ศาลพิพากษาคดี หมวดแบงค์ ทำร้าย น้องจูน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อ 4 ปีก่อน มองไม่มีเจตนาจะฆ่า แต่บันดาลโทสะ โทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน รอลงอาญา 2 ปี
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
จากกรณีที่ น.ส.สุกฤตา สุภานิล หรือ น้องจูน ถูก ร.ต. ภาณุพงศ์ เจริญศรี หรือ หมวดแบงค์ อายุ 24 ปี อดีตสามี ลงมือทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กะโหลกส่วนหน้าแตกยุบ เบ้าตาด้านซ้ายแตก ต้องเจาะคอเพื่อช่วยชีวิต สมองบวม ส่งผลให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งและสลบไป 3 เดือน กลายเป็นคนพิการและเสียโฉม โดยเหตุเกิดเมื่อปี 2560
วันที่ 14 ธันวาคม 2564 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ศาลมณฑลทหารบกที่ 15 อ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว โดยช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก คดีจึงเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลทหาร และมีเพียงศาลเดียวเท่านั้น โดยวันนี้ น้องจูน ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ขณะที่อดีตสามีเดินทางมากับครอบครัว
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
โดยอัยการได้ยื่นฟ้องใน 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่า ใช้อาวุธปืน และชิงทรัพย์ โดยศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น ซึ่งศาลพิพากษาว่า
- ข้อหาพยายามฆ่า พิจารณาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่า แต่เป็นการทำร้ายร่างกายเนื่องจากบันดาลโทสะ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิดและถูกลงโทษ ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 12,500 บาท
- ข้อหาอาวุธปืน นำสืบไม่ได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย
- ข้อหาชิงทรัพย์ ไม่สามารถนำสืบได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย คดีนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
จากกรณีที่ น.ส.สุกฤตา สุภานิล หรือ น้องจูน ถูก ร.ต. ภาณุพงศ์ เจริญศรี หรือ หมวดแบงค์ อายุ 24 ปี อดีตสามี ลงมือทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กะโหลกส่วนหน้าแตกยุบ เบ้าตาด้านซ้ายแตก ต้องเจาะคอเพื่อช่วยชีวิต สมองบวม ส่งผลให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งและสลบไป 3 เดือน กลายเป็นคนพิการและเสียโฉม โดยเหตุเกิดเมื่อปี 2560
วันที่ 14 ธันวาคม 2564 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ศาลมณฑลทหารบกที่ 15 อ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว โดยช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก คดีจึงเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลทหาร และมีเพียงศาลเดียวเท่านั้น โดยวันนี้ น้องจูน ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ขณะที่อดีตสามีเดินทางมากับครอบครัว
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
โดยอัยการได้ยื่นฟ้องใน 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่า ใช้อาวุธปืน และชิงทรัพย์ โดยศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น ซึ่งศาลพิพากษาว่า
- ข้อหาพยายามฆ่า พิจารณาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่า แต่เป็นการทำร้ายร่างกายเนื่องจากบันดาลโทสะ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิดและถูกลงโทษ ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 12,500 บาท
- ข้อหาอาวุธปืน นำสืบไม่ได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย
- ข้อหาชิงทรัพย์ ไม่สามารถนำสืบได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย คดีนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้