พิยดา Phonebymint ปฏิเสธทุกข้อหา ยันไม่ได้ทำผิด ไม่เคยคุย - หลอกขายมือถือให้น้องก้อง จนน้องเส้นเลือดในสมองแตกตาย ย้ำไม่รู้จัก 2 สาวหน้าม้าเปิดบัญชี ด้านสรยุทธชี้ คืนเงินแล้วเรื่องจบไหม
จากกรณีของ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ที่ถูกแถลงจับกุมจากการหลอกขายมือถือไอโฟนให้น้องก้อง แต่ไม่มีการส่งของให้ จนทำให้น้องก้องเส้นเลือดในสมองแตกตาย ซึ่งต่อมาพบว่า มีเหยื่อของ น.ส.พิยดา เป็นจำนวนมาก และพบว่าเธอนั้นวางแผนในเรื่องนี้อย่างเป็นกระบวนการ ทั้งการเปิดบัญชีปลอม ใช้ชื่อปลอม หลอกไอพี แล้วนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายสุดหรู ซื้อรถยนต์ BMW เป็นเงินสด เพื่อไม่ให้ตามสืบร่องรอยเส้นทางการเงินเจอ ซึ่งล่าสุด น.ส.พิยดา ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่แล้วนั้น
อ่านข่าว เส้นทางการเงิน Phonebymint ที่มาโกงจนรวย - ใครฟ้องว่าโกงฟ้องกลับ จนเหยื่อเงียบ
อ่านข่าว เส้นทางการเงิน Phonebymint ที่มาโกงจนรวย - ใครฟ้องว่าโกงฟ้องกลับ จนเหยื่อเงียบ
คืบหน้า (28 กันยายน 2564) เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้ เผยข้อมูลจากทนายความของ น.ส.พิยดา โดยพบว่าเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา แต่ได้ยกมือไหว้ญาติของผู้เสียชีวิต และบอกว่ายังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ในตอนนี้
ขณะที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยกับสื่อมวลชนว่า หลังจากแนวทางการสืบสวนของทางตำรวจพบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีหมายจับขึ้นมายังจังหวัดเชียงใหม่ ทางตำรวจจึงได้กดดันกระทั่ง น.ส.พิยดา ยอมให้ทนายความพาเข้ามอบตัว ซึ่งเบื้องต้นได้ดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เหตุเกิดท้องที่ สภ.นาหวาย
ขณะที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยกับสื่อมวลชนว่า หลังจากแนวทางการสืบสวนของทางตำรวจพบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีหมายจับขึ้นมายังจังหวัดเชียงใหม่ ทางตำรวจจึงได้กดดันกระทั่ง น.ส.พิยดา ยอมให้ทนายความพาเข้ามอบตัว ซึ่งเบื้องต้นได้ดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เหตุเกิดท้องที่ สภ.นาหวาย
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ด้าน สวพ.FM91 เผยรายงานคำให้การเบื้องต้นของ น.ส.พิยดา พบว่ายังปฏิเสธทุกข้อหา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนกระทำความผิด ไม่เคยคุยและหลอกเด็กวัย 14 ปี ที่เสียชีวิตจากเส้นเลือดในสมองแตก รวมถึงไม่ได้รู้จักกับผู้ต้องหาหญิง 2 คนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
น.ส.พิยดา อ้างว่าตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์จริง และเคยขายโทรศัพท์มือสองมาก่อน แต่หยุดขายไปแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินทุกอย่างได้มาจากการขายออนไลน์เท่านั้น
ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำ พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาและพิมพ์ลายนิ้วมือตามขั้นตอน ก่อนจะคุมตัวไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ขณะเดียวกันตำรวจยังตรวจสอบพบว่า น.ส.พิยดา ยังมีหมายจับในอีกหลายท้องที่ ซึ่งคาดว่าคงจะไม่ให้ประกันตัว
ด้าน นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ยังได้เข้ามาเคลียร์ข้อสงสัยว่ากรณีนี้ถ้าคืนเงินทั้งหมดที่โกงมาจะยอมความได้หรือไม่ หลังมีคนแสดงความคิดเห็นในเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โดยชี้ว่า คดีฉ้อโกงประชาชน ยอมความไม่ได้ ไม่ใช่ฉ้อโกงส่วนตัว แม้จะมีผู้เสียหายเพียงคนเดียว แต่หากการกระทำนั้นกระทำผ่านระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งประชาชนทั่วไปพบเห็นได้ การกระทำนั้นเป็นการฉ้อโกงประชาชน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
