สุภรณ์ หอบหลักฐานเตรียมฟ้อง ส.ส. อมรัตน์ พรรคก้าวไกล อภิปรายโจมตี พล.อ. ประยุทธ์ ทั้ง พ.ร.บ.คอมฯ, ม.112
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เตรียมนำพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เนื่องจากมีพฤติกรรมทั้งในการอภิปรายและหลังอภิปรายที่ใช้คำพูดกล่าวหาโจมตีนายกรัฐมนตรี และยังมีการนำไปโพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดีย
พร้อมกันนี้ยังมีหลักฐานการใช้ถ้อยคำภาษาที่ก้าวล่วงสถาบัน ซึ่งจากการหารือของฝ่ายกฎหมายและวอร์รูมรัฐบาล เห็นว่าจะต้องมีการดำเนินการแจ้งความกับ ส.ส. คนดังกล่าว ในคดีเกี่ยวกับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นอกจากนี้ยังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มมวลชนที่มีพฤติกรรมในการสนับสนุนการก้าวล่วงและจาบจ้วงสถาบัน
นายสุภรณ์ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการกำชับหรือสั่งการให้ดำเนินการในเรื่องนี้
แต่ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในทีมกฎหมายและวอร์รูมของรัฐบาล จึงเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดและเข้าข่ายในการทำผิดกฎหมาย
จึงจำเป็นต้องแจ้งความเพื่อดำเนินคดี โดยตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมของนางอมรัตน์เหมือนกับปากพาไปหาคุก
การดำเนินการดังกล่าวเพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้ ส.ส.
ท่านอื่นกระทำผิดกฎหมายหรือมีพฤติกรรมเลียนแบบ
ขณะที่ นางอมรัตน์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul ว่า "ให้เร็ว ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย แต่จะให้ดีบอกนาย ให้หักล้างข้อกล่าวหาในสภาจะดีกว่า"
นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า นอกจากจะตอบไม่ตรงคำถาม และไม่ยอมแสดงหลักฐานเพื่อแก้ข้อกล่าวหาแล้ว ยังใช้วิธีเบี่ยงเบนประเด็นกับผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ข้อกล่าวหานายกฯ ว่าหนีภาษี ไม่ได้นำมารวมเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษี ภ.ง.ด.90 เลยหลังพ้นตำแหน่งจากกองทัพ เรื่องนี้่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิดของอดีต รมต.มหาดไทย กรณีรับผลประโยชน์อื่นใดเกิน 3,000 บาทมาแล้ว เมื่อมาเป็นนักการเมืองต้องอยู่ภายใต้บรรทัดฐานเดียวกับนักการเมืองด้วยกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เตรียมนำพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เนื่องจากมีพฤติกรรมทั้งในการอภิปรายและหลังอภิปรายที่ใช้คำพูดกล่าวหาโจมตีนายกรัฐมนตรี และยังมีการนำไปโพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดีย
พร้อมกันนี้ยังมีหลักฐานการใช้ถ้อยคำภาษาที่ก้าวล่วงสถาบัน ซึ่งจากการหารือของฝ่ายกฎหมายและวอร์รูมรัฐบาล เห็นว่าจะต้องมีการดำเนินการแจ้งความกับ ส.ส. คนดังกล่าว ในคดีเกี่ยวกับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นอกจากนี้ยังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มมวลชนที่มีพฤติกรรมในการสนับสนุนการก้าวล่วงและจาบจ้วงสถาบัน
ขณะที่ นางอมรัตน์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul ว่า "ให้เร็ว ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย แต่จะให้ดีบอกนาย ให้หักล้างข้อกล่าวหาในสภาจะดีกว่า"
นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า นอกจากจะตอบไม่ตรงคำถาม และไม่ยอมแสดงหลักฐานเพื่อแก้ข้อกล่าวหาแล้ว ยังใช้วิธีเบี่ยงเบนประเด็นกับผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ข้อกล่าวหานายกฯ ว่าหนีภาษี ไม่ได้นำมารวมเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษี ภ.ง.ด.90 เลยหลังพ้นตำแหน่งจากกองทัพ เรื่องนี้่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิดของอดีต รมต.มหาดไทย กรณีรับผลประโยชน์อื่นใดเกิน 3,000 บาทมาแล้ว เมื่อมาเป็นนักการเมืองต้องอยู่ภายใต้บรรทัดฐานเดียวกับนักการเมืองด้วยกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN