หนุ่มอเมริกันถูกจับ หลังแอบอยู่ในสนามบินนาน 3 เดือน ไม่มีคนรู้ อ้างกลัวโควิด 19 ไม่กล้าบินกลับบ้าน อาศัยกินอาหารที่ผู้โดยสารให้

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
- ซิงห์แอบอาศัยอยู่ในสนามบินนานาชาติโอแฮร์ เป็นเวลานานถึง 3 เดือน โดยไม่มีใครสังเกตเห็น และอาจจะนานกว่านั้น หากเจ้าหน้าที่ไม่ไปพบตัวเขาเสียก่อน
- เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา พนักงานของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ 2 คน ไปพบซิงห์อยู่ในพื้นที่จำกัดของสนามบิน และขอให้เขาแสดงบัตรประจำตัว
- ซิงห์ลดหน้ากากอนามัยที่สวมปิดอย่างแนบชิด พร้อมกับโชว์บัตรประจำตัวที่ห้อยคอเอาไว้ ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นของผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ ที่แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ปีที่แล้ว
- เจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งตำรวจท้องที่ ก่อนซิงห์จะถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดี เขายอมรับสารภาพว่าเดินทางมาถึงที่สนามบินตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม ปีที่แล้ว แต่อ้างว่ากลัวโควิด 19 จึงไม่กล้ากลับบ้าน
- ซิงห์ เผยว่า เขาเอาชีวิตรอดโดยการกินอาหารที่ผู้โดยสารในสนามบินให้เขา และนับตั้งแต่ที่เขาอยู่มาก็ไม่มีปัญหาใด ๆ จนเจ้าหน้าที่สายการบิน 2 คนมาพบ
- ตำรวจเผยว่า ซิงห์เป็นคนว่างงาน ไม่มีประวัติทางอาชญากรรม แต่ครั้งนี้เขาถูกตั้งข้อหาบุกรุกและล่วงละเมิดเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบิน ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย

ภาพจาก Chicago Police Department
- "คุณกำลังบอกฉันว่า มีการกล่าวหาว่ามีบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต แอบอาศัยอยู่ในพื้นที่จำกัดของอาคารผู้โดยสารในสนามบิน ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2020 - 16 มกราคม 2021 และไม่มีการตรวจพบ" ซูซานา ออทิซ ผู้พิพากษาเขตคุกเคาท์ตี กล่าวอย่างประหลาดใจ
- ศาลมีความเห็นว่า การแอบอ้างอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตหวงห้ามของสนามบิน โดยอาศัยใช้บัตรอนุญาตประจำตัวที่ขโมยมา ถือเป็นการกระทำที่เป็นอันตรายต่อชุมชน
- เคสของซิงห์ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี เบื้องต้นถูกตั้งค่าประกันตัวไว้ที่ 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 30,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้เขายังอยู่ในการควบคุมตัวของทางตำรวจ
ขอบคุณข้อมูลจาก Odditycentral, Chicago Tribune






