รวมทุกข์คนธนาคาร ฉากหน้าไฮโซ ฉากหลังกลืนน้ำตา สรยุทธเล่าข่าวยังปรี๊ดแทน

          ถือเป็นข่าวใหญ่ไม่น้อย กับกรณีที่พนักงานธนาคารคนหนึ่ง ออกมาเผยเหตุผลของการลาออกจนคนแชร์กันมหาศาล จากการที่เธอถูกกดดันยอด โดยเฉพาะยอดประกัน จนต้องซื้อเอาไว้เอง ซึ่งล่าสุด เพจต่าง ๆ ได้เปิดพื้นที่ให้พนักงานธนาคารมาเล่าเรื่องราวความทุกข์ใจ และระบายถึงสภาวะการทำงาน ที่เบื้องหน้าสวยดูดี แต่เบื้องหลังทุกคนต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน ทั้งจากตัวลูกค้า และตัวธนาคารเอง

          อ่านเพิ่มเติม : สาวแบงก์ลาออก พลีชีพโพสต์แฉธนาคาร บังคับขายประกัน ขายไม่ได้ต้องซื้อเอง !
          ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Drama-addict ได้เปิดพื้นที่ให้พนักงานธนาคาร ส่งเรื่องเข้ามาเพื่อพูดคุยถึงชีวิตการทำงานของคนธนาคาร ที่เบื้องหน้าในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ใส่ยูนิฟอร์มหรูหรา แต่เบื้องหลังชีวิตแต่ละคนต้องอาบน้ำตา เมื่อถูกกดดันยอด

ชีวิตสุดช้ำทำงานธนาคาร พัก 15 นาที ทำงานโอฟรีไม่มีค่าแรง โดนกดดันทั้งกายใจจนฉี่เป็นเลือด

          ทั้งนี้ ได้มีคนหนึ่งออกมาเผยว่า เธอเป็นอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง เธอทำงานได้ 8 เดือนก็ลาออก เพราะงานกดดันมหาศาล เริ่มตั้งแต่เวลาเข้างานที่ต้องมาไม่เกิน 07.00 น. แต่เวลากลับบ้านคือ 19.00-20.00 น. ทั้งที่ธนาคารปิด 15.30 น. ส่วนเวลาพักไม่ต้องพูดถึง เพราะสาขาที่ทำ ให้เวลาพักแค่ 15 นาที

          ทั้งนี้ เมื่อธนาคารปิด ผู้จัดการจะเริ่มเดินถามยอดแต่ละคน ใครที่ไม่มียอด จะโดนถามว่าทำไมไม่ได้ เป็นการถามยอดแบบตะโกนถามเพื่อให้ถูกเปรียบเทียบและกดดัน วันหยุดก็ไม่ไห้หยุด เป็นการใช้จิตอาสาให้ไปเดินตลาดเพื่อหาลูกค้า แต่จริง ๆ คือบังคับให้ทุกคนไปเดินเพื่อหาลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมาย ลางานก็ไม่ได้ เคยลาป่วยครั้งหนึ่ง โดนด่าเหมือนไปทำคนตาย

          นอกจากนี้ ลูกค้าก็เยอะ ปิดเคาน์เตอร์ 5 นาทีก็โดนคอมเพลน ไปห้องน้ำไม่ได้ พนักงานต้องอั้นปัสสาวะจนปัสสาวะเป็นเลือด ทำให้ตนทนไม่ไหว และแจ้งลาออกเพราะปัญหาสุขภาพ

          "ทุกวันนี้รู้สึกโชคดีที่ลาออกมามาก ๆ"

โดนกดดันยอดประกันด้วยวาจา ขายไม่ได้เชิญย้ายไปที่อื่น - มีผลกับเงินเดือน

          นอกจากนี้ ยังมีอดีตพนักงานธนาคารอกีคนที่มาเผยว่า เรื่องการกำหนดยอดประกันเป็น KPI นั้น ทางธนาคารทราบดีว่าทำไม่ได้เพราะโดนแบงก์ชาติกำหนด จึงกดดันด้วยวาจาและวิธีอื่น เช่น ย้ายไปพื้นที่ห่างไกล ย้ายไปในที่ ๆ ไม่ใช่ภูมิลำเนา หรือมีผลต่อการประเมินประจำปี ซึ่งมีผลต่อการขึ้นเงินเดือน โบนัส และการเลื่อนตำแหน่ง

          พนักงานเองก็ทำงานกันกดดัน หากทำไม่ได้เป้า ก็ต้องเข้ามาทำงานวันเสาร์-อาทิตย์ วันธรรมดาก็ทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้โอที ผู้บริหารมักจะบอกให้เสียสละเพื่อผลงาน เพื่อเป้าหมาย บอกว่าที่เรามีบ้านมีรถใช้ทุกวันนี้ เพราะธนาคาร

สรยุทธ์สัมภาษณ์อดีตพนักงาน ลามไปพูดถึงปัญหาประกัน mrta ลูกค้าจ่ายเพื่อให้ธนาคารได้ หลักการอะไร

          ด้านสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้เล่าข่าวนี้ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ และสัมภาษณ์อดีตพนักงานธนาคารคนหนึ่ง ที่เผยว่า สมมุติธนาคารมีพนักงาน 10 คน ทั้ง 10 คนต้องขายประกันให้ได้ โดยประกันต้องมีค่าเบี้ยอย่างต่ำ 3,000 บาท ซึ่งทั้ง 10 คน อาจจะมีแค่ 3-4 คน ที่หาลูกค้ามาได้จริง แต่มีบางส่วนที่ไม่รู้จะขายประกันให้ใคร ก็ต้องขายให้คนในครอบครัว ขายให้ตัวเอง และถ้าขายไม่ได้ตามวันที่กำหนด ก็จะโดนกดดันยอดให้ขายให้ได้ 2 เท่า จากเบี้ย 3,000 เป็น 6,000 บาท

          และถ้าพนักงานคนนั้นขายไม่ได้จริง ๆ จะโดนกดดันไปเรื่อย ๆ ว่าต้องทำให้ได้ ขายให้ได้ พนักงานเมื่อเจอลูกค้า ก็จะไปขอร้องให้ลูกค้าช่วยซื้อ จนลูกค้าก็อึดอัด
          ด้านสรยุทธเผยว่า ประกันเป็นเรื่องดี ถ้าไม่สมเหตุสมผลมันก็เป็นเรื่องร้าย ปกติคนไปธนาคารก็ไปทำธุรกรรมการเงิน ถ้าพนักงานถามเรื่องประกันแล้วลูกค้าไม่ซื้อก็จบ แต่ยิ่งธนาคารไปบังคับพนักงาน พนักงานก็มาบีบกับลูกค้า ก็จะยิ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ลูกค้า
          นอกจากนี้ สรยุทธยังพูดถึงกรณีกู้เงินซื้อบ้าน แต่พนักงานจะเสนอขายประกันประเภท mrta ที่ถ้าหากคนซื้อบ้านเกิดเหตุร้าย เช่นเสียชีวิตหรือพิการ คนที่ได้รับเงินจากการประกันนั้น จะเป็นธนาคาร ไม่ใช่ผู้ซื้อประกัน นั่นเท่ากับว่า ลูกค้าซื้อประกันจากธนาคาร เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นมา ธนาคารก็จะจ่ายเงินให้ตัวเอง และลูกค้าก็จะได้บ้านไป

          "คือคุณจะไม่เสี่ยงเลยใช่ไหม ธนาคารคุณปล่อยกู้เนี่ย คุณจะเอาเกณฑ์ที่ว่า กลัวลูกค้าจะเป็นอะไรไปแล้วคุณจะไม่ได้เงินคืนเนี่ย ธนาคารต้องซื้อเอง ให้ลูกค้าซื้อให้ คือมันมีตรรกะที่ไหนน้องไบรท์ คนที่ซื้อแปลว่าคนนั้นได้รับประโยชน์ ครอบครัวของเรา พ่อแม่เรา แต่ไอ้นี่เราซื้อประกันให้ธนาคารรับประโยชน์ หลักการอะไร และก็ปล่อยให้ขายกันแบบนี้ ?"