แม่เด็กเปิดใจทั้งน้ำตา โทษตัวเองดูแลลูกไม่ดี ป้องสามีทำไปเพราะอยากให้ลูกเชื่อฟัง อ่านหนังสือ ส่วนเหตุการณ์เอาสายเคเบิลมามัด ยอมรับว่าไม่เห็นเหตุการณ์ เข้าห้องน้ำพอดี และวันเกิดเหตุสามีไม่ได้เมา
จากกรณีที่นายวิรัช แซ่เฮ้ง พ่อเลี้ยงทำร้าย น้องเหนือ ลูกเลี้ยงวัย 8 ขวบจนเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ตำรวจก็ควบคุมตัวเอาไว้ฝากขังแล้ว เรื่องนี้สร้างความโกรธแค้นแก่สังคมมาก เพราะเป็นเหตุที่รุนแรง ทำเด็ก 8 ขวบถึงตาย ส่วนอีกคนที่โดนเละไม่แพ้กันคือแม่แท้ ๆ ของเด็ก ที่ไม่ห้ามพ่อเลี้ยงทั้งที่อยู่ในเหตุการณ์ เรื่องราวบานปลายจนถึงขั้นน้องชายแท้ ๆ ตบหน้ากลางงานศพ บอกว่า มึงต่างหากที่สมควรตาย
อ่านข่าว : แตกหัก ! แม่เด็ก 8 ขวบเจอน้องชายตบหน้า มึงต่างหากสมควรตาย พ่อเลี้ยงหวิดโดนตื้บ
ล่าสุด วันที่ 22 ตุลาคม 2564 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า แม่เด็กให้ปากคำเพิ่มเติมต่อหน้าสหวิชาชีพ เสร็จแล้วก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ซึ่งข้อมูลที่ได้ไม่ค่อยตรงกับตำรวจ ค่อนข้างพูดวกวนว่า ทางแม่เด็กบอกว่า ตนเสียใจเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเป็นลูก ไม่ขอโยนความผิดให้ใคร ไม่โทษใคร โทษตัวเองที่ดูแลลูกไม่ดี ที่ผ่านมา สามีตีลูกเป็นบางครั้ง แต่ตนไม่กล้าห้าม ไม่ใช่ว่าเพราะกลัวถูกทำร้าย แต่ถ้าเข้าไปห้ามกลัวลูกจะถูกทำร้ายมากกว่าเดิม ส่วนสาเหตุที่สามีตีลูก เพราะอยากให้ลูกเชื่อฟัง ไม่อยากให้เด็กโกหก เด็กไม่ชอบอ่านหนังสือ พอจะสอบก็ไม่อ่าน ดังนั้นเวลาอ่านไม่ได้ก็จะตี
ส่วนกรณีที่เอาสายเคเบิลไทร์มามัด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว แต่วันเกิดเหตุก่อนที่ลูกจะเสียชีวิต ตนไปอาบน้ำ ออกมาก็ไม่เห็นอะไร กระทั่งสามีมาบอกว่าลูกหมดสติ ตนเข้าไปดูก็เห็นลูกนิ่ง แต่ยังหายใจอยู่ จึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาล พร้อมยืนยันแทนสามีด้วยว่า วันนั้นไม่ได้ดื่มสุรา
ทั้งนี้ จากการสอบถามกับญาติ พบว่า แม่ของน้องเหนือมีสามีแล้ว 4 คน และนายวิรัชคือคนที่ 4 โดยก่อนหน้านี้ แม่ของน้องเหนือมีลูกสาวคนโตอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากสามีคนแรก จากนั้นก็เจอกับสามีคนที่ 2 ก็มีน้องเหนือ และเลิกรากับสามีคนที่ 2 ก็ไปมีสามีคนที่ 3 แต่สามีคนที่ 3 ค่อนข้างรักเด็กทั้ง 2 คน จนกระทั่งไปเจอกับนายวิรัช ซึ่งเป็นสามีคนที่ 4 และทำร้ายร่างกายน้องเหนือจนถึงแก่ความตาย
ในขณะเดียวกัน เพจ Drama-addict ได้เผยว่า คนเป็นแม่น่าจะถูกทำร้ายความรู้สึกอย่างรุนแรง จากการที่เธอให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ บรรจงชงข่าว ว่า เธอไม่สามารถเลิกกับนายวิรัชได้ เพราะนายวิรัชดีกับเธออย่างมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีที่นายวิรัช แซ่เฮ้ง พ่อเลี้ยงทำร้าย น้องเหนือ ลูกเลี้ยงวัย 8 ขวบจนเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ตำรวจก็ควบคุมตัวเอาไว้ฝากขังแล้ว เรื่องนี้สร้างความโกรธแค้นแก่สังคมมาก เพราะเป็นเหตุที่รุนแรง ทำเด็ก 8 ขวบถึงตาย ส่วนอีกคนที่โดนเละไม่แพ้กันคือแม่แท้ ๆ ของเด็ก ที่ไม่ห้ามพ่อเลี้ยงทั้งที่อยู่ในเหตุการณ์ เรื่องราวบานปลายจนถึงขั้นน้องชายแท้ ๆ ตบหน้ากลางงานศพ บอกว่า มึงต่างหากที่สมควรตาย
อ่านข่าว : แตกหัก ! แม่เด็ก 8 ขวบเจอน้องชายตบหน้า มึงต่างหากสมควรตาย พ่อเลี้ยงหวิดโดนตื้บ
ล่าสุด วันที่ 22 ตุลาคม 2564 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า แม่เด็กให้ปากคำเพิ่มเติมต่อหน้าสหวิชาชีพ เสร็จแล้วก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ซึ่งข้อมูลที่ได้ไม่ค่อยตรงกับตำรวจ ค่อนข้างพูดวกวนว่า ทางแม่เด็กบอกว่า ตนเสียใจเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเป็นลูก ไม่ขอโยนความผิดให้ใคร ไม่โทษใคร โทษตัวเองที่ดูแลลูกไม่ดี ที่ผ่านมา สามีตีลูกเป็นบางครั้ง แต่ตนไม่กล้าห้าม ไม่ใช่ว่าเพราะกลัวถูกทำร้าย แต่ถ้าเข้าไปห้ามกลัวลูกจะถูกทำร้ายมากกว่าเดิม ส่วนสาเหตุที่สามีตีลูก เพราะอยากให้ลูกเชื่อฟัง ไม่อยากให้เด็กโกหก เด็กไม่ชอบอ่านหนังสือ พอจะสอบก็ไม่อ่าน ดังนั้นเวลาอ่านไม่ได้ก็จะตี
ส่วนกรณีที่เอาสายเคเบิลไทร์มามัด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว แต่วันเกิดเหตุก่อนที่ลูกจะเสียชีวิต ตนไปอาบน้ำ ออกมาก็ไม่เห็นอะไร กระทั่งสามีมาบอกว่าลูกหมดสติ ตนเข้าไปดูก็เห็นลูกนิ่ง แต่ยังหายใจอยู่ จึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาล พร้อมยืนยันแทนสามีด้วยว่า วันนั้นไม่ได้ดื่มสุรา
ทั้งนี้ จากการสอบถามกับญาติ พบว่า แม่ของน้องเหนือมีสามีแล้ว 4 คน และนายวิรัชคือคนที่ 4 โดยก่อนหน้านี้ แม่ของน้องเหนือมีลูกสาวคนโตอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากสามีคนแรก จากนั้นก็เจอกับสามีคนที่ 2 ก็มีน้องเหนือ และเลิกรากับสามีคนที่ 2 ก็ไปมีสามีคนที่ 3 แต่สามีคนที่ 3 ค่อนข้างรักเด็กทั้ง 2 คน จนกระทั่งไปเจอกับนายวิรัช ซึ่งเป็นสามีคนที่ 4 และทำร้ายร่างกายน้องเหนือจนถึงแก่ความตาย
ในขณะเดียวกัน เพจ Drama-addict ได้เผยว่า คนเป็นแม่น่าจะถูกทำร้ายความรู้สึกอย่างรุนแรง จากการที่เธอให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ บรรจงชงข่าว ว่า เธอไม่สามารถเลิกกับนายวิรัชได้ เพราะนายวิรัชดีกับเธออย่างมาก
