เปิดความหมายและที่มาของ ลูกบิดแช่แข็ง ที่กำลังเป็นประเด็นฮอตในโซเชียล เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแสเชื่อมโยงมาจากกลุ่มย้ายประเทศกันเถอะ
![สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส]( "สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส")
![สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส]( "สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส")
![สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส]( "สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส")
![สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส]( "สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส")
![สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส]( "สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส")
![สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส]( "สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส")
![สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส]( "สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส")
![สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส]( "สรุปที่มา ย้ายประเทศกันเถอะ - ลูกบิดแช่แข็ง เรื่องนี้มาจากไหน ทำไมถึงเป็นกระแส")
กลายเป็นกลุ่มฮอตสุดร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ สำหรับกลุ่ม "ย้ายประเทศกันเถอะ" ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย" และมีสมาชิกกว่า 7.3 แสนคนแล้ว กับการแชร์ทริกการย้ายออกจากเมืองไทยแบบถาวร ไปอยู่ประเทศอื่น ๆ ที่มีสวัสดิการพร้อม ร้อนแรงจนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์
และล่าสุด (4 พฤษภาคม 2564) ก็มีกระแสใหม่เกิดขึ้นอีกในตอนนี้ นั่นก็คือ ลูกบิดแช่แข็ง ที่ทำเอาหลายคนงง ๆ ว่ามันหมายถึงอะไร โดยที่มาของเรื่องนี้เกิดจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า "มีเหตุการณ์หนึ่งที่ฝังใจผมมาก วันหนึ่งอากาศหนาวมาก ผมจะเข้าบ้านเช้า เลยถอดถุงมือเพื่อให้จับลูกกุญแจไขลูกบิดได้ถนัด เอามือเปล่าจับประตู
แล้วเนื่องจากหนาวเย็นจัดมาก มือเปล่า ๆ เลยเกิดน้ำแข็งเกาะติดกับลูกบิดประตู ผมต้องก้มเอาลมปากร้อน ๆ เป่ามือจนเอามือออกจากลูกบิด พร้อมกับคำถามในใจว่า เราจะมาอยู่ทรมานเป็นพลเมืองชั้นสาม ชั้นสี่ ในที่ที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของเราไปทำไม วินาทีนั้นทำให้ผมตัดสินใจในทันทีว่าผมต้องกลับมารับใช้ชาติบ้านเมือง"
งานนี้ภายหลังจากที่ ดร.อานนท์ โพสต์ก็กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลทันที มีคนเข้ามาแสดงความเห็นกันเพียบ บ้างก็เห็นด้วยกับ ดร.อานนท์ บ้างก็เข้ามาแซวว่า "เขียนเรื่องเล่าเก่งนะครับ แต่หลายอย่างมันย้อนแย้งในตัวอะ เช่น อากาศหนาวแต่ถอดถุงมือ แล้วเกิดนึกถึงบ้านเกิดคืออะไร" ขณะที่บางคนก็ฮาที่มือติดลูกบิดแล้วรู้สึกต้องกลับมารับใช้บ้านเมือง
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich
