สาวระบาย ใช้ชีวิตคู่ 5 ปี ช่วยพ่อแม่ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน สุดท้ายฝ่ายชายสุดทน ซัดเห็นแก่ตัว มองครอบครัวเป็นภาระ แทนที่จะเอาเงินมาสร้างอนาคตร่วมกัน
จากนั้นเธอได้ทำอาชีพขายของเป็นหลัก ต่อมาแฟนลาออกมาช่วยกันขาย ช่วง 2 ปีแรก มีรายได้ดี ภาระที่เธอต้องส่งเสียไม่ได้เป็นปัญหาอะไร คู่เธอใช้เงินร่วมกัน มีการผ่อนรถที่ใช้กับแฟนอีก 1 คัน ส่วนแฟนนั้นมีนำเงินไปจ่าย กยศ. ค่ากิน ค่าใช้ ค่าบัตร โดยรวมทุก ๆ อย่าง แต่ช่วงโควิดเริ่มขายของไม่ดี เงินที่เก็บไว้เริ่มค่อย ๆ หมด แฟนไม่มีความเป็นผู้นำ เธอพยายามหาเงินเพื่อส่งเสียภาระตัวเอง แต่แฟนไม่ค่อยช่วยเหลือเรื่องงานและคอยขัดตลอด บอกว่าที่บ้านของเธอเป็นภาระ ทำให้เธอต้องออกไปทำงานหาเงินคนเดียว แฟนจะช่วยแต่ส่วนที่เป็นรายได้ด้วยกัน สุดท้ายบอกกับเธอว่าไม่มีความสุขเลย มีแต่ความทุกข์ ทำไมไม่สร้างอนาคตด้วยกัน ว่าเธอเห็นแก่ตัว ทำให้เธอตัดสินใจแยกทาง และแฟนนั้นจะให้เธอชดใช้เงินส่วนที่เธอส่งบ้านส่งรถให้ครอบครัวด้วย จึงไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร
หลังกระทู้ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นแตกต่างมุมมอง
ในส่วนที่เห็นด้วยมองว่าเธอไม่ผิด
เพราะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็ต้องช่วยกันแบ่งเบาภาระทั้งหมด เรื่องนี้แฟนรู้ตั้งแต่คบกันแล้วว่าเธอมีภาระอะไรบ้าง
มองว่าพอถึงจุดลำบากกลับมาบอกว่าเป็นภาระ
ซึ่งเรื่องนี้แฟนนั้นเห็นแก่ตัวเกินไปหรือไม่
ขณะที่บางส่วนมองว่า
ในมุมของคนที่ใช้เงินร่วมกันก็อาจจะน้อยใจที่ในตอนที่ชีวิตคู่ลำบาก
แต่ครอบครัวของฝ่ายหญิงยังคงจะขอแต่เงินจำนวนเท่าเดิม
จึงอาจทำให้คิดได้ว่าทำไมครอบครัวเธอถึงไม่สามารถแบ่งเบาค่าใช้จ่ายอะไรได้เลย
ดังนั้นเธอจึงเป็นฝ่ายที่ไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่มากกว่า
ต่อมาเจ้าของกระทู้ เผยเพิ่มเติมว่า หลังได้ฟังหลายมุมมองทำให้ตอนนี้ตัดสินใจออกมาใช้ชีวิตคนเดียวเพราะคงทิ้งพ่อแม่ไม่ได้ ยืนยันว่าที่ผ่านมาเธอนั้นหาเงินเป็นหลัก ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกับแฟน เวลาพี่น้องเขาต้องการใช้เงินเธอให้โดยไม่เคยขอคืน จึงเผลอคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนกัน หลังจากนี้ก็จะคืนเงินค่ารถที่ใช้ร่วมกันครึ่งหนึ่ง ส่วนชีวิตคู่ก็ต้องแยกกัน เพราะเธอคงเอาเปรียบเขามาตลอด จากนี้ก็ขอให้เขาได้ไปเจอคนดี ๆ