2 ทนายความ วิเคราะห์แนวทางกฎหมายจากข่าว บาส มีดคู่ โดนวัยรุ่น 6 คนล้อมบ้าน ก่อนวิ่งไปแทงดับ 2 ศพ มองได้ทั้ง สมัครใจทะเลาะวิวาท หรือ บันดาลโทสะ ยังมีลุ้นโทษเบา
กลายเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก กรณีที่แก๊งวัยรุ่น 6
คน บุกบ้านของ บาส คล้ายไปหาเรื่อง
ต่อมาบาสวิ่งถือมีดออกไปต่อสู้จนทำให้กลุ่มวัยรุ่นเสียชีวิต 2 ราย
ซึ่งเคสนี้หลังเกิดเหตุบาสโดนจับกุมแค่คนเดียว รวมทั้งถูกตั้งข้อหาหนักคือ
ฆ่าคนตาย และพยายามฆ่า แต่โซเชียลบางส่วนเห็นใจบาส
และมองว่าน่าจะเป็นการป้องกันตัวหรือไม่ อ่านข่าว : สรุปประเด็น วัยรุ่นตามถึงบ้าน 6 รุม 1 แจกของลับสู่การฆ่า ฆาตกรรมหรือป้องกันตัว
เกี่ยวกับแนวทางเรื่องกฎหมายคดีนี้มีหลายมุมมอง โดยวานนี้ (14 ตุลาคม
2564) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ วิเคราะห์ผ่านรายการ โหนกระแส ระบุว่า
เรื่องนี้แยกเป็นสองกรณี เรื่องการป้องกันจะไม่มีความผิด แต่ดูลักษณะแล้ว
ฝ่ายหนึ่งมาท้า อีกฝ่ายรับคำท้า เดินออกจากบ้านเอามีดไปแทงเขา
ถ้าเป็นลักษณะมีคนท้าอีกคนรับคำท้า แบบนี้เรียกว่าสมัครใจวิวาทกัน
เป็นผู้ต้องหาทั้งหมดเลย
ทั้งนี้
ฝ่ายที่ตายหรือได้รับบาดเจ็บ ถ้าคิดว่าป้องกันตัวก็ต้องไปพิสูจน์กัน
มองว่าเป็นลักษณะบันดาลโทสะ
แต่ก็ต้องดูว่าเรามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วยไหมหรือไม่อย่างไร
คดีนี้ยังไม่ยุติ สามารถหาพยานหลักฐานไปพิสูจน์กันได้
แต่ถ้าใครเอาของมาเขวี้ยงบ้านเราแล้ว เราไปฆ่าเขา
ก็อาจเกินกว่าเหตุหรือบันดาลโทสะ กรณีนี้ยังไม่ชัด
ต้องให้ตำรวจเป็นฝ่ายแจ้งข้อหา ส่วนที่ฝ่ายวัยรุ่นยังไม่โดนแจ้งข้อหา
(ฝ่ายบาส) ก็ต้องไปบอกตำรวจ
ส่วนตำรวจจะแจ้งข้อหาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
ขณะที่ วันที่ 15 ตุลาคม 2564
ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ระบุว่า เคสบาส ณัฐวุฒิ มือมีด ทนายมองว่า ไม่อาจอ้างป้องกันตัวได้
แต่การที่นายบาสใช้มีดแทงคนตาย และทำร้ายกลุ่มเพื่อนคนตาย
เกิดจากกลุ่มผู้ตายข่มเหงจิตใจอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้นายบาสบันดาลโทสะ
จึงลงมือกระทำต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น
และไม่น่าจะเป็นเรื่องของการสมัครใจทะเลาะวิวาทแต่อย่างใด
หากทางพิจารณาเป็นไปเช่นนี้ เชื่อว่า ศาลจะเมตตา ลงโทษสถานเบา
ขอบคุณข้อมูลจาก
โหนกระแส,
ทนายเกิดผล แก้วเกิด