4 โจ๋ คุกเข่าขอขมาลุงงาม ๆ หลังจากก่อเหตุตื้บพ่วงชิงทรัพย์ จากนั้นส่งตัวไปฝากขังยังสถานพินิจ ด้านผู้ปกครองเด็กรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนอีกคนยังมาให้ปากคำไม่ได้เพราะติดโควิด-19
จากกรณีที่มีเรื่องราวกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายชายสูงอายุจนสลบ เมื่อวันที่ 14
มิถุนายน 2564 บริเวณศาลาริมเขื่อน วัดเขมาภิรตาราม ถ.พิบูลสงคราม อ.เมือง
จ.นนทบุรี จนมีคนวิจารณ์ว่า การกระทำแบบนี้ถือว่าทำเกินกว่าเหตุไปหรือไม่
1. นายฟิล์ม วัย 16 ปี
2. นายเกม วัย 17 ปี
3. ด.ช.ติม วัย 13 ปี
4. นายนพพร ทองภาลา หรืออาร์ม วัย 20 ปี
ส่วน ด.ช.ฟลุ๊ค วัย 13 ปี เป็นคนร้ายอีกคนที่ทำร้ายลุง ตอนนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากติดโควิด 19 แต่ทางตำรวจก็ได้ตั้งข้อหาร่วมทำร้ายร่างกายไว้แล้ว และจะประสานให้เข้าพบพนักงานสอบสวนหลังจากอาการป่วยหายต่อไป
ขณะที่วัยรุ่นอีก
5 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
ตำรวจได้สอบปากคำกันไว้เป็นพยานแล้ว แต่พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้คือ
ไม่ได้ร่วมรุมทำร้าย แต่ก็ไม่มีการห้ามปราม
ต่อมา วัยรุ่น 4 คน
ได้นั่งคุกเข่าพร้อมนำพวงมาลัยมาไหว้ขอขมานายไสว งามเนตร ผู้เสียหาย
ซึ่งผู้เสียหายก็ให้อภัย เพื่อให้เด็กได้แก้ตัว
เสร็จแล้วก็ดำเนินการส่งฝากขังยังสถานพินิจ จ.นนทุบรี
และศาลจังหวัดนนทบุรีต่อไป
ส่วนทางผู้บาดเจ็บก็ไปสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
แม้ทางลุงจะยกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ยอมหยุด ทำร้ายจนสลบ และพยายามเอาแหวนรุ่นของลูกชาย สิ่งของแทนใจไปด้วย แต่เพื่อนในกลุ่มก็มาห้าม เอาของมาคืนให้ และพาไปส่งที่บ้าน
ขณะเดียวกัน กลุ่มวัยรุ่นก็ทำลายกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุทิ้ง แล้วโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ตำรวจก็ยังคงหาหลักฐานและจับตัววัยรุ่นกลุ่มนี้มาได้
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน