มาแล้ววิธีแยกออดิบ - บอนโหรา หลังเกิดเหตุสาวเผลอกินจนต้องหามส่ง ICU พร้อมกับเพิ่มเติมตอนที่แกงแล้ว มีวิธีแยกไหม ชาวเน็ตให้คำตอบแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Gift Srisurang
จากกรณีที่มีสาวกินแกงส้มที่ผสมบอนโหรา เพราะนึกว่าเป็นออดิบ จนเกิดประสบการณ์เฉียดตายคล้ายกินยาพิษ ต้องรีบส่งโรงพยาบาลด่วน โดยอาการหลังจากรับประทานก็ดีวันดีคืน แต่ก็ยังมีอาการแสบอยู่บ้าง
อ่านข่าว : สาวเล่านาทีชีวิต กินแกงส้มทำเกือบตายได้ คำแรกก็ร้อนฉ่าทั่วปาก เหมือนคนโดนยาพิษ
อย่างไรก็ดี หลายคนคงสงสัยว่า แล้วเราจะแยกระหว่างบอนโหรากับออดิบได้ยังไง เพราะมันเหมือนกันมาก และกรณีแบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ดังนั้น กระปุกดอทคอมจะมานำเสนอเรื่องนี้กัน โดยเฟซบุ๊ก มาปลูกสวนครัว กับรักคุณแฟน ระบุไว้ดังนี้
ความแตกต่างตรงโคนใบ
- ออดิบ โคนใบจะงอกขึ้นไปในส่วนที่ค่อนข้างไปด้านบนหน่อย และมีทางใบแยกเห็นชัดเจน
- บอนโหรา โคนจะอยู่ตรงต้นใบ และมีพิษทั้งต้น ห้ามโดนตัวเด็ดขาด เพราะจะทำให้คัน
ความแตกต่างของทรงต้น
- ออดิบ ลำต้นออกสีขาว ปลายใบไม่ตั้งขึ้น
- บอนโหรา ปลายใบจะชี้ขึ้นฟ้า ลำต้นสีเขียว และมีขนาดใบใหญ่กว่าออดิบถ้าเอามาเทียบกัน
ความแตกต่างของใบ
- ออดิบ ใบจะค่อนข้างกลม ขนาดไม่ใหญ่ มีสีเขียวอ่อน ใบจะบาง แล้วก็มีนวลแป้งขาว
- บอนโหรา ใบจะหนาเรียวใหญ่และหนากว่าออดิบ มีสีเขียวเข้ม มีความมันเหงา ไม่มีนวลแป้งขาว
ภาพจาก Saijai Boontang สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ทางเฟซบุ๊ก Drama-addict โพสต์ภาพแกงส้มที่มีออดิบกับบอนโหราให้แฟนเพจทายกัน แต่พบว่า หลายคนทายผิดเนื่องจากแยกกันไม่ออกจริง ๆ และทางเพจก็ไม่ได้อธิบายถึงวิธีแยกอย่างชัดเจนว่า จะแยกยังไงเมื่อแกงออกมาแล้ว
ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ระบุว่า ความจริงเมื่อแกงเสร็จแล้ว มันไม่มีทางดูออกแน่นอน วิธีแยกคือต้องแยกตั้งแต่ตอนตัดต้น พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า เป็นไปได้ยังไงที่แม่ค้าคนทำ จะไม่เกิดอาการคันจากยางบอนโหราในช่วงที่สับอาหาร
อย่างไรก็ตาม ก็มีคนเข้ามาชี้แจงในประเด็นนี้ว่า ที่แม่ค้าไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะไปซื้อแบบที่เขาลอกเปลือกและสับเป็นท่อน ๆ มาแล้ว เวลาแกงก็เทลงหม้อทั้งถุงเลย จึงไม่ได้สัมผัสกับมัน
ถ้ารู้ตัวให้รีบหยุดทานทันที แล้วรีบล้างปาก ดื่มนมเย็นหรือไอศกรีม เพื่อลดการระคายเคือง หรือหาน้ำตาลทรายขาวหรือแดงมาอม เพื่อบรรเทาอาการ และห้ามอาเจียนเพราะจะทำให้สารพิษย้อนขึ้นมา
ส่วนอาการแสบ สามารถแก้ด้วยการบ้วนปากด้วยน้ำมะพร้าว หรือดื่มน้ำส้มสายชูหมักของต่างประเทศ 2-3 ช้อนโต๊ะ ส่วนของไทยนั้นดื่มไม่ได้ เพราะเป็นน้ำส้มสายชูกลั่น