x close

เปิดศึกมรดกกงสี หญิงอ้างโดนพี่ชายตบตี-ใส่ความ จับเข้า รพ. จิตเวช ด้านพี่ออกมาพูดแล้ว


           ป้าวัย 54 เล่ายิบ ดราม่าถูกพี่ชายทำร้าย เล่าชีวิตหลังถูกจับส่งโรงพยาบาลบ้าทั้งที่ปกติ ยืนยันถูกจับไปเลยทั้งที่ไม่ได้ตรวจว่าป่วย ด้านพี่ปัดชี้แจง บอกเป็นปัญหาในครอบครัว


ศึกมรดกกงสี

          จากกรณีเพจดังเผยเรื่องราวของหญิงวัย 54 ปี ถูกพี่ชายทำร้าย ก่อนจะโดนตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิดัง จับส่งโรงพยาบาล นานถึง 21 วัน เชื่อว่าเจตนาเพื่อจะยึดมรดก โดยหลังออกจากโรงพยาบาลมีใบรับรองแพทย์ยันว่าเป็นคนปกติ ก่อนจะดำเนินการเอาผิดพี่ชาย 2 คน และตำรวจพร้อมอาสามูลนิธิดัง แต่ไม่มีความคืบหน้านานถึง 4 ปีนั้น

อ่านข่าว : หญิงอ้างถูกพี่ชายร่วมมือกับ ตร. มัดมือมัดเท้าอ้างเป็นคนบ้า จับส่ง รพ. หวังฮุบมรดก

แย่งมรดกกงสี อ้างพี่ตบตีทำร้ายร่างกาย ส่งโรงพยาบาลจิตเวช หวังยึดมรดของที่บ้าน


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ข่าวช่องวัน รายงานว่า ครอบครัวดังกล่าวมีพี่น้อง 5 คน มีมรดกเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นครึ่งที่แม่ยกให้ แต่ตกลงมรดกกันไม่ลงตัว ต่อมาอาคารดังกล่าวอยู่อาศัยกัน 3 คน พี่ชายคนที่ถูกบอกว่าทำร้ายร่างกายคือพี่ชายคนที่ 1 (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) และ พี่คนที่ 2 ของบ้าน ส่วนพี่คนที่ 3 และ 4 ออกไปอยู่อาศัยที่อื่น

          วานนี้ (21 มิถุนายน) หญิงวัย 54 ได้เข้าร้องทุกข์อีกครั้งที่ สน.สำเหร่ โดยเล่ากับสื่อว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 ตนถูกพี่ชาย 2 คน ทำร้ายร่างกาย ถูกตีด้วยไม้ คร่อมตัวและชกที่หัว ใช้มือกดหลอดลม เธอจึงรีบหนีเข้าห้องและแจ้งตำรวจมาช่วย แต่เมื่อตำรวจมาถึงพี่ชายบอกกับตำรวจว่าเธอเป็นคนวิกลจริต

ศึกมรดกกงสี

          ต่อมา 20 มีนาคม 2559 พี่ชายคนที่ 2 แจ้งตำรวจให้มาจับเธอ กล่าวหาว่าเธอจะจุดไฟเผาบ้าน โดยในวันนั้นมีตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ มาจับเธอมัดมือมัดเท้า ก่อนจะส่งไปที่โรงพยาบาลจิตเวช และถูกกักตัวอยู่ถึง 21 วัน โดยเธอนั้นติดต่อพี่ชายคนที่ 3 เพื่อให้ช่วยเหลือจนสามารถออกมาได้ พอออกมาก็ถูกไล่ออกจากงานเพราะหายไปนานจากการถูกจับส่งโรงพยาบาล โดยเธอยืนยันว่า ตนจะเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นอกจากพี่ชาย 2 คนแล้ว รวมไปถึงตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ และแพทย์ในโรงพยาบาลดังกล่าวด้วย

          จากการไปที่อาคารหลังที่เกิดเหตุ ในซอยตากสิน 14 พี่ชายของหญิงวัย 54 ปี ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล บอกว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาในครอบครัว เกี่ยวกับมรดกเงินกงสี ยืนยันว่าทำตามขั้นตอนที่ตำรวจสั่ง พร้อมให้ความร่วมมือ ก่อนหน้านี้น้องสาวก็เคยไปแจ้งความตนเองไว้หลายรอบแล้ว

          ขณะที่เพื่อนบ้านใกล้เคียง เผยว่า สมัยก่อนตอนที่หญิงวัย 54 ปี ยังอาศัยที่นี่ คนในซอยไม่มีใครไปพูดคุยกับเธอ รู้แค่เธอทะเลาะกับพี่ชายคนโต เรื่องผ่านไปนานแล้วแต่ก็ไม่รู้ทำไมเพิ่งเป็นข่าว และไม่ทราบว่าเธอนั้นป่วยทางจิตหรือไม่

ศึกมรดกกงสี

พบเอกสาร หญิงคนนี้เคยเข้ารับการรักษาทางจิตเวชจริง


          มีการเปิดเผยเอกสารประวัติการรักษาของหญิงรายนี้ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ระบุว่า เธอนั้นมีอาการจิตเภท เมื่อปี 2559 โดยแพทย์ให้ความเห็นในเอกสารไว้ว่า ปัจจุบันผู้ป่วยปฏิเสธในการรักษาต่อ พร้อมแนะนำให้คนไข้เข้ารักษาอย่างต่อเนื่อง

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ หญิงวัย 54 ปี กล่าวว่า อยากจะเดินทางไปตรวจอาการเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลเพื่อทราบผลให้ชัดเจนว่าเธอไม่ได้ป่วยทางจิต เพื่อที่จะได้ใช้ผลนี้ในการพิสูจน์เรื่องการดำเนินคดีต่อไป

ศึกมรดกกงสี

เปิดนาทีโดนจับไปโรงพยาบาล โดนจับฉีดยา-ส่งเข้า รพ. จิตเวช ใช้ชีวิตเหมือนทหารเกณฑ์


          ขณะที่ หญิงวัย 54 ปี เผยกับเพจเฟซบุ๊ก ชมรมคุณธรรมเพื่อความยุติธรรม เล่าว่า ในวันที่ถูกมูลนิธิบุกมาเป็น 10 คน เวลา ราวตี 1 แล้ว โดยพอถูกจับเธอได้แสดงเอกสารยืนยันแล้วว่าเป็นเจ้าของบ้าน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะวางเพลิง โดยกู้ภัยได้ฟังก็เข้าใจ แต่ตำรวจนายหนึ่งวิ่งขึ้นมารวบเธอ ส่วนฝั่งมูลนิธิก็แนะนำว่าอย่าขัดขืนเพราะกลัวจะบาดเจ็บ บอกให้เธอไปโรงพยาบาลก่อน หากไม่เป็นอะไรเดี๋ยวก็ได้รับการปล่อยกลับ

          ต่อมาไปถึงโรงพยาบาล เมื่อเห็นว่ากรณีนี้เป็นเหตุที่พี่ชายทำร้ายร่างกายเธอ มูลนิธิก็ทยอยกลับไป เธอบอกกับหมอว่า มีคลิปเหตุการณ์ที่ถูกทำร้าย หมอบอกว่าเดี๋ยวพาไปทำแผล แต่พอไปถึงชั้นสามเธอก็โดนพี่ชายและภรรยาจับล็อกตัว ยืนยันว่าไม่มีการทดสอบใด ๆ ว่าเธอป่วยหรือเปล่า โดยพยาบาลจะบอกว่าเธอเป็นคนบ้าไม่รู้เรื่องหรอก ก่อนจะฉีดยาระงับประสาท 2 เข็ม และถอดเสื้อผ้าเธอออกเพื่อเปลี่ยนเป็นคนไข้ ซึ่งยานั้นไม่ออกอาการ แต่เธอต้องทำทีเป็นนิ่งเพื่อดูว่าจะถูกกระทำอะไร จากนั้นก็ถูกมัดแขน ขา จับไปกักตัว

ศึกมรดกกงสี
          ช่วงที่อยู่โรงพยาบาลพยายามถามทุกวันว่าจับเธอมาทำไม ก็ถูกบอกแต่ว่าเป็นจิตเภท ต้องกินยา บอกว่าเธอนั้นเพ้อเจ้อว่ามีงานทำทั้งที่ไม่มี รวมทั้งบอกว่าเธอขู่จะเผาบ้าน จับเธอไปใช้ชีวิตกับคนบ้าจริง อยู่กันอย่างแออัด อาบน้ำรวมไม่ให้นุ่งอะไรเหมือนทหารเกณฑ์ แถมโดนพยาบาลเยาะเย้ยบาดแผลอีกว่าเหมือนโดนกัดมา เป็นต้น ส่วนเมื่อตอนที่ถูกกักตัวที่โรงพยาบาลนั้นเธอต้องโดนบังคับกินยา หากไม่กินจะโดนลงโทษ เคยเห็นคนถูกบังคับด้วยการบีบปาก ตบ เตะ ต่อย เมื่อกินแล้วจะรู้สึกเป็นไข้ ทรงตัวไม่อยู่

            เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เธอกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อจะขอประวัติของเธอว่าถูกรักษาอย่างไร ใช้ยาอะไร เพื่อจะแจ้งต่อศาลเรื่องคดีที่มีการจับเธอมาทั้งที่ไม่ได้ป่วย เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าไม่พบประวัติ ชื่อของเธอถูกตัดออกไปแล้ว ถามว่าทำไมถึงขาดการรักษาไป 4 ปี ตอนนี้ก็ปกติแล้วจะกลับมาทำไม เมื่อถามเวชระเบียน บอกว่าประวัติเธอนั้นถูกส่งไปที่ สน.สำเหร่ เธอจึงถามว่าทำไมจึงให้ตำรวจได้ แต่เธอเองขอประวัติตัวเองไม่ได้ แต่สอบถามไปแล้วหมอไม่ให้แจ้งว่าให้เธอไปคุยกับหมอก่อน และพอว่าหมอจะให้เธอเข้ารักษาต่อ ส่วนใบรับรองที่ขอนั้น ได้มาแค่เอกสาร 1 ใบ บอกว่าเธอขาดการรักษา

ศึกมรดกกงสี
          พอออกจากโรงพยาบาลเธอแอบกลับมาขนของที่บ้านแล้วย้ายที่อยู่ จากนั้นก็ไปพบตำรวจเพื่อตามคดี ก็พบว่าหาคดีไม่เจอ ยืนยันว่าตลอด 4 ปี ติดตามคดีตามที่ต่าง ๆ เช่น จเรตำรวจ กระทรวงยุติธรรม มูลนิธิดัง ๆ ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ เพราะผลที่ตำรวจบอกว่าเธอนั้นมีปัญหา

          ทั้งนี้เธอต้องไปตรวจทดสอบที่โรงพยาบาล 2 แห่ง เพื่อจะพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้วิกลจริต แต่เมื่อไปตรวจถูกคิดเงิน 2,900 บาท จึงไม่ได้จ่ายเพราะมองว่าแพงเกินไปกับคนที่ไม่มีอะไร ยืนยันว่าจากนี้จะเดินหน้าพิสูจน์ความจริงต่อไป

ศึกมรดกกงสี

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, เฟซบุ๊ก ชมรมคุณธรรมเพื่อความยุติธรรม



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดศึกมรดกกงสี หญิงอ้างโดนพี่ชายตบตี-ใส่ความ จับเข้า รพ. จิตเวช ด้านพี่ออกมาพูดแล้ว โพสต์เมื่อ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 16:12:55 18,127 อ่าน
TOP