บทสรุปคดีตำรวจแต่งงานซ้อน หลังเมียหลวงขอรับคำขอโทษเป็นเงินสด 3 แสน ศาลสั่งเมียน้อยจ่าย 2 แสน พร้อมดอกเบี้ย ถ้าไม่จ่ายภายใน 15 วัน เจอยึดทรัพย์ เผย ฝ่ายเมียน้อยไม่มาศาลเลยสักครั้ง
จากกรณีข่าวนางนิภาพรรณ หมู่แก้ว หรือ จอย เมียหลวงถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งของ หมู่เปา สามีของตัวเองซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่แต่งงานซ้อนกับสาวอีกคน โดยจอย ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับเมียน้อยเป็นเงิน 3 แสนบาท พร้อมยืนยันว่ารับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น
อ่านข่าว : จอย เมียหลวงบุกงานแต่ง หน้าใหม่อย่างสวย เตรียมขึ้นศาลฟ้องเมียน้อย 3 แสน ผัวต้องเสียดาย !
ล่าสุด (24 มิถุนายน 2564) สำนักข่าวไทย รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. นางนิภาพรรณ พร้อมด้วยทนายความได้เดินทางไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เพื่อขอคัดถ่ายคำพิพากษาของศาล ซึ่งมีคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว
ให้จำเลย (เมียน้อยที่เป็นเจ้าสาวในคลิป) ชำระค่าทดแทน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้อง คือวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 - 10 เมษายน 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยให้ปรับเปลี่ยนลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ ตามพระราชกฤษฎีกา ซึ่งตราขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่) บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 3,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี
ด้าน นางนิภาพรรณ เปิดเผยว่ารู้สึกพอใจในคำพิพากษาของศาล จากนี้จะใช้ชีวิตตามปกติ ทำงาน และดูแลลูก ๆ ต่อไป
รายงานข่าวระบุว่าจากคำพิากษาของศาลนั้นเห็นว่าพฤติการณ์ของจำเลยมีการแสดงออกอย่างเปิดเผยกับสามีของนางนิภาพรรณ ว่าคบหากันในฐานะชู้สาวเป็นระยะเวลานาน มีการพบเจอหลายครั้ง มีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และมีการจัดพิธีงานแต่งงานตามประเพณี ในส่วนของ นางนิภาพรรณ ที่คบหาอยู่กินกับสามีมาเป็นระยะเวลานานและมีบุตรด้วยกัน จากฐานะทางสังคมและอาชีพ ศาลจึงพิจารณากำหนดค่าทดแทนให้จำเลยชำระจำนวน 200,000 บาท จากที่เรียกไว้ 300,000 บาท
ขั้นตอนจากนี้คือการส่งคำพิพากษานี้ไปให้แก่จำเลยได้รับทราบแล้ว เพื่อให้ชำระค่าทดแทนพร้อมด้วยเบี้ย ภายใน 15 วัน หากจำเลยยังไม่ยอมชดใช้จะดำเนินการในขั้นตอนการบังคับคดี ยึดทรัพย์สินของจำเลยตามกฎหมายต่อไป โดยการดำเนินในครั้งนี้เป็นการไต่สวนฝ่ายโจทก์ (เมียหลวง) ฝ่ายเดียว เพราะฝ่ายเมียน้อยไม่ได้เดินทางมาศาลเลยแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงในการนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ ฝ่ายเมียน้อยก็ไม่มาศาลเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
จากกรณีข่าวนางนิภาพรรณ หมู่แก้ว หรือ จอย เมียหลวงถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งของ หมู่เปา สามีของตัวเองซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่แต่งงานซ้อนกับสาวอีกคน โดยจอย ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับเมียน้อยเป็นเงิน 3 แสนบาท พร้อมยืนยันว่ารับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น
อ่านข่าว : จอย เมียหลวงบุกงานแต่ง หน้าใหม่อย่างสวย เตรียมขึ้นศาลฟ้องเมียน้อย 3 แสน ผัวต้องเสียดาย !
ล่าสุด (24 มิถุนายน 2564) สำนักข่าวไทย รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. นางนิภาพรรณ พร้อมด้วยทนายความได้เดินทางไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เพื่อขอคัดถ่ายคำพิพากษาของศาล ซึ่งมีคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว
โดยมีรายละเอียดดังนี้
ให้จำเลย (เมียน้อยที่เป็นเจ้าสาวในคลิป) ชำระค่าทดแทน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้อง คือวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 - 10 เมษายน 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยให้ปรับเปลี่ยนลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ ตามพระราชกฤษฎีกา ซึ่งตราขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่) บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 3,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี
ด้าน นางนิภาพรรณ เปิดเผยว่ารู้สึกพอใจในคำพิพากษาของศาล จากนี้จะใช้ชีวิตตามปกติ ทำงาน และดูแลลูก ๆ ต่อไป
รายงานข่าวระบุว่าจากคำพิากษาของศาลนั้นเห็นว่าพฤติการณ์ของจำเลยมีการแสดงออกอย่างเปิดเผยกับสามีของนางนิภาพรรณ ว่าคบหากันในฐานะชู้สาวเป็นระยะเวลานาน มีการพบเจอหลายครั้ง มีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และมีการจัดพิธีงานแต่งงานตามประเพณี ในส่วนของ นางนิภาพรรณ ที่คบหาอยู่กินกับสามีมาเป็นระยะเวลานานและมีบุตรด้วยกัน จากฐานะทางสังคมและอาชีพ ศาลจึงพิจารณากำหนดค่าทดแทนให้จำเลยชำระจำนวน 200,000 บาท จากที่เรียกไว้ 300,000 บาท
ขั้นตอนจากนี้คือการส่งคำพิพากษานี้ไปให้แก่จำเลยได้รับทราบแล้ว เพื่อให้ชำระค่าทดแทนพร้อมด้วยเบี้ย ภายใน 15 วัน หากจำเลยยังไม่ยอมชดใช้จะดำเนินการในขั้นตอนการบังคับคดี ยึดทรัพย์สินของจำเลยตามกฎหมายต่อไป โดยการดำเนินในครั้งนี้เป็นการไต่สวนฝ่ายโจทก์ (เมียหลวง) ฝ่ายเดียว เพราะฝ่ายเมียน้อยไม่ได้เดินทางมาศาลเลยแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงในการนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ ฝ่ายเมียน้อยก็ไม่มาศาลเช่นกัน







