ตำรวจเฮติ เปิดฉากปะทะมือสังหารประธานาธิบดี จับตาย 4 ราย และจับเป็น 2 ราย ที่เหลือยังหลบหนี เผยเป็นทหารรับจ้างต่างชาติมืออาชีพปลอมตัว

ภาพจาก Pierre Michel Jean / AFP
จากกรณี โฌเวแนล โมอิส (Jovenel Moise) ประธานาธิบดีเฮติวัย 53 ปี ถูกลอบสังหารจนเสียชีวิต ภายในบ้านพักในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ นางมาร์ตีน โมอิส ภริยาวัย 47 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งผลให้ประเทศตกอยู่ภาวะโกลาหล รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 2 สัปดาห์
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ล่าสุด (8 กรกฎาคม 2564) รายงานของเว็บไซต์อัลจาซีรา และบีบีซี รายงานว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยของประเทศเฮติ ได้นำกำลังเข้าปฏิบัติการปิดล้อมและเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัย ซึ่งระบุว่าเป็นทหารรับจ้างมือสังหารติดอาวุธหนัก โดยหลบหนีออกมาบ้านพักพร้อมทั้งจับเจ้าหน้าที่ 3 ราย เป็นตัวประกัน

ภาพจาก Valerie Baeriswyl / AFP
เลออน ชาร์ลส์ หัวหน้ากรมตำรวจ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ยิงต่อสู้กับทางกองกำลังเจ้าหน้าที่อย่างดุเดือด ก่อนเจ้าหน้าที่จะสามารถช่วยเจ้าหน้าที่ที่ถูกจับตัวออกมาได้ทั้งหมด จนในท้ายที่สุด กลุ่มผู้ต้องสงสัยถูกยิงสังหาร 4 ราย และ 2 ราย ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ทั้งนี้ยังมีผู้ต้องสงสัยส่วนที่เหลืออีก ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุม โดยขอให้ประชาชนอยู่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย
ด้าน บอคคิต เอ็ดมอนด์ เอกอัครราชทูตเฮติประจำสหรัฐอเมริกา ระบุว่า มือปืนเป็นทหารรับจ้างต่างชาติมืออาชีพที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี โดยปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ DEA เข้าไปในบ้านพักของประธานาธิบดีโมอิส ในช่วงยามวิกาลก่อนลงมือก่อเหตุ

ภาพจาก Valerie Baeriswyl / AFP
"ผมขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม การกระทำที่ป่าเถื่อนนี้จะต้องถูกลงโทษ" โจเซฟ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก อัลจาซีรา, บีบีซี