อธิบดีอัยการ แถลงข่าวคดีเสือดำ เปรมชัย ถูกสั่งจำคุก 2 ปี 14 เดือน เผยเหตุผลที่ทำไมถูกแก้โทษไป-มา - ถูกยกฟ้องบางข้อหา ทั้งเรื่องการแก้กฎหมาย และคำร้องที่ฟังไม่ขึ้น
จากกรณีข่าวที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ถูกศาลฎีกาสั่งในคดีเสือดำ ซึ่งคดีดังกล่าวนั้น ในศาลชั้นต้น สั่งจำคุกนายเปรมชัย 16 เดือน แต่ชั้นศาลอุทธรณ์มีการเพิ่มโทษ ทำให้ต้องจำคุก 2 ปี 14 เดือน ซึ่งนายเปรมชัย ก็ได้ยื่นเรื่องฎีกา จนกระทั่งศาลฎีกา พิพากษาสั่งจำคุก 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และนำตัวส่งเข้าเรือนจำทันที
อ่านข่าว : ศาลฎีกาพิพากษา เจ้าสัวเปรมชัย คุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รออาญา คดีเสือดำ
อ่านข่าว : ศาลฎีกาพิพากษา เจ้าสัวเปรมชัย คุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รออาญา คดีเสือดำ
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ล่าสุด (8 ธันวาคม 2564) ที่สำนักอัยการสูงสุด ได้มีการแถลงข่าวคำตัดสินของศาลฎีกาในคดีดังกล่าว โดย นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แถลงข่าว พร้อมอธิบาย ดังนี้
- 30 เมษายน 2561 อัยการจังหวัดทองผาภูมิ ยื่นฟ้องนายเปรมชัย พร้อมพวก รวม 4 คน ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) โดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหาอื่น ๆ อีกหลายข้อหา
- 19 มีนาคม 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาจำคุกนายเปรมชัย 16 เดือน ส่วนจำเลยคนอื่น ๆ ได้รับโทษแตกต่างกันไป และมีการยกฟ้องทั้งหมดบางข้อหา โดยเฉพาะนายเปรมชัย ศาลยกฟ้องในข้อหาร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) แต่ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) แทน
- หลังจากนั้น อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามฟ้องของพนักงานอัยการทุกข้อหา
- 12 ธันวาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยพิพากษาลงโทษจำเลยทุกข้อหา เพิ่มเติมตามที่อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้ยื่นอุทธรณ์ โดยเพิ่มโทษนายเปรมชัย จำคุก 2 ปี 14 เดือน, นายยงค์ 2 ปี 17 เดือน, นางนที 1 ปี 8 เดือน รอการลงโทษให้ตามศาลชั้นต้น และนายธานี 2 ปี 21 เดือน
- เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนแล้ว อัยการของโจทก์ก็ไม่ยื่นฎีกา
- 30 เมษายน 2561 อัยการจังหวัดทองผาภูมิ ยื่นฟ้องนายเปรมชัย พร้อมพวก รวม 4 คน ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) โดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหาอื่น ๆ อีกหลายข้อหา
- 19 มีนาคม 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาจำคุกนายเปรมชัย 16 เดือน ส่วนจำเลยคนอื่น ๆ ได้รับโทษแตกต่างกันไป และมีการยกฟ้องทั้งหมดบางข้อหา โดยเฉพาะนายเปรมชัย ศาลยกฟ้องในข้อหาร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) แต่ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) แทน
- หลังจากนั้น อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามฟ้องของพนักงานอัยการทุกข้อหา
- 12 ธันวาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยพิพากษาลงโทษจำเลยทุกข้อหา เพิ่มเติมตามที่อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้ยื่นอุทธรณ์ โดยเพิ่มโทษนายเปรมชัย จำคุก 2 ปี 14 เดือน, นายยงค์ 2 ปี 17 เดือน, นางนที 1 ปี 8 เดือน รอการลงโทษให้ตามศาลชั้นต้น และนายธานี 2 ปี 21 เดือน
- เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนแล้ว อัยการของโจทก์ก็ไม่ยื่นฎีกา
- 31 มีนาคม 2563 นายเปรมชัย นายยงค์ และนายธานี ได้ยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาและอธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้แก้ฎีกาเรียบร้อยแล้ว
- วันนี้ (8 ธันวาคม 2564) ศาลฎีกาได้มีคำตัดสินแล้ว โดยมีคำพิพากษาว่าฎีกาของจำเลยทั้ง 3 นั้น ฟังไม่ขึ้น ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ
แต่อย่างไรก็ดี หลังจากมีการดำเนินคดีไปแล้วก็มีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2562 ให้ยกเลิกมาตรา 55 ซึ่งการกระทำของจำเลยทั้งสาม จึงไม่มีความผิดในส่วนนี้ ศาลฎีกาจึงยกฟ้องในความผิดส่วนนี้ และแก้ไขโทษของจำเลยทั้ง 3 คน ที่ได้ยื่นฎีกาโดยลดโทษลง โดยนายเปรมชัย จำคุก 2 ปี 6 เดือน, นายยงค์ 2 ปี 9 เดือน, นายธานี 2 ปี 13 เดือน และให้ชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่
- ส่วนกรณีที่จำเลยขอให้มีการรอการลงโทษนั้น ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยว่าคำขอนั้นฟังไม่ขึ้น จึงไม่รอการลงโทษ ดังนั้นคดีเสือดำจึงเป็นอันสิ้นสุด
- คดีนี้ต้องชื่นชมในชั้นพนักงานสอบสวนที่รวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนา โดยเฉพาะประจักษ์พยานหลักฐาน ที่พนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานบุคคลครบถ้วน รวมถึงวัตถุพยานที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ นำไปสู่การทำสำนวนคดีที่ครบถ้วนรัดกุม ทำให้พนักงานอัยการสามารถรวบรวมข้อเท็จจริงส่งฟ้องต่อศาลได้
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส
- วันนี้ (8 ธันวาคม 2564) ศาลฎีกาได้มีคำตัดสินแล้ว โดยมีคำพิพากษาว่าฎีกาของจำเลยทั้ง 3 นั้น ฟังไม่ขึ้น ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ
แต่อย่างไรก็ดี หลังจากมีการดำเนินคดีไปแล้วก็มีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2562 ให้ยกเลิกมาตรา 55 ซึ่งการกระทำของจำเลยทั้งสาม จึงไม่มีความผิดในส่วนนี้ ศาลฎีกาจึงยกฟ้องในความผิดส่วนนี้ และแก้ไขโทษของจำเลยทั้ง 3 คน ที่ได้ยื่นฎีกาโดยลดโทษลง โดยนายเปรมชัย จำคุก 2 ปี 6 เดือน, นายยงค์ 2 ปี 9 เดือน, นายธานี 2 ปี 13 เดือน และให้ชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่
- ส่วนกรณีที่จำเลยขอให้มีการรอการลงโทษนั้น ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยว่าคำขอนั้นฟังไม่ขึ้น จึงไม่รอการลงโทษ ดังนั้นคดีเสือดำจึงเป็นอันสิ้นสุด
- คดีนี้ต้องชื่นชมในชั้นพนักงานสอบสวนที่รวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนา โดยเฉพาะประจักษ์พยานหลักฐาน ที่พนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานบุคคลครบถ้วน รวมถึงวัตถุพยานที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ นำไปสู่การทำสำนวนคดีที่ครบถ้วนรัดกุม ทำให้พนักงานอัยการสามารถรวบรวมข้อเท็จจริงส่งฟ้องต่อศาลได้
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส