ลุงพล แต่งสูทพบ สิระ ยื่นคำร้องตรวจสอบ ผบ.ตร. และเจ้าพนักงาน อ้างว่าลุงพลหลบหนีจนออกหมายจับ คุมตัวไปศาล แถมไม่รับมอบตัว
จากกรณีที่นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ถูกออกหมายจับ 3 ข้อหา ในคดีน้องชมพู่ ต่อมาศาลอนุญาตประกันตัวลุงพลโดยวางหลักทรัพย์ 1.8 แสนบาท ด้านทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งเป็นทนายของลุงพล ได้ออกมาระบุว่าลุงพลไม่เคยหลบหนี จ่อเอาผิดตำรวจปมแจ้งจับและไม่รับมอบตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : ทนายษิทรา เผยเบื้องลึกปมออกหมายจับลุงพล จ่อเอาผิด ตร. ทำเกินกว่าเหตุ
ล่าสุด วันที่ 9 มิถุนายน 2564 สำนักข่าว INN รายงานว่า ลุงพล พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายและสิทธิมนุษยชน
นายษิทรา กล่าวว่า การออกหมายจับนายไชย์พล มีความผิดปกติ โดยเจ้าพนักงานอ้างว่าออกหมายจับเพราะมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้ศาลหลงเชื่อแล้วออกหมายจับ หลังมอบตัวก็ปรากฏว่าตำรวจกลับไม่ยอมรับมอบตัวแต่ทำบันทึกการจับกุม มีผลทำให้มีการควบคุมตัวไปที่ศาล เจ้าพนักงานตำรวจไม่ให้ความเป็นธรรมกับนายไชย์พลเลย จึงต้องมาขอความเป็นธรรมให้ช่วยตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและเจ้าพนักงาน
อย่างไรก็ตาม วันนี้กรรมาธิการยังไม่ได้รับเรื่องไว้พิจารณา แต่จะนำคำร้องนี้ไปหารือร่วมกันภายในกรรมาธิการก่อน เพื่อขอมติจากที่ประชุมว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ตรวจสอบต่อหรือไม่ ขณะที่นายสิระย้ำว่า กรรมาธิการจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวเรื่องในสำนวน และจะต้องทำตามขอบเขตเท่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้เท่านั้น
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
จากกรณีที่นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ถูกออกหมายจับ 3 ข้อหา ในคดีน้องชมพู่ ต่อมาศาลอนุญาตประกันตัวลุงพลโดยวางหลักทรัพย์ 1.8 แสนบาท ด้านทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งเป็นทนายของลุงพล ได้ออกมาระบุว่าลุงพลไม่เคยหลบหนี จ่อเอาผิดตำรวจปมแจ้งจับและไม่รับมอบตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : ทนายษิทรา เผยเบื้องลึกปมออกหมายจับลุงพล จ่อเอาผิด ตร. ทำเกินกว่าเหตุ
ล่าสุด วันที่ 9 มิถุนายน 2564 สำนักข่าว INN รายงานว่า ลุงพล พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายและสิทธิมนุษยชน
นายษิทรา กล่าวว่า การออกหมายจับนายไชย์พล มีความผิดปกติ โดยเจ้าพนักงานอ้างว่าออกหมายจับเพราะมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้ศาลหลงเชื่อแล้วออกหมายจับ หลังมอบตัวก็ปรากฏว่าตำรวจกลับไม่ยอมรับมอบตัวแต่ทำบันทึกการจับกุม มีผลทำให้มีการควบคุมตัวไปที่ศาล เจ้าพนักงานตำรวจไม่ให้ความเป็นธรรมกับนายไชย์พลเลย จึงต้องมาขอความเป็นธรรมให้ช่วยตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและเจ้าพนักงาน
อย่างไรก็ตาม วันนี้กรรมาธิการยังไม่ได้รับเรื่องไว้พิจารณา แต่จะนำคำร้องนี้ไปหารือร่วมกันภายในกรรมาธิการก่อน เพื่อขอมติจากที่ประชุมว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ตรวจสอบต่อหรือไม่ ขณะที่นายสิระย้ำว่า กรรมาธิการจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวเรื่องในสำนวน และจะต้องทำตามขอบเขตเท่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้เท่านั้น
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
