ทำความเข้าใจธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ขุมพลังงานสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจนานาชาติ พร้อมเปิดประโยชน์มากมายที่ประเทศไทยจะได้รับ หากเป็นศูนย์กลางการซื้อ-ขาย LNG ในภูมิภาคอาเซียนได้สำเร็จ

LNG คืออะไร
Liquefied Natural Gas (LNG) คือ ก๊าซธรรมชาติเหลว ที่มาจากการนำก๊าซธรรมชาติไปแปรสภาพเป็นของเหลวเพื่อให้สะดวกต่อการขนส่งทางเรือหรือทางรถบรรทุก แล้วค่อยเปลี่ยนกลับไปเป็นก๊าซอีกครั้ง ก่อนนำไปใช้ประโยชน์แทนพลังงานเชื้อเพลิงต่าง ๆ เช่น นำไปผลิตกระแสไฟฟ้า ใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรมและภาคขนส่ง ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ราคาถูกกว่าปิโตรเลียมอื่น ๆ และปลอดภัยในการใช้งานเพราะติดไฟได้ยาก

วิธีขนส่ง LNG

ปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยเหมาะแก่การเป็น Regional LNG Hub
การเป็นศูนย์กลางการซื้อ-ขาย LNG ไปยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งประเทศไทยโดยการดำเนินงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย LNG ได้อย่างครบถ้วน ตามองค์ประกอบดังต่อไปนี้
-
ภูมิศาสตร์ดี อยู่ตรงศูนย์กลางระหว่างกลุ่มประเทศที่มีความต้องการใช้ LNG สูง เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย พม่า เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งจะช่วยให้มีความได้เปรียบในการขนส่ง
-
ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติในเชิงพาณิชย์ จึงได้เปรียบเรื่องตลาดที่รองรับ
-
มีรูปแบบการให้บริการ LNG ที่หลากหลาย มีความพร้อมเรื่องระบบการจัดการ และโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการให้บริการที่จะเกิดขึ้น
-
มีผู้สนใจเป็นผู้ซื้อ-ผู้ขายหลายราย เอื้อต่อสภาพคล่องในการค้าขายในอนาคต
-
ได้รับการสนับสนุนและผลักดันจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ภาพจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ หากได้เป็น Regional LNG Hub ของอาเซียน
อย่างที่บอกไปว่า ประเทศไทยได้ลองชิมลางกับการส่งออก LNG ไปขายยังต่างประเทศบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการส่งไปยังประเทศจีนโดยทางเรือ และล่าสุดก็ส่งออก LNG ไปยังประเทศกัมพูชาด้วยรถยนต์ ผ่านชายแดนสำเร็จเป็นครั้งแรก ที่ด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมด้านต่าง ๆ ในธุรกิจพลังงานก๊าซธรรมชาติของไทย และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นานาประเทศในภูมิภาคอาเซียนได้อีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าของโครงการนั้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กำลังเร่งผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย LNG ภายในปี 2565 ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างโครงการ LNG Terminal คลังรับ-จ่ายก๊าซ LNG แห่งที่ 2 ที่หนองแฟบ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับก๊าซ LNG ให้เพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านตันต่อปี เรียกได้ว่ามีความพร้อมที่จะขยับสถานะไปเป็น Regional LNG Hub ในภูมิภาคอาเซียนให้สำเร็จตามเป้าประสงค์อย่างถึงที่สุดเลยทีเดียว

ภาพการส่งออกก๊าซ LNG ไปยังประเทศกัมพูชา ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ หากประเทศไทยได้เป็นศูนย์กลางการซื้อขาย LNG ของภูมิภาคอาเซียน จะทำให้ได้รับประโยชน์จากหลากหลายด้าน โดยเฉพาะความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ได้แก่
-
เพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ LNG เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
-
เพิ่มการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
-
ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้
-
สร้างโอกาสพัฒนาความร่วมมือในระดับสากล ทั้งภาครัฐและบริษัททั้งใน-นอกประเทศ

ภาพจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
มาถึงจุดนี้ การส่งออกก๊าซ LNG ไปยังประเทศจีนและกัมพูชาได้สำเร็จ นับเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าประเทศไทยมีศักยภาพและความสามารถเพียงพอ ที่จะเป็นผู้ส่งออกพลังงานเชื้อเพลิงสำคัญได้ และหากเรากลายเป็น Regional LNG Hub ในภูมิภาคอาเซียน เชื่อว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจและความมั่นคงทางพลังงานดีขึ้นอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
กระทรวงพลังงาน
สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)