ทหารเมียนมา ยอมรับเหตุยิงเรือไทย 3 ครั้ง เป็นการเข้าใจผิด อ้างคิดว่าเป็นเรือขนสินค้า จะติดต่อขอซื้อเวชภัณฑ์และอาหาร ยันไม่ได้มีเจตนาในทางลบ
จากกรณีที่ ทหารเมียนมา ยิงเรือของไทย 3 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเป็นเรือของ ตชด.ร้อย.337 ที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานจ่อท่า และศูนย์การเรียนรู้บ้านปอหมื่น ของสมเด็จพระเทพฯ จนเกิดความไม่พอใจตามมา เพราะทหารเมียนมาละเมิดน่านน้ำไทยในแม่น้ำสาละวิน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ได้มีการเรียกประชุมกัน และแจ้งว่าตั้งแต่นี้ต่อไป เรือของคนไทยสามารถแล่นได้ในแม่น้ำสาละวิน และทหารเมียนมาจะไม่ยิงเรือไทย ซึ่งมีข้อแม้คือต้องส่งเสบียงให้ทหารเมียนมาอย่างที่ต้องการ
วันที่ 26 เมษายน 2564 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีทหารเมียนมา สังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็ว ได้ใช้อาวุธปืนกลยิงขู่เรือของราษฎรบ้านแม่สามแลบ ระหว่างพาเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนเดินทางไปสับเปลี่ยนกำลังฐานบ้านจอท่า และนำเสบียงอาหารไปให้ศูนย์การเรียนรู้บ้านปอหมื่นว่า กองทัพบกโดยกองกำลังนเรศวร ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ได้เข้าพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับทหารเมียนมาที่รับผิดชอบพื้นที่โดยทันที
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ระบุว่า จากการพูดคุยเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด โดยยอมรับว่า กำลังพลของทางเมียนมาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรือขนสินค้า ได้ทำการส่งสัญญาณขอให้เรือจอดเทียบท่า เพื่อขอซื้อเวชภัณฑ์และอาหาร มิได้มีเจตนาในทางลบ พร้อมกล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ทางการไทยได้มีการพูดคุยให้ระมัดระวังและให้ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมที่ได้กำหนดไว้ โดยเฉพาะจะต้องไม่มีปฏิบัติการทางทหาร หรือใช้อาวุธที่อาจจะส่งผลต่อความรู้สึกหรือการดำเนินชีวิตของประชาชน และการค้าขายชายแดนตามลำน้ำสาละวิน ซึ่งเป็นแนวเขตแดน
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
