x close

เปิดความแสบแม่ชีอู๋ ตั้งกองทุนเทวดาแชร์ลูกโซ่-เอาโฉนดไปขาย ทำแม่ตัวเองจ่อไร้บ้าน


           เปิดความแสบแม่ชีอู๋ หลอกคนที่บ้านเอาโฉนดไปขาย อีกไม่นานแม่ตัวเองที่อยู่ในวัยชรากำลังจะไร้ที่อยู่ เพราะเรื่องไปถึงศาลฎีกา ด้านตำรวจเตรียมสอบเส้นทางการเงิน เพราะเงินเหลือเพียง 8 บาทในบัญชี

แม่ชีอู๋
         จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นางสาวอิสรีย์ อินทร์ไชยา หรือแม่ชีอู๋ วัย 49 ปี หลังจากมีผู้เสียหาย 400 คน แจ้งความจับหลอกตั้งกองทุนโควิด 19 ระดมทุนซื้อผ้าป่ากองละ 3,500 บาท มูลค่าความเสียหายร่วม 10 ล้านบาท แต่สุดท้ายไม่มีใครได้เงินคืนแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีการแฉโลกอีกใบของแม่ชีการ์ตูน หรือนางสาวไพลิน สุนทรสุวรรณ วัย 31 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊ง มีการสวมวิกผมยาวถ่ายเซลฟี่ ทำปากจู๋ เป็นคนละภาพกับตอนที่เป็นแม่ชีเลย

อ่านข่าว : แม่ชีเก๊ ลวงคนตั้งกองทุน สูญ 10 ล้าน แฉโลกอีกใบ ใส่วิก ทำปากจู๋โพสต์เฟซบุ๊ก

         ล่าสุด วันที่ 29 เมษายน 2564 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของแม่ชีอู๋ที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม แต่เมื่อคนในบ้านเห็นผู้สื่อข่าว ก็กลับเข้าไปในบ้านและปิดประตูหน้าบ้านทันที

         จากการสืบเบื้องต้น ทราบว่า นายจำนงค์ พ่อของแม่ชีอู๋ และเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ แต่หลังจากที่พ่อเสียชีวิต ทางแม่ชีอู๋ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก ก็ได้แอบขอให้นางสอง มารดาวัย 85 ปี มอบอำนาจให้ตัวเองเป็นผู้จัดการมรดก และนำโฉนดบ้านหลังนี้ไปขายฝากกับนายทุนวงเงิน 5 ล้านบาท โดยญาติพี่น้องไม่ได้ล่วงรู้มาก่อน กระทั่งนายทุนมาหาถึงที่บ้าน จึงรู้ความจริง

แม่ชีอู๋
         ในตอนแรก นายทุนยังเปิดโอกาสให้หาเงินต้นมาชำระภายในเวลา 3 ปี แต่ก็ไม่มีใครหาเงินไปไถ่ถอนได้ จำเป็นต้องฟ้องศาล ตอนนี้คดีมาถึงชั้นศาลฎีกา ทางครอบครัวก็กำลังจะไม่มีที่อยู่แล้ว ส่วนแม่ชีอู๋ก็ไม่ไยดีอะไรเลย

         ขณะที่ชาวบ้านละแวกนั้น ระบุว่า นายจำนงค์รับราชการครู อดีตบวชเรียนขั้นมหา ก่อนที่จะสึกออกมาก็แต่งงานอยู่กินกับนางสอง มีลูกด้วยกัน 4 คน โดยครอบครัวนี้ ชาวบ้านให้ความนับถือเป็นอย่างมาก ส่วนแม่ชีอู๋ก็เรียนจบในระดับปริญญา แล้วก็มาสวมชุดขาว

         เมื่อก่อนนี้เคยเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ในซอย ให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมประมาณ 2 ปี เชื่อว่าซึมซับเรื่องศาสนามาจากพ่อ แล้วนำมาปฏิบัติในทางที่ผิดทำให้เกิดเรื่องขึ้น

แม่ชีอู๋
         เบื้องต้น แม่ชีอู๋และลูกศิษย์รวม 5 คน ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม โดยศาลไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากขบวนการโกงทำเป็นขั้นตอน มีผู้เสียหายจำนวนมาก หวั่นผู้ต้องหาหลบหนี

         ด้าน พล.ต.ต. ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า มอบหมายให้ฝ่ายสอบสวนและสืบสวน ตรวจสอบเส้นทางการเงินแม่ชีอู๋แล้วว่ามีการถ่ายโอนไปให้ใคร เพราะว่าเงินในบัญชีเหลือเพียง 8 บาท ดังนั้น อาจมีโอกาสที่ผู้ร่วมขบวนการอาจจะมากกว่านี้แน่นอน


ชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อ แจ้งความเพิ่มอีก 200 คน

         ขณะเดียวกัน ชาวบ้านจากหมู่บ้านโพนแดงน้อย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กว่า 50 คน ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน แจ้งความแม่ชีอู๋เพิ่มเติมในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดขึ้นเดือนมีนาคม 2564 มีคนในหมู่บ้านไปทำอาหารให้สถานปฏิบัติธรรม แล้วมาเล่าว่ามีพระอรหันต์ผู้สำเร็จญาณชั้นสูงสุด ต้องการจะช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก วิธีง่าย ๆ คือ สะสมบุญเป็นกองทุนผ้าป่า เงินสดกองละ 2,700 บาท หรือกองทุนผ้าป่าทองคำกองละ 3,500 บาท พร้อมให้สัญญาว่า ไม่เกิน 110 วัน จะได้ผลตอบแทนเป็นทองคำรูปพรรณกองละ 1 สลึง ส่วนผู้สะสมกองทุนเงินสดจะได้เงินสด 6,000 บาท หลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ ก็ได้รับเงินคืนจริง ๆ

         พอครั้งแรกได้เงินไปด้วยดี เหยื่อจึงเกิดความศรัทธา และชวนญาติพี่น้องซื้อกองบุญกัน จากเดิมเคยซื้อ 5 กอง ตอนนี้ซื้อเพิ่มเป็น 30 กอง ถือว่าเป็นการลงทุนระยะสั้นไม่ถึง 10 วัน ก็ได้เงินคืน 2 เท่าแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแพร่ข่าวด้วยว่า เทวดามีโปรโมชั่นพิเศษ มีกองทุนทองคำ 40 กอง ใครต้องการรีบ ๆ เดี๋ยวจะหมด คนเลยแห่ซื้อเพียบ แล้วสายบุญก็บอกให้รอถึงวันที่ 30 มีนาคม 2564 จะได้รับผลบุญครบถ้วน

         ทว่าเมื่อถึงเดือนเมษายนก็ไม่มีแววที่จะได้เงิน ไม่มีวี่แววเทวดาลงมาโปรด พอสอบถามก็อ้างว่า เทวดากำลังดูฤกษ์ยามอยู่ จนถึงวันที่ 27 เมษายน เหยื่อทนไม่ไหวจึงไปทวงเงินที่สำนักปฏิบัติธรรม ยังไม่ทำอะไรก็มีตำรวจมาจับกุมแมชีเรียบร้อยแล้ว พวกตนจึงไปชวนชาวบ้านที่ลงทุนไป มาแจ้งความที่ สภ.ท่าอุเทน มีเหยื่อทั้งหมดประมาณ 200 คน

ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดความแสบแม่ชีอู๋ ตั้งกองทุนเทวดาแชร์ลูกโซ่-เอาโฉนดไปขาย ทำแม่ตัวเองจ่อไร้บ้าน อัปเดตล่าสุด 29 เมษายน 2564 เวลา 16:28:13 4,980 อ่าน
TOP