เปิดคดีสะพรึง พบ 215 ศพเด็ก ฝังใต้โรงเรียนประจำเก่าแก่ที่แคนาดา เผยอดีตสุดโหดร้าย ไปเรียนไม่ต่างจากไปตาย สารพัดชะตากรรมเลวร้ายที่นักเรียนชาวพื้นเมืองต้องเผชิญ

โรงเรียนประจำ Kamloops Indian School
(ภาพจาก National Centre For Truth and Reconciliation Commission / University of British Columbia)
(ภาพจาก National Centre For Truth and Reconciliation Commission / University of British Columbia)
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 เดอะการ์เดี้ยน รายงานข่าวที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วแคนาดา โดย พบศพเด็ก 215 ศพ ฝังอยู่ใต้ดินของอดีตโรงเรียนประจำ Kamloops Indian School ในเมืองแคมลูปส์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศแคนาดา โดยศพเด็กเหล่านี้ล้วนเป็นชาวพื้นเมืองทั้งสิ้น
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 130 ปีก่อน คณะนักบวชโรมันคาธอลิก ได้ก่อตั้งโรงเรียนประจำสำหรับเด็กชาวพื้นเมืองอินเดียนแดงในพื้นที่ ในปี 2433 ก่อนจะปิดตัวลงในปี 2521 ปิดฉากหน้าประวัติศาสตร์อันโหดร้าย
โรงเรียนแห่งนี้เป็นหนึ่งในหลาย ๆ โรงเรียนทั่วแคนาดาที่มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความกลืนกลายทางวัฒนธรรมและกำจัดตัวตนของชนพื้นเมืองออกไป เด็ก ๆ จะถูกพรากตัวจากบ้านและชุมชนให้มาอยู่โรงเรียนกินนอน และต้องพบเจอกับชะตากรรมน่าเศร้า
จากข้อมูลของคณะกรรมการตรวจสอบความจริงและความปรองดอง หรือ TRC (Truth and Reconciliation Commission) ระบุว่า ในปี 2558 เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 88 ปี มีเด็กชาวพื้นเมืองเข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวมากกว่า 150,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม ที่มุ่งเป้าไปที่ชนพื้นเมืองโดยเฉพาะ
เด็กนักเรียนเหล่านี้ถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดภาษาพื้นเมือง หรือแสดงออก หรือปฏิบัติตัวใด ๆ ตามวัฒนธรรมของชนเผ่า พวกเขายังถูกบังคับให้ใช้แรงงาน ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วยเช่นกัน
โรงเรียนยังบังคับให้เด็กนักเรียนชายขึ้นไปชกมวยบนสังเวียนเพื่อความบันเทิง และให้พวกเขาสู้กันจนกว่าจะหมดแรงและสู้ต่อไปไม่ไหว
ในเอกสารการสืบสวน เผยถึงข้อมูลที่ตกใจหลายประการ โรงเรียนไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลที่มากพอ และนักเรียนต้องอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก มีโรคระบาดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาทิ โรคหัด วัณโรค โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคติดต่ออื่น ๆ ทำให้เด็กล้มตายเป็นจำนวนมาก

ภาพจาก Bruce Raynor / Shutterstock.com
บันทึกในปี 2478 ระบุว่า ตอนนั้นมีนักเรียน 285 คน อาศัยอยู่ในหอพัก 5 หอ ซึ่งแออัดมาก และเมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกเด็กป่วยออกไป เพื่อไม่ให้สัมผัสกับคนอื่น ๆ
ศิษย์เก่ารายหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่เคยเข้าเรียนในช่วงทศวรรษที่ 1920 เล่าว่า เด็กนักเรียนที่เป็นชนพื้นเมืองมีสภาพชีวิตที่เลวร้ายและหิวโหย ในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก และโรงเรียนก็ไร้สุขอนามัย
TRC ชี้อีกว่า มีเด็กตายในโรงเรียนอย่างน้อย 3,201 ราย แต่ไม่สามารถยืนยันตัวเลขที่แน่ชัด เนื่องจากมีการปกปิดข้อมูลและทำลายหลักฐาน
ส่วนการค้นพบศพ 215 ศพ เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง Tk’emlups te Secwépemc เข้าตรวจสอบพื้นที่ และค้นพบความจริง โดย โรแซนน์ คาซิเมียร์ หัวหน้ากลุ่ม เปิดเผยว่า ในจำนวนซากโครงกระดูกที่ถูกพบ พบว่ามีเด็กเล็กรวมอยู่ด้วย ซึ่งอายุน้อยสุดคือ 3 ขวบ
โรแซนน์ กล่าวอีกว่า ผู้คนของเธอต่างรู้กันดีว่า เวลาเด็กหายตัวไป หมายความเด็กคนนั้นตายไปแล้ว แต่ไม่หลักฐานหรือเอกสารยืนยันที่ตรวจสอบได้เลย
ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเด็กเหล่านี้ตายเพราะอะไรบ้าง และตายในช่วงเวลาใด ซึ่งกลุ่มชนพื้นเมืองมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ