สรุป แม่ปอง VS ศรีสุวรรณ โกรธกันแต่ตอนไหน นัด 14 ก.พ. แสดงความรักด้วยการเตะปาก


           สรุปศึกเดือด อดีตพระมหาสมปอง VS ศรีสุวรรณ โกรธกันตั้งแต่ชาติปางไหน ล่าสุดศรีสุวรรณไม่กลัวโดนเตะปาก บอกมาเลย ด้านแม่ปองรับคำท้า 14 กุมภาพันธ์ มาเจอกันหน่อยไหม ซ้อมเบา ๆ ไม่เอาตาย

พระมหาสมปอง
ภาพจาก โหนกระแส

           ถือว่าเป็นมวยถูกคู่เลยทีเดียว สำหรับล่าสุดที่ แม่ปอง หรือ อดีตพระมหาสมปอง ได้ไปออกโหนกระแส และพูดถึงนายศรีสุวรรณ จรรยา ว่า ตนสึกออกมาแล้ว จะขอเตะปากนายศรีสุวรรณได้ไหม ตนเป็นคนใจร้อน แต่ตอนอยู่ในพระธรรมทำให้เย็นลง ซึ่งต่อมานายศรีสุวรรณกลับบอกว่า "ถ้าถูกท่านมหาสมปองเปรียญ 7 เตะปาก จะเป็นบุญมาก"

ศรีสุวรรณ จรรยา

           อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะส่งสัยว่า เรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ กระปุกดอทคอม ได้รวบรวมศึกระหว่างอดีตพระมหาสมปอง VS ศรีสุวรรณมาให้แล้ว พร้อมกับคำท้าใหม่ นัดกันวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 แสดงความรักด้วยการเตะปาก

พระมหาสมปอง
ภาพจาก โหนกระแส

ศรีสุวรรณ เจ้าของฉายา นักร้อง กับวีรกรรมร้องไปทั่วไทย ลามไปทุกวงการ


           นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้รับฉายาทางการเมืองว่า นักร้อง เพราะเขามักจะฟ้องร้องทุกคนในทุกวงการ จี้ให้มีการตรวจสอบ โดยในช่วงแรกนั้นมักจะเป็นนักการเมือง แต่มาระยะหลัง นายศรีสุวรรณเริ่มมาตรวจสอบวงการพระสงฆ์ด้วย โดยเฉพาะอดีตพระมหาสมปอง และ พระมหาไพรวัลย์

           ก่อนหน้านี้ เป็นหนึ่งในคนที่ไล่ฟ้องร้องและกดดันนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตั้งแต่คดีเล็กไปจนถึงคดีใหญ่ เช่น เมื่อครั้งที่นายธนาธร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพ ส.ส. และทั้งนายธนาธรและลูกพรรคอนาคตใหม่ ได้ใช้ปากกาเมจิกเขียนบนกระจกทางเข้าห้องพักของพรรคอนาคตใหม่ นายศรีสุวรรณก็บอกว่า การกระทำนี้เข้าข่ายต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา ม.360 เพราะถือว่าทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย เสื่อมค่า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และเข้าข่ายผิด ม.12 พ.ร.บ.รักษาความสะอาด รวมถึงหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ จี้ยุบพรรคอนาคตใหม่ นายศรีสุวรรณก็พยายามจี้ให้มีการเร่งดำเนินคดีอาญากับนายธนาธรและผู้บริหารพรรคซ้ำ รวมทั้งจี้เอาเงิน 191 ล้านจากของพรรคอนาคตใหม่ เข้ากองทุนการเมืองอีกด้วย

ศรีสุวรรณ จรรยา

ศรีสุวรรณ VS พระมหาสมปอง ไม่ถูกใจรีวิวสินค้า ร้องสำนักพุทธเอาผิด หนักถึงขั้นบอกต้องออกจากการเป็นพระภิกษุ


           นายศรีสุวรรณ เริ่มขยายขอบเขตการตรวจสอบเข้าสู่แวดวงศาสนา หลังจากที่พระมหาสมปอง และ พระมหาไพรวัลย์ ออกมาไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก พูดคุยเรื่องธรรมะด้วยสีสันตลกโปกฮา จนมีคนดูนนับแสน จนนำไปสู่การที่คนติดต่อพระมหาสมปองมาให้รีวิวสินค้า ซึ่งเมื่อพระมหาสมปองรีวิวสินค้า นายศรีสุวรรณก็บอกว่า ช่วยโฆษณาสรรพคุณสินค้าอย่างไม่กระดากปาก ทั้งที่อยู่ในสมณะพระภิกษุ พระมหาสมปองคือสาวกของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่สาวกของบริษัทเอกชน การกระทำดังกล่าวเป็นโลกวัชชะ อาจเข้าข่ายอวดอุตริจนถึงขั้นต้องหลุดพ้นจากการเป็นพระภิกษุ พร้อมกับจี้สำนักพุทธ ให้ตรวจสอบพระมหาสมปองด้วย

           นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณดูจะไม่สบอารมณ์พระมหาสมปอง และพระมหาไพรวัลย์ จากการที่ไลฟ์ธรรมะด้วยความตลกขบขัน ซึ่งทางพระมหาไพรวัลย์ก็บอกในรายการโหนกระแสว่า ถ้าจะแจ้งหรือส่งหนังสืออะไรไปก็ขอนิดหนึ่ง อย่างน้อยควรจะมีอารมณ์ขันในชีวิตบ้าง คนจะประสาทตายกันทั้งประเทศแล้ว ส่วนเวลาที่แบรนด์เข้ามาดูไลฟ์แล้วพูดว่าจะเก็บค่าโฆษณานั้น ถือเป็นการพูดเอาเล่น เอาฮา การทำบุญจะไปบังคับคนอื่นทำไม่ได้

ศรีสุวรรณ จรรยา

พระมหาสมปอง สึกแล้ว ศรีสุวรรณยังไม่จบ บอกคนอะไรบวชแล้วรวย ก่อนจบที่พูดชัด สึกแล้วเตะปากคนได้  


           อย่างไรก็ตาม พระมหาสมปอง หลังจากที่บวชมาแล้ว 30 ปี ก็ได้ออกจากแวดวงธรรมะเข้าสู่การเป็นฆราวาส เปลี่ยนชื่อในเฟซบุ๊กเป็นแม่ปอง และรับงานรีวิวต่าง ๆ แต่พบว่า นายศรีสุวรรณก็ยังไม่จบ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เช่น ยินดีต้อนรับพระสงฆ์เข้าสูมหาสมุทรแห่งโลกียะ บวชมาหลายปีคงไม่ทำให้กิเลสน้อยลง หากแต่บ่มเพาะให้มีกิเลสตัณหาเพิ่มมากขึ้น และ สงสัยไหม พระสงฆ์บวชแล้วทำไมมีธุรกิจมากมาย เป็นเศรษฐีในบัดดล เอาเงินมาจากไหน จะมีพระสงฆ์สักกี่รูปที่เรียกหลังสึกว่า บวชแล้วรวย

           ทว่า เรื่องนี้ แม่ปองได้บอกในรายการโหนกระแสว่า ตนไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น แถมยังมีหนี้กว่า 10 ล้าน อันเกิดจากการช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา สร้างสนามเด็กเล่น สร้างโรงเรียนและอื่น ๆ อีก ส่วนเรื่องเงินนั้น มีนักธุรกิจลงทุนให้ตนทำก่อน แล้วค่อยเฉลี่ยทุนคืน ก่อนที่จะลงท้ายว่า

           "เมื่อกี้พูดกับพี่ศรีไม่ทัน พี่ศรี ผมสึกแล้วผมเตะปากพี่ได้แล้วนะ พี่อย่าพูดปากพล่อย ๆ นะ สมมตินะ และกำลังจะไปซ้อมมวยทุกวัน เตะคนก็ได้ จริง ๆ ไม่ใช่คนใจเย็น ผมใจร้อนมาก ธรรมะช่วยได้เยอะ ถ้าธรรมะหายไปนะ มีเรื่องทุกวัน แต่ไม่หรอก จริง ๆ เป็นคนใจดี หยอกเฉย ๆ"

พระมหาสมปอง
ภาพจาก โหนกระแส

ศรีสุวรรณ เหมือนจะกล้า ไม่กลัวโดนเตะปาก แต่พอนัดวันจริง กลับบอกไม่เอา ไม่มีประโยชน์


           ในขณะเดียวกัน เหมือนเรื่องจะบานปลายไปใหญ่ เมื่อนายศรีสุวรรณบอกว่า อยากถูกท่านมหาเตะปากจัง คงจะนับเป็นบุญมาก แต่กลัวจะไม่กล้า เห็นมีแต่ขี้โม้ขี้คุยไปวัน ๆ ทางอดีตพระมหาสมปอง จึงออกมาพูดในขณะที่สาธยายธรรมะก่อนสวดมนต์ข้ามปี ที่หลวงพ่อทวด วัดเขาใหญ่ว่า ตนพูดด้วยความมีสติ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตนขอแสดงความรัก ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องน้ำหนักและอายุ จะฟิตร่างกายครึ่งเดือน เตะขำ ๆ ไม่ถึงตาย ขอแสดงความรักด้วยหมัด เข่าศอก หรืออาจจะเป็น 10 Fight 10 ก็ได้ ถ้าพร้อมและรายการจัดให้ หรือาจจะเป็นวันที่ 13 เมษายน เปลี่ยนจากสาดน้ำมาสาดเลือดแทน

           ทว่า นายศรีสุวรรณจากที่บอกว่า กลัวแต่อดีตพระมหาสมปอง จะ "ขี้โม้ขี้คุยไปวัน ๆ" กลับไม่รับคำท้า ด้วยเหตุผลที่ว่า กลัวเป็นบาปกรรม ชกกันไปไม่มีประโยชน์ ไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกเกลือ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรุป แม่ปอง VS ศรีสุวรรณ โกรธกันแต่ตอนไหน นัด 14 ก.พ. แสดงความรักด้วยการเตะปาก โพสต์เมื่อ 1 มกราคม 2565 เวลา 17:06:46 12,312 อ่าน
TOP
x close