นักเรียนสาวญี่ปุ่นไม่ยอม โดนโรงเรียนบังคับย้อมผมสีดำ เพราะไม่เชื่อว่าผมเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ ยื่นฟ้องศาลตัดสิน ผลปรากฏว่าชนะ ได้เงินชดเชยเกือบแสน
![นักเรียนสาวฟ้องศาล นักเรียนสาวฟ้องศาล]()
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์ Nextshark และ SoraNews24 เผยเรื่องราวของนักเรียนสาวรายหนึ่ง อดีตเคยศึกษาที่โรงเรียนมัธยมไคฟุคัง ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมของรัฐบาล ตั้งอยู่ในเมืองฮะบิกิโนะ จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เธอมีประเด็นฟ้องร้องกับทางโรงเรียน ภายหลังจากถูกโรงเรียนบังคับให้ย้อมผมสีดำ จึงกลายเป็นคดีความเกิดขึ้น
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2558 นักเรียนหญิงวัย 18 ปี ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เธอถูกคุณครูสั่งให้กลับไปย้อมผมสีดำ เพราะไม่เชื่อว่าเธอมีผมสีน้ำตาลมาโดยธรรมชาติ ทางโรงเรียนระบุว่า คุณครู 3 คน ตรวจสอบและยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า รากผมของเด็กนักเรียนหญิงรายนี้เป็นสีดำ แสดงว่าเธอย้อมผมเป็นสีน้ำตาล
นักเรียนหญิงเผยว่า หลังจากนั้นทางโรงเรียนสั่งว่า
ถ้าไม่ย้อมผมเป็นสีดำก็ไม่อนุญาตให้เข้าเรียน
สิ่งเกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกกดดันและทุกข์ใจเป็นอย่างมาก
จนสุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ไปโรงเรียน
กระทั่งในที่สุดทางโรงเรียนลบชื่อเธอออกจากระบบการลงทะเบียนเรียนและบัญชีรายชื่อนักเรียน
กระทั่งเวลาผ่านไป เธอตัดสินใจว่าจะไม่ไปเจรจากับทางผู้บริหารโรงเรียน แต่เลือกจะยื่นฟ้องกับทางศาลจังหวัดโอซาก้า ในปี 2560 เอกสารการฟ้องร้องทางกฎหมายเปิดเผยว่า เธอเรียกร้องค่าชดเชยจากทางโรงเรียนเป็นเงิน 2.2 ล้านเยน หรือราว 6.2 แสนบาท
จนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาโนริโกะ โยโกตะ พิจารณาคดีโดยมีความเห็นว่า กฎและคำตัดสินของทางโรงเรียนได้รับการกำหนดให้มีจุดประสงค์ทางการศึกษาที่สมเหตุสมผลและถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นการรักษาระเบียบวินัยของนักเรียนจึงถือเป็นดุลยพินิจของโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ทางโรงเรียนกลับใช้วิธีการจัดการโดยลบชื่อของเด็กนักเรียนทิ้ง จนทำให้เธอพ้นสภาพการเป็นนักเรียน ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทางผู้พิพากษาจึงมีคำสั่งให้ทางโรงเรียนจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้นักเรียนคู่กรณี เป็นจำนวนเงิน 330,000 เยน หรือราว 94,000 บาท
ทางด้านโรงเรียนรับทราบคำตัดสินของศาลและไม่มีแผนที่จะอุทธรณ์ พร้อมทั้งเผยในแถลงการณ์ระบุว่า ทางโรงเรียนจะยังคงรักษากฎระเบียบตามมาตรฐานเดิม แต่เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นประสบการณ์ให้กับทางโรงเรียนได้เรียนรู้ และหลังจากนี้จะพยายามใช้ความคิดมากขึ้นเพื่อหาวิธีแนะนำนักเรียนในครั้งต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก Nextshark, SoraNews24

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2558 นักเรียนหญิงวัย 18 ปี ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เธอถูกคุณครูสั่งให้กลับไปย้อมผมสีดำ เพราะไม่เชื่อว่าเธอมีผมสีน้ำตาลมาโดยธรรมชาติ ทางโรงเรียนระบุว่า คุณครู 3 คน ตรวจสอบและยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า รากผมของเด็กนักเรียนหญิงรายนี้เป็นสีดำ แสดงว่าเธอย้อมผมเป็นสีน้ำตาล
กระทั่งเวลาผ่านไป เธอตัดสินใจว่าจะไม่ไปเจรจากับทางผู้บริหารโรงเรียน แต่เลือกจะยื่นฟ้องกับทางศาลจังหวัดโอซาก้า ในปี 2560 เอกสารการฟ้องร้องทางกฎหมายเปิดเผยว่า เธอเรียกร้องค่าชดเชยจากทางโรงเรียนเป็นเงิน 2.2 ล้านเยน หรือราว 6.2 แสนบาท
จนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาโนริโกะ โยโกตะ พิจารณาคดีโดยมีความเห็นว่า กฎและคำตัดสินของทางโรงเรียนได้รับการกำหนดให้มีจุดประสงค์ทางการศึกษาที่สมเหตุสมผลและถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นการรักษาระเบียบวินัยของนักเรียนจึงถือเป็นดุลยพินิจของโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ทางโรงเรียนกลับใช้วิธีการจัดการโดยลบชื่อของเด็กนักเรียนทิ้ง จนทำให้เธอพ้นสภาพการเป็นนักเรียน ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทางผู้พิพากษาจึงมีคำสั่งให้ทางโรงเรียนจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้นักเรียนคู่กรณี เป็นจำนวนเงิน 330,000 เยน หรือราว 94,000 บาท
ทางด้านโรงเรียนรับทราบคำตัดสินของศาลและไม่มีแผนที่จะอุทธรณ์ พร้อมทั้งเผยในแถลงการณ์ระบุว่า ทางโรงเรียนจะยังคงรักษากฎระเบียบตามมาตรฐานเดิม แต่เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นประสบการณ์ให้กับทางโรงเรียนได้เรียนรู้ และหลังจากนี้จะพยายามใช้ความคิดมากขึ้นเพื่อหาวิธีแนะนำนักเรียนในครั้งต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก Nextshark, SoraNews24






