ย้อนคดีหมอศรุต ตกตึกดับปริศนา ก่อนศาลตัดสินเป็นฝีมือของคนใกล้ชิด 2 คน ที่มีความสัมพันธ์ซับซ้อน พร้อมแจงเหตุผล ทำไมคดีนี้ถึงตัดสินช้า ทั้งที่ผ่านไปเป็น 10 ปี
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีที่ศาลอาญา มีการตัดสินคดีที่อัยการยื่นฟ้อง นพ.ปราโมทย์ มั่นเมือง จำเลยที่ 1 และนางสาวจิตวิมล สุขสุวรรณ จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังจากที่ นพ.ศรุต ทวีรุจจนะ เสียชีวิตปริศนาด้วยการตกตึกในปี 2553 ซึ่งศาลตัดสินให้ทั้งคู่ จำคุกคนละ 10 ปี ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีให้กับมารดาผู้ตาย
อ่านข่าว : ปิดฉากคดี 11 ปี ! จำคุก 10 ปี 2 เพื่อนสนิท ร่วมกันฆ่า หมอศรุต โยนจากชั้น 4 ไม่ใช่ตกตึกตาย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ย้อนวันเกิดเหตุ
วันเกิดเหตุ นพ.ศรุต ดื่มสุราจากร้านอาหารย่านรัชดา ออกจากร้านด้วยอาการมึนเมา และมีจำเลยที่ 1 (นพ.ปราโมทย์) พยุงขึ้นและลงจากแท็กซี่ จากนั้นก็มีภาพวงจรปิดของอาคารไดรฟ์อินอพาร์ทเมนต์ จับภาพได้ว่า นพ.ศรุต ล้มลงด้วยความมึนเมา ต่อมาก็มีการพา นพ.ศรุต ขึ้นอาคารมายังห้องพักจำเลยที่ 1 และ 2 (นางสาวจิตวิมล) กระทั่งเกิดเหตุการณ์ตกตึกดังกล่าว
ในตอนแรกของคดี มีการตั้งข้อสงสัยว่า นพ.ศรุต อาจจะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดอาคาร เนื่องจากเมามาก แต่ผลการชันสูตรพลิกศพ พบว่า มีบาดแผลที่ไม่ได้เกิดจากการตกจากที่สูง เช่น รอยช้ำด้านในแขน บาดแผลถลอกช่วงบั้นเอว เป็นต้น
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ผลการทดสอบชี้ชัด นพ.ศรุต ไม่ได้ฆ่าตัวตาย
ต่อมานักวิชาการฝ่ายโจทก์ ลองเอาหุ่นที่มีน้ำหนักเท่า นพ.ศรุต ใช้คน 2 คนโยนลงมาจากที่เกิดเหตุ พบว่า ด้านหลังของหุ่นที่ถูกพาดไปพิงระเบียง มีรอยครูดเหมือนกับหลังของหมอศรุต และตอนที่หุ่นตกลงมา พบว่าการตกเหมือนกับการตกของหมอศรุต คือ ศีรษะลงพื้น ตามด้วยเท้า หัวชี้ออกข้างนอกห่างจากอาคาร 3 เมตร จากนั้นก็มีการนำสารประกอบที่อาคารระเบียงกับเนื้อของ นพ.ศรุต มาตรวจสอบ ก็ได้ผลที่ตรงกัน
ด้านจำเลยบอกว่า หมอศรุตเมามาก ลุกขึ้นมานั่งแล้ววิ่งไปที่ระเบียงแล้วกระโดดลงไปเลย โดยที่เพื่อนก็ห้ามไม่ทัน ทว่า ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ระเบียงห้องนั้นสูงกว่าระเบียงที่นักวิ่งกระโดดข้ามรั้วจะข้ามได้เสียอีก ประกอบกับความเมามาก ไม่มีทางที่หมอศรุตจะวิ่งข้ามระเบียงรวดเดียวแล้วตกลงไปแน่นอน
นอกจากนี้ จำเลยทั้ง 2 คน ยังยอมรับว่า เป็นบุคคลที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุ จึงทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปโดยปริยาย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
แฉความสัมพันธ์ ที่แท้จำเลยเคยคบกับผู้ตาย
ด้านครอบครัวของผู้ตาย ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ นพ.ศรุต โทรศัพท์หาภรรยาถามเรื่องอาหารในวันพรุ่งนี้ ศาลจึงเชื่อว่า ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าตัวตายแน่ นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า นพ.ศรุต เคยคบหากับนางสาวจิตวิมล จำเลยที่ 2 ส่วนในตอนนี้ (ช่วงเกิดเหตุ) อยู่ระหว่างการคบกับ นพ.ปราโมทย์ จำเลยที่ 1 ดังนั้น สรุปได้ว่า ช่วงเกิดเหตุ นพ.ศรุต อยู่ในภาวะเมามาก อาจจะลวนลามนางสาวจิตวิมล จน นพ.ปราโมทย์ เกิดความหึงหวง และก่อเหตุในที่สุด
ขณะเดียวกัน หลักฐานที่จำเลยทั้ง 2 คนนำมา ไม่สามารถหักล้างหลักฐานจากสภาพแวดล้อมได้เลย จึงเข้าข่ายว่า อาจจะเป็นคนอุ้มร่าง นพ.ศรุต โยนลงมา จนถึงแก่ความตาย จึงพิพากษาจำคุกตามที่เสนอข่าวไป
สาเหตุที่ทำคดีช้ามาก
ส่วนสาเหตุที่คดีนี้มีการยืดเยื้อมากว่า 11 ปี ทั้งที่เป็นศาลชั้นต้น นั่นเป็นเพราะมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนบ่อยมาก จนคดีไม่คืบ อัยการเพิ่งสั่งฟ้องเมื่อปี 2563
ด้านคุณแม่ นพ.ศรุต ยอมรับว่า ต่อสู้กันมาตั้งนาน ทำให้รู้ว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง สิ่งที่เรารับรู้คือ ลูกไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย และพอใจกับผลการตัดสิน
หลังจากนั้น ศาลได้มีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองประกันตัว วงเงินคนละ 5 แสนบาท
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้