เมียหมอศรุต พูดอีกด้าน คาดทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่การจับโยน ส่อคดีพลิก

 
             ภรรยาหมอศรุต พูดอีกด้าน ยืนยันหมอศรุตไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เคยเห็นหมอเมาแล้วพุ่งหลาวจริง ๆ คาดตอนนั้นอาจจะพยายามเข้าห้องน้ำ แต่เมาและห้องแคบ เลยกลายเป็นพุ่งตกระเบียง คดีส่อพลิกอีกรอบไหม

           อ่านเพิ่มเติม ย้อนคดีหมอศรุต โดนเพื่อนอุ้มโยนลงมาจากตึกตาย เผยจุดพลิกผันของคดี ที่จำเลยดิ้นไม่หลุด
 
           ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Ern Ern เผยว่า ตนคือภรรยาของหมอศรุต และขอพูดในฐานะที่ไม่ได้มาออกสื่อ

           ในวันเกิดเหตุนั้น หมอศรุตดื่มเหล้าคนเดียวตั้งแต่ช่วงบ่าย 4 บ่าย 5 และโทร. ไปชวนหมอเอ (นามสมมุติ) และเพื่อนไปเที่ยวต่อ เมื่อออกไปเที่ยวก็โทร. มาเป็นระยะ จนกระทั่งร้านปิด หมอเอโทร. มาบอกตนว่า หมอศรุตเมามาก น่าจะกลับไม่ไหว เลยพาไปพักที่หอพัก ไม่ต้องห่วง รู้อีกครั้งคือหมอศรุตเสียชีวิต ทางเพื่อนก็ปั๊มหัวใจจนสุดความสามารถ

           ทั้งนี้ หมอเอยืนยันว่า หมอศรุตไม่รู้มีเรี่ยวแรงจากไหน อยู่ ๆ ก็พุ่งตัวออกไปทันที ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านบ่อยมาก เวลาที่หมอศรุตเมา หมอจะโซซัดโซเซ พยุงตัวไม่ไหว แล้วอยู่ดี ๆ ก็จะวิ่งหลาวไปเข้าห้องน้ำ แต่เนื่องจากที่บ้านมีขนาดใหญ่ จึงวิ่งได้สบาย แต่ห้องในหอพักนั้นเล็ก ประตูห้องน้ำกับประตูระเบียงเหมือนกันและติดกัน ทำให้หมอศรุตอาจจะคิดว่าตัวเองอยู่บ้าน และจะวิ่งไปเข้าห้องน้ำ เลยพลัดตกลงมาในแบบหันหลัง ส่วนฝุ่นที่ติดมือนั้น น่าจะเป็นความพยายามในการคว้ากำแพงเอาไว้


           ตนในฐานะภรรยาของหมอศรุต ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิด และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่คิดว่านี่คือการฆ่าตัวตายของหมอ แต่มองว่ามันเป็นอุบัติเหตุมากกว่า

           ทั้งนี้ ตนเชื่อในความรักของคุณแม่หมอ เชื่อในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ว่าหมอไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ตนในฐานะที่ใกล้ชิดหมอ จะรู้ว่าคุณหมอดื่มเหล้าหนัก เมื่อดื่มแล้วจะวิ่งพุ่งตัว มีเพียงเพื่อนสนิทที่รู้เรื่อง แต่ทางบ้านของหมอไม่รู้เรื่อง และที่คดีนี้ปิดไม่ได้มา 11 ปี เพราะไม่มีหลักฐานว่าเป็นการฆ่า บอกได้แค่ว่าไม่ได้ตกลงมาเอง

           เมื่อศาลฟังความ 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าหมอไม่ได้ฆ่าตัวตาย มาพร้อมกับหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ที่แน่น ส่วนอีกฝ่ายยืนยันว่าหมอกระโดดลงมาเองจริง ๆ อย่างไรศาลก็ตัดสินให้ฝ่ายที่มีหลักฐานชนะอยู่แล้ว แต่ในฐานะที่ตนใกล้ชิดหมอศรุต ตนยืนยันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ เป็นเพียงอุบัติเหตุ ไม่เจตนา และถ้ามันเป็นตามที่ศาลตัดสิน คน 2 คนอาจจะจบสิ้นอนาคต ทนทรมานมากกว่า 11 ปี แน่นอน

           "หากการกระทำใดที่ทำกับใครไว้จะเป็นกรรมติดตัวไปตลอดกาล"