สาวเจอสมุดพกสมัย ม.3 เจอคุณพ่อเขียนวิจารณ์การศึกษาไทย ทรมานนักเรียนยืนกลางแดดเข้าแถวหน้าเสาธง ฟาดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2544
เชื่อเหลือเกินว่าช่วงสมัยวัยเรียนของใครหลาย ๆ คน เป็นช่วงที่มีหลากหลายความทรงจำปะปนกันไป ทั้งทุกข์ สุข และสนุกสนาน กับเพื่อน ๆ และกิจกรรมภายในโรงเรียน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเครื่องย้อนความทรงจำได้เป็นอย่างดีก็คือสมุดพก ที่จะทำให้โรงเรียนและผู้ปกครองเชื่อมต่อกัน
ดังเช่นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังจัดบ้านก็เจอเข้ากับสมุดพกตอน ม.3 เมื่อเปิดอ่านเธอก็เหมือนได้ย้อนความทรงจำ เพราะคุณพ่อของเธอได้เขียนถึงโรงเรียนในหัวข้อเกี่ยวกับการศึกษาไทยไม่ซ้ำกันแต่ละปี
สำหรับหัวข้อที่ฟาดสุด ๆ เห็นจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเข้าแถวกลางสนาม ที่เขียนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 โดยคุณพ่อเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่โรงเรียนหรือภาครัฐจะเหมาเอาว่านักเรียนทุกคนต้องนับถือศาสนาพุทธ และบังคับให้สวดมนต์พร่ำบ่นศีลธรรมที่เป็นไปไม่ได้ในภาคปฏิบัติจริง
ตราบใดที่มนุษย์ยังมีความจำเป็น ความต้องการ ความอยาก เป็นสมบัติติดตัว เสียเวลาเปล่าที่จะถือศีลด้วยปาก โรงเรียนควรจะเลิกได้แล้วที่จะปลุกระดมเด็กเรื่องความรักชาติโดยให้เข้าแถวยืนกลางแดดเคารพธงชาติเป็นชั่วโมง ความรักชาติที่แท้จริงไม่ใช่การยืนตรงเคารพธงชาติ ไม่ใช่เรื่องการบังคับ คนจะรักชาติอยู่ที่จิตสำนึกในใจ
ผู้บริหารโรงเรียนควรเข้าใจการบริหารบุคลากร ถ้าจะอบรมหรือออกคำสั่งใด ๆ ไม่ควรให้พูดกลางสนาม และทรมานเด็กให้อยู่กลางแดดนาน ๆ ควรแจกแจงคำสั่งการอบรมผ่านทางครูประจำชั้น จะดีกว่าที่ฝ่ายปกครองหรือผู้บริหารจะแสดงอำนาจ หรือเล่นจิตวิทยากับเด็กนักเรียน
ทั้งนี้เจ้าของโพสต์ เล่าอีกว่า เธอจำได้ว่าเคยโดนเชิญผู้ปกครองครั้งเดียว นอกนั้นไม่มีใครจะเชิญคุณพ่อมาอีกเลย แถมคุณพ่อยังเคยถือหนังสือมาตรากฎหมายเข้าไปจิ้มอ่านให้ครูห้องปกครองฟังอีกด้วย
![สาวโชว์สมุดพกสมัยเด็ก สาวโชว์สมุดพกสมัยเด็ก]()
เชื่อเหลือเกินว่าช่วงสมัยวัยเรียนของใครหลาย ๆ คน เป็นช่วงที่มีหลากหลายความทรงจำปะปนกันไป ทั้งทุกข์ สุข และสนุกสนาน กับเพื่อน ๆ และกิจกรรมภายในโรงเรียน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเครื่องย้อนความทรงจำได้เป็นอย่างดีก็คือสมุดพก ที่จะทำให้โรงเรียนและผู้ปกครองเชื่อมต่อกัน
ดังเช่นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังจัดบ้านก็เจอเข้ากับสมุดพกตอน ม.3 เมื่อเปิดอ่านเธอก็เหมือนได้ย้อนความทรงจำ เพราะคุณพ่อของเธอได้เขียนถึงโรงเรียนในหัวข้อเกี่ยวกับการศึกษาไทยไม่ซ้ำกันแต่ละปี
สำหรับหัวข้อที่ฟาดสุด ๆ เห็นจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเข้าแถวกลางสนาม ที่เขียนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 โดยคุณพ่อเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่โรงเรียนหรือภาครัฐจะเหมาเอาว่านักเรียนทุกคนต้องนับถือศาสนาพุทธ และบังคับให้สวดมนต์พร่ำบ่นศีลธรรมที่เป็นไปไม่ได้ในภาคปฏิบัติจริง
ตราบใดที่มนุษย์ยังมีความจำเป็น ความต้องการ ความอยาก เป็นสมบัติติดตัว เสียเวลาเปล่าที่จะถือศีลด้วยปาก โรงเรียนควรจะเลิกได้แล้วที่จะปลุกระดมเด็กเรื่องความรักชาติโดยให้เข้าแถวยืนกลางแดดเคารพธงชาติเป็นชั่วโมง ความรักชาติที่แท้จริงไม่ใช่การยืนตรงเคารพธงชาติ ไม่ใช่เรื่องการบังคับ คนจะรักชาติอยู่ที่จิตสำนึกในใจ
ผู้บริหารโรงเรียนควรเข้าใจการบริหารบุคลากร ถ้าจะอบรมหรือออกคำสั่งใด ๆ ไม่ควรให้พูดกลางสนาม และทรมานเด็กให้อยู่กลางแดดนาน ๆ ควรแจกแจงคำสั่งการอบรมผ่านทางครูประจำชั้น จะดีกว่าที่ฝ่ายปกครองหรือผู้บริหารจะแสดงอำนาจ หรือเล่นจิตวิทยากับเด็กนักเรียน
ทั้งนี้เจ้าของโพสต์ เล่าอีกว่า เธอจำได้ว่าเคยโดนเชิญผู้ปกครองครั้งเดียว นอกนั้นไม่มีใครจะเชิญคุณพ่อมาอีกเลย แถมคุณพ่อยังเคยถือหนังสือมาตรากฎหมายเข้าไปจิ้มอ่านให้ครูห้องปกครองฟังอีกด้วย







