สาวนักขายลมตด โกยเงิน 6.6 ล้าน จำต้องยุติกิจการ ชี้มุ่งผลิตเกินกำลัง จนต้องเข้า รพ.

 
            สาวนักขายลมตด สัปดาห์เดียวกำเงิน 1.6 ล้าน จำต้องยุติกิจการ หลังมุ่งผลิตเกินกำลังจนต้องหามส่งโรงพยาบาล แพทย์เตือนต้องเปลี่ยนอาหาร ปิดฉากนักผลิตลมตด
             จากกรณีชวนอึ้งของ สเตฟานี แมตโต ดาราสาวเรียลลิตี้ทีวี 90 Day Fiancé ของออสเตรเลีย ซึ่งกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากหลังจากที่เธอผลิตสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟออกมาขาย เอาใจแฟนคลับสายเปย์ เป็นลมตดอัดขวด ซึ่งขายดีสุด ๆ มีลูกค้าติดต่อขอซื้อต่อเนื่อง กลายเป็นอาชีพเสริมเงินดี แค่สัปดาห์เดียวก็ทำเงินมากถึง 1.6 ล้านบาท

                อ่านข่าว : ปู้ดป้าด ! สาวนักขายลมตด สัปดาห์เดียวกำเงิน 1.6 ล้าน ลูกค้าติดใจ ผลิตแทบไม่ทัน 
            อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาชีพเสริมดังกล่าวจะสร้างรายได้ให้เธอมากขนาดไหน ดาราสาวก็จำต้องยุบกิจการ เลิกตดอัดขวดขายซะแล้ว หลังกระบวนการผลิตที่เกินกำลัง อาจทำให้ร่างของเธอพังเข้าจริง ๆ และเมื่อไม่นานมานี้เธอก็เพิ่งเข้าโรงพยาบาลไปพร้อมกับอาการที่ทำให้ใจหาย นึกว่าตัวเองหัวใจวายหรือเป็นโรคร้ายอื่นซะแล้ว

            โดยวันที่ 6 มกราคม 2565 เว็บไซต์ news.com.au รายงานว่า สเตฟานีเพิ่งจะถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล หลังจากรู้สึกถึงแรงดันในช่องท้องที่เคลื่อนขึ้นด้านบน กดจนตัวเองหายใจลำบาก จากนั้นเธอยังรู้สึกเจ็บเหมือนถูกยิงที่หน้าอกคล้ายกับหัวใจวาย

            แพทย์ที่เป็นกังวลรีบทำการตรวจเลือดและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแก่ดาราสาว แต่สุดท้ายก็พบว่าความผิดปกติเหล่านั้นล้วนเป็นผลมาจากแก๊สส่วนเกิน ที่เกิดจากการกินอาหารของเธอ

            "ฉันยังคิดว่าตัวเองเป็นโรคหลอดเลือดสมองด้วย มันคงเป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตฉันแล้ว" สเตฟานี เผยถึงช่วงเวลาแห่งความทรมานนั้น และยอมรับว่า "ฉันทำมันมากไป"

            รายงานเผยว่า สเตฟานีเริ่มต้นตดอัดใส่ขวดแก้วขายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 หลังได้รับคำขอจากเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ และมันก็ทำกำไรให้เธออย่างงดงาม มีความต้องการหลั่งไหลเข้ามามาก ดังนั้นเพื่อจะผลิตลมตดอัดขวดให้ทันความต้องการ 50 ขวดต่อสัปดาห์ เธอต้องกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง อาศัยการกินถั่วและไข่ รวมถึงโปรตีนเชกรสกล้วย  

            "เอาจริง ๆ ฉันไม่อยากเชื่อกับจำนวนความต้องการนั้นเลย ฉันคิดว่าหลายคนเก็บเรื่องความหลงใหลทางเพศไว้เป็นความลับซะอีก" สเตฟานี เผย

            ทั้งนี้ เธอได้ลองปรับอาหารสูตรต่าง ๆ เพื่อให้เอื้อต่อการผลิตแก๊สในช่องท้อง โดยเริ่มจากการกินมัฟฟินโปรตีนสูง เครื่องดื่มเชค รวมถึงไข่ต้มสุก จากนั้นก็เริ่มลองอาหารสูตรใหม่ ๆ รวมถึงสลัดถั่วดำ หัวหอม และออมเล็ตแฮมพริกไทย โดยเธอคิดว่าอาหารบางชนิดได้ช่วยให้มีกลิ่นตดที่หอมกว่าด้วย

            จนถึงตอนนี้ เธอทำเงินได้กว่า 275,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 6.6 ล้านบาท) จากการทำลมตดอัดขวดขาย แต่ในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจำต้องเกษียณตัวเองซะแล้ว

            โดยเมื่อนึกย้อนกลับไปวันที่เธอเข้าโรงพยาบาล สเตฟานีเผยว่าในวันนั้นเธอกินโปรตีนเชคไป 3 แก้ว และซุปถั่วดำชามใหญ่ จนเมื่อตกเย็นเธอก็บอกได้เลยว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอรู้สึกถึงแรงดันในช่องท้องที่เคลื่อนขึ้นบน จากนั้นก็ยากที่จะหายใจ ทุกครั้งที่เธอพยายามหายใจ เธอรู้สึกเหมือนรอบหัวใจถูกบีบรัด

            อาการเหล่านี้ทำให้เธอกังวลมาก สเตฟานีตัดสินใจโทร. ขอให้เพื่อนมาช่วยพาเธอส่งโรงพยาบาล เพราะคิดว่าตัวเองกำลังหัวใจวาย แต่ผลการตรวจร่างกายก็ชัดเจนแล้วว่าสิ่งที่เธอเป็นนั้น ไม่ใช่โรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวาย แต่เป็นเพราะแก๊ส

            แพทย์แนะนำให้เธอเปลี่ยนอาหารใหม่ รวมถึงต้องใช้ยาที่ยับยั้งการเกิดแก๊ส ซึ่งส่งผลให้กิจการของเธอมาถึงจุดสิ้นสุด
 
            สเตฟานียังเผยอีกว่า กิจการดังกล่าวนั้นทำให้เธอประสบความสำเร็จด้านการเงินก็จริง แต่ในด้านภาพลักษณ์นั้นมีปฏิกิริยาที่หลากหลายจากผู้คน โดยมีทั้งคนที่ชื่นชม ยกเธอให้เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาไม่ละอายในสิ่งที่เป็นและสิ่งที่ทำ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนบางส่วนส่งคำขู่เอาชีวิตมาถึงเธอ รวมถึงคนที่บอกว่าเธอควรจบชีวิตตัวเองไปได้แล้ว

            แต่เธอเลือกที่จะไม่ตอบโต้หรือให้ความสนใจแก่คนเหล่านั้น เธอมองว่าในยุคนี้คนเราต้องหยุดทำลายคนอื่น ๆ ในสิ่งที่พวกเขาเลือกทำได้แล้ว

            อย่างไรก็ตาม เธอเผยอีกว่า การเกษียณตัวเองจากการผลิตตดขาย น่าจะทำให้ครอบครัวของเธอโล่งใจ... และลำไส้ของเธอก็คงโล่งเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก  news.com.au