พิมรี่พาย ไลฟ์สดร่ายยาว ฝากถึงทนายดัง ชี้กล่องสุ่มพิมรี่พาย 1 แสนบาท เข้าข่ายการพนัน ฉ้อโกง ลั่น น้อมรับคำตักเตือน ยันส่งของไปให้ตามมูลค่าที่ตกลง ที่เหลือกูอยากให้เอง ผิด พ.ร.บ. ข้อไหน ว่ามา !
อ่านข่าว : อาจารย์จุฬาฯ วิเคราะห์กล่องสุ่ม พิมรี่พาย ทำไมถึงสำเร็จ จ่ายแพงโดยไม่รู้จะได้อะไร
อ่านข่าว : กล่องสุ่มพิมรี่พาย ทนายดังเผย ส่อผิดกู้ยืมเงิน - ฉ้อโกง ถ้าครั้งหน้าให้น้อย เสร็จแน่ !
อ่านข่าว : กล่องสุ่มพิมรี่พาย ทนายดังเผย ส่อผิดกู้ยืมเงิน - ฉ้อโกง ถ้าครั้งหน้าให้น้อย เสร็จแน่ !
ล่าสุด (3 ธันวาคม 2564) พิมรี่พาย ก็ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านเพจ เฟซบุ๊ก อิส คิวท์ คลินิก คลินิกเสริมความงามของเธอเอง โดยช่วงหนึ่งของการไลฟ์พิมรี่พาย ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกกล่าว ว่า ไลฟ์วันนั้นพิมไม่ได้ประกาศข้อมูลที่เกินจริงในการโฆษณาขายเลย ทนายท่านใดดูอยู่ กราบตีนให้ตอบตรงนี้เลยค่ะ มาตรา 8 ของ พ.ร.บ.การพนัน ระบุเอาไว้ว่า การจัด การแถม หรือรางวัลว่าด้วยการเสี่ยงโชคด้วยวิธีการใด ๆ ในการประกอบการค้าหรืออาชีพจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตถึงจะทำได้
ทั้งนี้ พิมไม่ได้ประกาศเลยว่า พิมจะแจกรถ แจกทอง หรือแจกไอโฟน วันนั้นเราตกลงกันว่า เราจะให้เครื่องสำอางสุ่มที่มีมูลค่า 1 แสนบาท เพราะลูกค้าเป็นคนบอกว่าเปิดหน่อย เราสันดานแม่ค้าเราขาย มันเป็นเจตนาทั้งสองฝ่ายที่ทำการตกลงกัน "กูซื้อมึงขายไหม เอ้า กูขายมึงซื้อ" ไม่ได้มีคำว่า "ลุ้นรับรถ ลุ้นรับทองคำ ลุ้นรับไอโฟน" ไม่ได้เกี่ยวข้องไปกับการเสี่ยงโชคแต่อย่างใด แต่ลูกค้าทุกท่านที่ได้ของไป เกิดจากหัวจิตหัวใจของแม่ค้าคนนี้ที่อยากจะให้ลูกค้า
เพราะว่าสำนึกในบุญคุณ ทุกวันนี้ที่มีที่ยืนอยู่ได้ สมัยก่อนไปออกรายการไหนเขาก็ดูถูกเหยียดหยาม เป็นแค่แม่ค้าออนไลน์จะอะไรกันนักกันหนา เขาเสนอชื่อให้ไปออกรายการ อุ้ยไม่คลิก อุ้ยไม่จอย วันนี้แม่ค้าออนไลน์คนนี้มีศักดิ์ศรี มีที่ยืนได้ก็ตังค์คุณลูกค้าทั้งนั้น ให้คุณค่า ให้โอกาส แล้วทำไมตนจะให้รถ ให้ไอโฟน หรือทองกับเขาคืนให้สมกับที่เขาไว้ใจ ให้มากกว่าเครื่องสำอางทำไมจะให้ไม่ได้เมื่อมันเป็นสิทธิ์ของตนที่จะแถมให้ลูกค้า
จากใจแม่ค้า ถึงผู้ใหญ่และทนายความทั้งหลาย เลิกวิเคราะห์สักที ท่านต่อคิวเถอะมันเยอะ !!
นอกจากนี้ พิมรี่พาย ฝากถึงผู้ใหญ่และทนายความด้วยว่า เราเคารพทุกการตักเตือน รู้สึกว่าท่านมีบุญคุณกับเรา เพราะท่านปรารถนาดีกับเรา แต่เราจะบอกท่านว่า ท่านต่อคิวเถอะมันเยอะ !! แล้วเลิกวิเคราะห์สักที ท่านเลิกใช้เหตุผลในตำรา เพราะมันทำให้ท่านลืมสัญชาตญานความเป็นคน ที่จะตอบแทนบุญคุณของคนที่โอนเงินมาให้ก่อน โดยที่ไม่คิดอะไร นอกจากความไว้ใจ ดิฉันใช้สันดาน สัญชาตญาน ใช้หัวใจ ความรู้สึก แล้วก็ตอบแทนบุญคุณของคนที่จะให้ ดิฉันให้คุ้มทุกกล่อง เครื่องสำอางเกินแสนทุกกล่อง ดิฉันขาดทุนทุกกล่อง ดิฉันไม่เคยนึกถึงหลักเหตุและผล การตลาดใด ๆ พ่อแม่ดิฉันไม่ได้สอน ไม่ได้ส่งเรียน ไม่มีความรู้ แต่ดิฉันมีแค่อย่างเดียวคือ ดิฉันรู้จักบุญคุณของคนแค่นั้นเอง
แล้วคุณทนายนะคะ ขอฝากไว้เลยนะคะ ว่าถ้าคุณจะตักเตือนดิฉัน ดิฉันน้อมรับคำตักเตือนทุกข้อ แต่ขอชี้แจงนะคะ ไม่ใช่ว่าคุณอ่านหนังสือเยอะแล้วคุณจะมาพูดเหี้..ไรก็ได้ เอาข้อกฎหมายมาขู่ พูดตรง ๆ ไม่กลัวค่ะ เป็นไงเป็นกัน กูให้ของลูกค้ากูผิดเหี้..อะไรหนักหนา กูแถมของกูผิดอะไร วันนั้นดิฉันไม่ได้พูดล่อลวงให้ลูกค้าโอนเงินมา ไม่ได้พูดถึงการชิงโชค การสุ่มเสี่ยง
แล้วจากข้อเท็จจริงในไลฟ์วันนั้น ไม่ได้บอกว่าจะแถมหรือแจกอะไร ไม่ได้ให้ความหวังเลย เพียงแต่พูดว่าจะขายเครื่องสำอางและน้ำหอมสุ่มสกินแคร์ 1 แสนบาทเท่านั้น แล้วที่บอกว่าการชวนเล่นเกมก็ไม่มี ไม่มีการชักชวนให้ลงทุนหรือลักษณะการกู้ยืมเงินก็ไม่มี แล้วที่เอาเงินลูกค้ามาก่อนแล้วก็ค่อยไปซื้อของจะให้ก็ไม่มี เพราะเครื่องสำอางและสกินแคร์ลูกค้าของดิฉันซื้อ เพราะดิฉันมีของอยู่ในคลังสินค้าอยู่แล้ว ดิฉันแค่จะใส่อะไรก็แล้วแต่ดิฉัน
ลูกค้าซื้อ 1 แสนบาท เอาไปใช้สอยหรือเอาไปใช้งานเป็นสิทธิ์ของลูกค้าแต่ละคน แม่ค้ามีหน้าที่ส่งมอบหรือของแถมอะไรก็เป็นสิทธิ์ของแม่ค้าที่จะให้ลูกค้าโดยความสมัครใจ ถามว่าหลอกลวงไหม ฉ้อโกงไหม เปล่า ! ส่งของไปให้มูลค่าตามข้อตกลงคือ น้ำหอม สกินแคร์ เครื่องสำอาง 1 แสนบาท ที่เหลือกูอยากให้เอง ผิด พ.ร.บ. ข้อไหน ว่ามา !!
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก อิส คิวท์ คลินิก
