เสี่ยทุเรียนทอดวัย 64 ปี ฟิวส์ขาดยิงนักศึกษาสาวปี 4 ดับคารถ หลังจับได้ว่ามีการคบซ้อน พบเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีแต่ยังคุยกับคนอื่น ด้านพ่อเห็นศพลูกแล้วเข่าอ่อน แต่พอเห็นหน้าผู้ต้องหา ถึงกับกระโดดถีบเต็มแรง
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทุบรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตในปั๊มบางจาก ถ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทุบรี จึงเข้าไปตรวจสอบ พบรถยนต์โตโยต้า แคมรี่ สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน 1 ขด 2858 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ตรงปั๊มน้ำมัน ส่วนที่นั่งฝั่งคนขับ มีศพนางสาวดนัยพร หรือน้องแตงกวา วัย 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านบางเขน ถูกยิงด้วยปืนแบลงค์กันจำนวน 3 นัด ใต้ราวนมด้านซ้าย 2 นัด สะโพกด้านซ้าย 1 นัด ขณะเดียวกัน ภายในรถก็มีปลอกกระสุนปืน .380 ตกอยู่ 3 ปลอก
ต่อมา พ่อและแม่ของน้องแตงกวา เดินทางมาที่ สภ.บางศรีเมือง ทันทีที่แม่ของน้องแตงกวาเห็นศพลูกสาว ก็ร่ำไห้เข่าอ่อนจนเป็นลม เหลือแต่พ่อที่รอทำเอกสารในห้องรับแจ้งความคนเดียว จังหวะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ชื่อ นายกิตติภูมิ วัย 64 ปี พ่อค้าขายทุเรียนทอดในห้างสรรพสนิค้า เมื่อพ่อน้องแตงกวาเห็นผู้ต้องหา ก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ กระโดดถีบหลังผู้ต้องหาอย่างรุนแรงจนตำรวจต้องเข้ามาห้ามปราม และนำผู้ต้องหาเข้าห้องขัง
เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า จากการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ต้องหาขับรถมาปะยางภายในปั๊ม จากนั้นเดินเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ฝ่ายหญิงนั่งรอในรถ สักพักช่างร้านปะยางก็ได้ยินเสียงปืนขึ้น พบว่าฝ่ายหญิงถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ขณะที่ผลการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การว่า ฝ่ายหญิงทำงานเป็นเด็กฝึกงานที่ร้านขายของใกล้ ๆ กับร้านของตน ทำให้รู้จักกันและพูดคุยกันถูกคอ ก่อนเริ่มคบหาดูใจ ที่ผ่านมาก็คอยดูแลไปรับไปส่ง เลี้ยงดูโดยตลอด และก่อนเกิดเหตุนั้น ฝ่ายหญิงโทรศัพท์มาหาให้ตนพาไปซื้อโน้ตบุ๊ก ตนก็ตอบตกลง ขับรถไปด้วยกัน แล้วก็แวะปั๊มจุดเกิดเหตุ
ตนจับได้ว่า ฝ่ายหญิงแอบคบซ้อน มีการแชตคุยกับหนุ่มอื่น เมื่อลงจากรถก็หยิบปืนออกมา เพื่อถามคาดคั้นว่า แอบคบชายอื่นจริงไหม ทางฝ่ายหญิงก็พยายามปฏิเสธ ทำหน้าไม่พอใจ ตนโมโหจึงยิงปืนใส่ ฝ่ายหญิงโมโหถีบตนออกมา ตนก็ยิงไปอีก 2 นัดจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุคิดจะยิงตัวตายตาม แต่ตำรวจมาล็อกตัวเสียก่อน
ส่วนเพื่อนของผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายมีแฟนอยู่แล้ว เพิ่งคบกันประมาณ 7-8 เดือน และก็มีการคุยซ้อนกับผู้ต้องหาด้วย ภายหลังทางผู้ต้องหาน่าจะทราบระแคะระคาย จึงโทรศัพท์มาถามตนเรื่องนี้ ตนก็ตอบว่า ไม่รู้ เพราะอยากปกป้องเพื่อน ที่ผ่านมา ตนคิดว่าทั้งสองคนเลิกยุ่งกันไปแล้ว ไม่คิดว่ายังติดต่อกันอยู่ เพราะผู้ต้องหาเป็นคนที่หึงหวงและชอบทำตัวเป็นเจ้าของมาก
