Thailand Web Stat

สรุปดราม่า ไล่ ผกก. ทุ่งสง ออกจากราชการ เซ่นปมอมเบี้ยเลี้ยงโควิด หักเงินลูกน้องเข้ากองกลาง


          ตำรวจภูธรภาค 8 สั่งไล่ อดีต ผกก. ทุ่งสง พ้นราชการ หลังหักเงินเบี้ยเลี้ยงโควิด 19 ตำรวจในโรงพักกว่า 200 นาย ให้เหลือคนละ 15,000 บาท ทั้งที่ตามจริงต้องได้มากกว่านั้น มีผลตั้งแต่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล

          เฟซบุ๊ก โปลิศไทยแลนด์ - Police Thailand News รายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวน พ.ต.อ. สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ในเบื้องต้น จากคดียึดเงินเบี้ยเลี้ยงลูกน้องตำรวจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.ทุ่งสง จ.นครราชสีมา พร้อมกับชี้มูลให้มีความผิดกฎหมายอาญา ม.157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.มาตรา 172


หักเบี้ยเลี้ยงให้ได้สูงสุดคนละ 15,000 บาท-ส่วนเกินให้บริจาคเข้าส่วนกลาง


          ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้น หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อนุมัติเงินจากงบกลาง  เพื่อมาเป็นเบี้ยเลี้ยงของตำรวจเพิ่มเติม ที่ปฏิบัติงานในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 30 มิถุนายน 2563 เป็นจำนวนเงินกว่า 2 พันล้านบาท เงินจำนวนนี้จะรวมค่าตอบแทน ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายตามสิทธิให้กับข้าราชการ

          ในเงินจำนวนนี้ สภ.ทุ่งสง ได้รับการจัดสรรเงินเป็นจำนวน 6 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ เงินค่าตอบแทน 5.4 ล้านบาท, ค่าวัสดุ 2.2 แสนบาท และค่าน้ำมัน 3.4 ล้านบาท แจกจ่ายให้ตำรวจ 200 นาย

          อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนนี้ต้องมีการเบิกจ่ายให้ตำรวจเต็มจำนวน แต่ พ.ต.อ. สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ทุ่งสง ในเวลานั้น กลับกำหนดเพดานการจ่ายไว้ที่คนละ 15,000 บาท หากมีเงินเกิน 15,000 บาท ก็ขอให้บริจาคส่วนต่างมาที่ สภ.ทุ่งสง เพื่อนำไปจัดสรรแก่ตำรวจรายอื่นที่ได้น้อยกว่า 15,000 บาท และเงินจำนวนที่หักมานี้ คนที่มีอำนาจในการใช้จ่ายคือ พ.ต.อ. สมพงศ์

          พ.ต.อ. สมพงศ์ อ้างถึงจุดประสงค์ของการหักเบี้ยเลี้ยงโควิดตำรวจว่า ต้องการสร้างความสามัคคีและความเท่าเทียมกัน เงินส่วนที่เหลือจากการปันส่วน ถือเป็นเงินบริหารของโรงพัก ใช้สำหรับจัดหาอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน จัดงานตำรวจ จัดงานสังสรรค์ภายใน เงินรางวัลผู้ปฏิบัติงานและอื่น ๆ

          เรื่องนี้ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชามองว่าไม่เป็นธรรมและไม่เห็นด้วย เนื่องจากบางคนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานนอกสถานที่ แต่กลับได้รับเงิน 15,000 บาท และใครก็ตามที่ไม่นำเงินมาคืนให้ ก็จะมีคำสั่งปรับเปลี่ยนหน้าที่ เพื่อไม่ให้ตำรวจเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาทนไม่ไหว จึงร้องเรียนต่อสื่อมวลชน

          ในเดือนตุลาคม 2563 มีการนัดประชุมเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง โดยไม่ให้ตำรวจนำโทรศัพท์มือถือเข้าที่ประชุม และมีการพูดคุยกันว่า การคืนเงินเบี้ยเลี้ยงให้เหลือ 15,000 บาท เป็นการกระทำด้วยความสมัครใจไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด หลังจากนั้นมีการตั้งกรรมการสอบ และชี้มูลเป็นความผิดวินัยที่ไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎระเบียบ จึงลงโทษกักยาม 3 วัน

ถูกสั่งให้ออกจากราชการ


          วันที่ 20 สิงหาคม 2564 ไทยโพสต์ รายงานว่า พล.ต.ท. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภ.8 ได้ลงนามคำสั่งไล่ พ.ต.อ. สมพงศ์ ในฐานะรองผู้บังคับการกฎหมายและคดีตำรวจภูธรภาค 8 ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป โดยยกเลิกคำสั่งตำรวจภูธรภาค 8 เดิม เรื่อง เพิ่มโทษข้าราชการตำรวจเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.อ. สมพงศ์ เท่านั้น ส่วนอื่น ๆ ให้มีผลบังคับเช่นเดิม

          ทั้งนี้ ถ้าหากผู้ถูกลงโทษจะอุทธรณ์คำสั่ง สามารถยื่นต่อ ก.ตร. ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่รับทราบคำสั่ง และหากจะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน แต่วันที่ได้รับแจ้งหรือวันที่รับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์จะอยู่ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนด 90 วันนับตั้งแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์

**หมายเหตุ อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรุปดราม่า ไล่ ผกก. ทุ่งสง ออกจากราชการ เซ่นปมอมเบี้ยเลี้ยงโควิด หักเงินลูกน้องเข้ากองกลาง อัปเดตล่าสุด 20 สิงหาคม 2564 เวลา 17:52:00 17,918 อ่าน
TOP
x close