เมียหลวง แท็กทีม แม่ผัวแห่งชาติ เล่าทุกเม็ดบุกงานแต่ง ตอกหน้าเมียน้อย อย่าใช้รักทำลายครอบครัวคนอื่น

          อ่านข่าว : เมียหลวงฟาดเน้น ๆ หลังเจ้าสาวบอกทำเพราะรัก ลั่นรับคำขอโทษเป็นเงินสด !
          โดยล่าสุด (23 กุมภาพันธ์ 2564) รายการ ถามสุดซอย ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.10-11.00 น. ทางเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล และ นภัส ธีรดิษฐากุล เปิดรายการสัมภาษณ์ จอย เมียหลวง มาพร้อมแม่สามี ที่ตอนนี้ถูกยกให้เป็นแม่สามีแห่งชาติไปแล้วนั้น
          แม่ : ลูกทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม่ก็ต้องทำค่ะ ตอนเด็กเคยตีนิด ๆ หน่อย ๆ เวลาเขาดื้อ ครั้งนี้รุนแรงสุดสำหรับชีวิตแม่

          แม่ : สนิทมาก เราอยู่ด้วยกันมา 16 ปี ไม่คิดว่าเขาเป็นลูกสะใภ้ แต่คิดว่าเขาเป็นลูกสาวคนหนึ่ง จอยเคยมาปรึกษาแม่บ้าง ระแคะระคายว่าสามีคุยสาวคนอื่น แม่ก็แนะนำให้คุยกัน ปรับความเข้าใจกัน



          แม่ : แม่เห็นด้านหลังผู้ชาย เฮ้ย ! นี่มันลูกเรา เห็นด้านหลังก็จำได้ แม่เดินดุ่มเข้าไปเลย เห็นพระกำลังทำพิธี ก็รู้สึกว่าจะเข้าไปดีไหม เราเดินเข้าไปถึงตรงนั้น เขาก็ยังนั่งเฉย ปกติใครเดินมาข้าง ๆ คนเราต้องรู้สึก แต่เขายังนั่งเฉย ไม่แหงนมา แม่ก็เลยหยุดยืนอยู่ และยกมือไหว้ขออนุญาตพระก่อน เดินเข้าไปมองเขา เขาก็ทำพิธีกันต่อ มันปรี๊ด มันปรี๊ดตั้งแต่เห็นข้างหลังเขาแล้ว มันขึ้นเลย ทีนี้สติมันหลุดเลย

          แม่ : แม่สั่งสอนไม่ให้ทำแบบนี้ มันไม่ดี ในเมื่อเรามีครอบครัวอยู่แล้วไม่ควรไปทำแบบนี้ คือมันทั้งช็อก ทั้งจะทำยังไงก็ได้ให้เขารู้สึกตัวว่าเขาทำอะไรลงไป ตอนนั้นไม่มีสติแล้ว


          แม่ : ไม่ได้พูดเลย คือตอนแม่เข้าไปหาลูกชาย แม่เห็นแล้วว่าพระท่านกำลังสวดอยู่ แต่ทีนี้มันจี๊ดขึ้นมาแล้ว แม่หยุดตรงประตูแล้วยกมือไหว้ก่อน แล้วก็เดินเข้าไป พระกำลังสวดตอนนั้น เอาไงวะ มาถึงขั้นนี้แล้ว มันหยุดไม่อยู่แล้ว ต้องทำอะไรสักอย่าง ก็โบ๊ะไปทีสองที จะโบ๊ะอีกทีเห็นหลวงพ่อทำมือห้าม เราก็ทำอะไรไม่ได้ สติเราเริ่มคืนมา เห็นพระท่านทำท่าห้ามว่าอย่าทำนะ แม่ก็เดินออกมาค่ะ

          แม่ : พอได้สติแล้วเราคิดว่าเราไม่ควรทำเลย เพราะพระกำลังทำพิธีอยู่ เราฉุกคิดเรื่องพระ แต่ถ้าลูกชาย สิ่งที่แม่ทำแม่ไม่เสียใจ ควรจะโดน เพราะเราเคยพูดเคยสั่งสอนว่าสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนไม่ควรทำ
 

          จอย : ไม่มีใครตกใจสักคน และพูดว่าเรามาอีกแล้ว เขายังมีพิธีต่อไป ยังผูกข้อมือ ถ่ายรูปกันต่อ แขกในงานก็ไม่มีใครตกใจ ถ่ายรูปกันปกติ งานดำเนินต่อไปจนจบ

          แม่ : คุยค่ะ เขาให้เราออกไปอย่างเดียว ไม่มีคำถาม ไม่มีอะไร เขาบอกออกไปก่อนได้ไหม ขอจัดงานให้เสร็จก่อน เขาพูดอย่างนี้เลยค่ะ

          แม่ : ผู้หญิงรู้ค่ะ แต่ญาติเขาแม่ไม่รู้ค่ะ

          จอย : เขาก็ตกใจ แต่เขาเข้มแข็งมาก พร้อมลุยด้วยกัน ยังไงก็พร้อมบุกด้วยกัน แต่หลังจากวันนั้นไม่รู้เขาคิดยังไง เหมือนเราพาเขาไปงานด้วย ซึ่งเป็นงานแต่งพ่อเขากับคนอื่น

          แม่ : ไม่มีเลยค่ะ มีแค่ลูกชายคนเดียว


          จอย : ไม่กลัวค่ะ เพราะโทษทางวินัยก็ไม่มีค่ะที่ว่าโดนไล่ออก

          แม่ : เขาทำผิดนะคะ ทำผิดก็ต้องยอมรับ ต้องรับตัวเองด้วย เพราะเขารับราชการ ต้องรู้กฎระเบียบวินัยดี


          จอย : เรียกค่าทดแทนที่มายุ่งเกี่ยวกับสามี เรียกไป 3 แสน

          จอย : ก็ไม่แน่ใจว่าข่าวเขาจะฟ้องมาจากไหน ก็อ่านเหมือนกัน แต่คิดว่าผิดอะไรที่เขาจะมาฟ้อง เราไปทวงสิทธิ์สามีเราคืน เราแค่ไปแจ้ง แล้วเราผิดอะไร ไม่ทราบว่าเขาจะฟ้องเราเรื่องอะไรเหมือนกัน

          จอย : ไม่เพิ่มค่ะ เอาตามความเหมาะสม


          แม่ : แม่ต้องให้ลูกสะใภ้คนนี้เป็นคนตัดสินใจ เขาตัดสินใจยังไง แม่ก็ยอมรับในการตัดสินใจของเขา

          แม่ : คนทำผิดกันได้ทุกคน แต่ถ้ารู้สึกกลับเนื้อกลับตัวได้ อยากกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกัน แม่ก็ให้โอกาส แต่ต้องอย่าทำแบบเดิมอีก เราต้องมีการคุยกัน

          แม่ : ก็ดีค่ะ เพราะแม่คิดว่าเป็นฉายาที่ดีมาก ในความรู้สึกของแม่คือสิ่งที่ถูกต้อง เราต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง เราไม่เอาความพอใจ พอใจไม่มีอะไรดีขึ้น แต่สิ่งไหนเป็นสิ่งถูกต้องเราต้องทำ
          จอย : เขาบอกว่าเขารัก เราก็รักสามี ลูกเราก็รัก พ่อแม่เราก็รัก ทุกคนก็รักเขาหมด เขาจะมาพูดแบบนี้ แล้วมาเป็นข้ออ้างในการเป็นมือที่สามครอบครัวคนอื่นไม่ได้ค่ะ เราเตือนเขาตลอด ส่งจดหมายเตือนก็แล้ว เราให้ทนายส่งจดหมายเตือนให้เลิกพฤติกรรมชู้สาว เราเคยบอกกล่าวเขาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขาก็ไม่เลิก ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาพูดมาจะจริงไหม ใครก็พูดได้ค่ะว่ารัก อย่าใช้คำว่ารักทำลายครอบครัวคนอื่นดีกว่า


          ธัญญ่า : ทำถูกสิ เราก็ต้องไปโชว์ว่าเราคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย นี่คือสิทธิ์ของเรา มาจัดงานโชว์ขนาดนี้มันไม่ได้

          ธัญญ่า : คงเตรียมไมค์ เตรียมลำโพงไปเลย ยังไงก็ต้องหยุด อารมณ์นพนภาต้องมาแน่นอน (หัวเราะ) คิดว่าภาพนั้นคงไม่ใช่คุณแม่ค่ะ คงเป็นดิฉันเองค่ะ (หัวเราะ) คุณจอยถือว่าใจเย็นมากจริง ๆ

          ธัญญ่า : จริง ๆ คิดว่าคุณจอยมีสติมาก ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็คิดว่าน้องคนนี้มีสติ ควบคุมอารมณ์ได้มากพอสมควร ถ้าในคลิปที่เราเห็นตอนแรก เราเข้าใจว่าเป็นคุณจอย แต่พอเป็นคุณแม่ คุณแม่ได้ใจคนทั้งประเทศเลย ที่ไม่ได้เข้าข้างลูกชายตัวเอง ส่วนน้องจอยยังไงก็ต้องเพื่อลูก คนมีลูกต้องคิดถึงลูกอันดับหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าเราสามารถรักษาจิตใจตัวเองให้เข้มแข็งได้และดูแลลูก สุดท้ายก็โอเคแหละ

          ส่วนสามีไว้ดูอีกทีว่าเขาจะเอายังไง จะคิดได้เมื่อไร แต่คิดว่าเขาก็รักลูกแหละ มันอาจจะเผลอไผลไปบ้าง แต่ก็อยากให้สู้ ๆ เราเข้าใจความรู้สึกเลย สิ่งที่คุณจอยเจอ หนักหนากว่าสิ่งที่เราเจอ อันนี้ถึงขั้นแต่งงาน ขอให้เข้มแข็ง เดี๋ยวพอเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เราอาจเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องโจ๊กขำกับมันก็ได้ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ อยากให้เข้มแข็ง วันหนึ่งมันจะลืม ๆ ไปเอง ถือว่าเป็นบทเรียนให้ผู้ชม ใครคิดทำอะไรแบบนี้จะได้คิดว่าอย่าดีกว่า ถ้าเกิดเป็นข่าวดังกรณีคุณจอยขึ้นมา