งเดียวกับดิฉันค่ะ
ลูกชายเข้าใจไหม ?
เอ๋ ปารีณา : เข้าใจค่ะ เคยลองถามเขาดูเล่น ๆ เหมือนกัน เขาก็ยืนข้างแม่เขาตลอด ดิฉันเลี้ยงลูกด้วยตนเองและเลี้ยงใกล้ชิดมาก ดิฉันมั่นใจว่าเขาไม่มีปัญหากับเรื่องนี้
สอนลูกยังไงในการดำเนินชีวิต หรือการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ?
เอ๋ ปารีณา : ดิฉันจะบอกให้ลูกชายเป็นตัวของตัวเองและให้ฟังแม่ที่สุดของชีวิต เพราะดิฉันไม่ถูกต้องทุกอย่าง แต่เป็นคนที่ปรารถนาดีที่สุดกับลูก ดังนั้นแนะนำไปให้รับฟังด้วย และคิดยังไงให้โต้ตอบกลับมา เราสัญญากันว่าจะให้เกียรติกัน ถ้าดิฉันจะกลับบ้านดึกก็ต้องขออนุญาต ถ้าเขาไปไหนต้องขออนุญาต ดิฉันจะกินอะไรก็ต้องขออนุญาต เขาจะเป็นเหมือนเพื่อนกัน ดูแลกัน
มีหลายคนบอกว่าพอมีกระแสการเมืองที่ร้อนแรง คุณเอ๋ออกมาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นเสมอ เป็นหน้าที่ของเราหรือเปล่า ?
เอ๋ ปารีณา : มันไม่เกี่ยวค่ะ มันดังจริง ๆ ทำอะไรก็ดังไปหมด ก็ช่วยไม่ได้ ไม่ได้มีเจตนา สื่อเขาทำเอง ดิฉันไม่ได้มีเจตนา แล้วบางประเด็นโพสต์ไป สาระเยอะหน่อยก็ไม่ได้พื้นที่ แต่สื่อสนใจในประเด็นอะไรแบบนั้น
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย
เรารู้เลยออกมาตรงนี้แหละเพื่อดึงความสนใจ ?
เอ๋ ปารีณา : ไม่มีเจตนาจริง ๆ ค่ะ เป็นไปตามธรรมชาติทั้งหมด เป็นคนชอบอ่านข่าว เห็นข่าวอะไรก็โพสต์ ๆ โพสต์ไปโพสต์มาสื่อรวมตัวจับประเด็นนี้เล่นกันเอง
คนชอบกับคนไม่ชอบ คิดว่าอย่างไหนมากกว่ากัน ?
เอ๋ ปารีณา : ไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่ก็ไม่มีอะไร มีคนให้กำลังใจเยอะ
คิดว่าจะเป็นนักการเมืองไปถึงเมื่อไหร่ ?
เอ๋ ปารีณา : ก็เป็นไปเรื่อย ๆ ค่ะ พยายามทำให้ดีที่สุดทุกวัน
นอกจากการเมือง มีการมองอาชีพอื่น ๆ ไหม ?
เอ๋ ปารีณา : ตอนนี้เหลือวัว ก็เลี้ยงวัวอยู่ ฝากไว้ตามบ้านเพื่อนค่ะ วัวมหาศาล 500 ตัว เยอะมาก ก็ฝากเพื่อน ๆ ดูแลอยู่
ถ้าไม่ทำการเมืองจะทำอะไร จะเลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ ?
เอ๋ ปารีณา : ค่ะ ดิฉันชอบอาชีพนี้ มันสนุกดีค่ะ อยากเป็นเกษตรกรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ และพ่วงนักการเมืองด้วย เพราะเราเป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่
ปี 2564 มองสถานการณ์บ้านเมืองประเทศเรายังไง ?
เอ๋ ปารีณา : ก็หวังว่าจะดีขึ้นจากปีที่แล้ว ต้องให้กำลังใจ พลเอก ประยุทธ์ ในการแก้ไขปัญหาโควิดต่อ โควิดที่เกิดขึ้นครั้งใหม่ ถ้าย้อนไปดูเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ศิริราชออกมาเตือนแล้วว่าโควิดรอบใหม่กำลังจะมาถึง เพราะโควิดรอบใหม่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว และก็เป็นตามนั้นจริง ๆ ขณะเดียวกันเชื่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จะพาประเทศในการก้าวพ้นโควิดรอบใหม่ได้ และพาพวกเราผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ด้วย เพราะพี่น้องได้รับผลกระทบในรอบนี้เยอะ การเยียวยาออกมาใช้เงินต่าง ๆ ก็ได้ผลดีจริง ๆ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน
ปารีณา กล่าวด้วยว่า ส่วนน้องตี๋หัวตั้งอยากให้เบา ๆ หน่อย เพราะพี่น้องประชาชนตั้งจิตอธิษฐานอยากให้เขาติดคุก ทั้งแม่และน้องชายและเขาด้วย เพราะจะทำให้บ้านเมืองหมดความวุ่นวายและร่มเย็นเหมือนที่เคยเป็นมา ไม่มีคนไปปั่นเยาวชนให้ออกมาด่าคนโน้นคนนี้ บ้านเมืองก็จะดีขึ้น อยากให้ปี 2564 บ้านเมืองสงบสุข
ภาพจาก รายการ ถามสุดซอย