ผ่านมาปีกว่าแล้ว แต่การแพร่ระบาดของโควิด 19 ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง และการระบาดระลอกใหม่ก็ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จนเกิดปัญหาเตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ นำไปสู่การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ขึ้นอย่างเร่งด่วน ซึ่งอาจทำให้หลายคนมีความกังวลถึงความเป็นอยู่ รวมไปถึงกระบวนการรักษา ดังนั้นเรามาเจาะลึกโรงพยาบาลสนามกันหน่อยดีกว่า ว่าจริง ๆ แล้วที่นี่เป็นอย่างไร
โรงพยาบาลสนาม คืออะไร ?
ภาพจาก สำนักข่าว INN
โรงพยาบาลสนาม ต่างจาก Hospitel และโรงพยาบาลทั่วไปอย่างไร
การรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม
การดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ในโรงพยาบาลสนาม จะใช้หลักการ Telemedicine & Care คือประเมินอาการออนไลน์ผ่านกล้องกับแพทย์ผู้ทำการรักษา และหากอาการหนักจะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในเครือข่าย ซึ่งเกณฑ์ของผู้ป่วยโควิด 19 ที่จะได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนาม ได้แก่
-
ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ
-
ผู้ป่วยที่มีอาการน้อย
-
ผู้ป่วยที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
-
ไม่ใช่ผู้ป่วยตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
-
ไม่ใช่ผู้ป่วยเด็ก หรือผู้สูงอายุ
ภาพจาก Brickinfo Media / Shutterstock.com
การรักษาตัวใน Hospitel
Hospitel (Hospital+Hotel) คือ การเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นหอผู้ป่วยชั่วคราว มีไว้รองรับผู้ป่วยในระยะสังเกตอาการ และดูแลผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจนอาการดีแล้ว แต่ยังจำเป็นต้องพักรักษาตัวภายใต้การดูแลของแพทย์ให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนการดูแลจะเป็นการติดตามวัดสัญญาณชีพและระดับออกซิเจนในเลือดเป็นระยะ ๆ อย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง และหากพบอาการผิดปกติก็จะส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลในเครือข่าย ตามหลักเกณฑ์ดังนี้
-
ผู้ป่วยใหม่ที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย
-
ผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่มีอาการหลังจากนอนโรงพยาบาลมาแล้ว 4-7 วัน และไม่มีภาวะแทรกซ้อน
-
ผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการแต่ไม่มีภาวะเสี่ยงหรือภาวะร่วม หลังจากนอนโรงพยาบาลมาแล้ว 4-7 วัน
-
ผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 50 ปี ที่ไม่มีอาการหรือภาวะเสี่ยงร่วม
-
ผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะทางจิตเวช
-
ต้องลงทะเบียนและ X-ray ปอดก่อน
การรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วไป
ผู้ป่วยโควิดที่มีอาการหนัก มีภาวะเสี่ยงที่อาการจะรุนแรง เช่น ผู้ป่วยสูงอายุ มีโรคประจำตัว ตั้งครรภ์ มีภาวะอ้วน รวมไปถึงผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อที่ปอด มีภาวะปอดอักเสบ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ กลุ่มนี้จำเป็นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และแม้จะพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel อยู่ก่อนแล้ว แต่หากพบอาการผิดปกติและเสี่ยงจะมีอาการรุนแรง แพทย์ก็จะให้ย้ายมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยคนไหนที่จะได้พักรักษาตัวทั้ง 3 แห่งนี้ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินจากอาการของผู้ป่วยแต่ละราย และจะต้องได้รับการอนุมัติจากแพทย์ก่อน
กว่าจะมาเป็นโรงพยาบาลสนาม มีการเตรียมพร้อมอย่างไร
ภาพจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ภาพจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องไปโรงพยาบาลสนาม
สิ่งที่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อและต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามควรนำไปด้วย มีดังนี้
-
ของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน โลชั่นทาผิว ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม แก้วน้ำ สกินแคร์ต่าง ๆ ที่ใช้เป็นประจำ
-
ชุดเครื่องนอน หากอยากนอนสบาย ๆ ที่นอนนุ่ม ๆ ควรเตรียมมาด้วย
-
เสื้อผ้า ชุดชั้นใน ควรเตรียมไปให้ครบ 14 วัน เพราะอาจซักตากไม่สะดวก
-
ปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง แบตฯ สำรอง
-
ทิชชูเปียก ทิชชูแห้ง ผ้าอนามัย (สำหรับสุภาพสตรี)
-
ที่คาดปิดตาตอนนอน เพราะเปิดไฟตลอด และหูฟัง
-
ขนม อาหารแห้ง
-
ของเล่นแก้เบื่อ เช่น หนังสือ รูบิก กันดั้ม หรือบอร์ดเกมต่าง ๆ
เปิดรายชื่อโรงพยาบาลสนาม มีที่ไหนบ้าง
ภาพจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โรงพยาบาลสนามกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่
โรงพยาบาลสนามภาคกลาง ได้แก่
โรงพยาบาลสนามภาคเหนือ ได้แก่
โรงพยาบาลสนามภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่
โรงพยาบาลสนามภาคตะวันออก ได้แก่
โรงพยาบาลภาคใต้ ได้แก่
ภาพจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ภาพจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ณ เวลานี้ “ยิ่งห่วง ยิ่งต้องห่าง” อยู่บ้านหยุดเชื้อ สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ช่วยลดการแพร่ระบาดโควิด 19 และกลุ่ม ปตท. ขอ #สานพลังใจWeFightTogether เพื่อรวมพลังให้ทุกฝ่ายผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย เพียงใจสู้ ยิ้มสู้ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คนไทยเอาชนะทุกอุปสรรคได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (1), (2), Hfocus, thebangkokinsight, กรุงเทพธุรกิจ, แนวหน้า