น้ำอัดลม จ่อขึ้นราคาอีก 2 บาท ปลายเดือนนี้ ขณะที่ร้านโชห่วย พบแอบขายน้ำมันปาล์มเกินราคาเพดาน 55 บาท มาระยะหนึ่งแล้ว ด้านนายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย คัดค้านจัดงานธงฟ้า หวั่นคนรวยเหมาซื้อหมด
ภาพจาก golfza.357 / Shutterstock.com
จากกรณีร้านโชห่วยในจังหวัดสุพรรณบุรี เตรียมปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ดัง หลังทางตัวแทนจำหน่ายน้ำอัดลมแบรนด์ดังกล่าวแจ้งกับทางร้านค้าว่า ในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ จะปรับขึ้นราคาอีก 2 บาท จากเดิมขนาด 300 มล. ขาย 10 บาท เพิ่มเป็น 12 บาท นั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ 16 มกราคม 2565 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า มีสัญญาณการปรับราคาน้ำอัดลมจากผู้ประกอบการค่ายน้ำดำเจ้าใหญ่รายหนึ่ง ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2564 (ก่อนปีใหม่)
โดยมีการแจ้งขอปรับรายการส่งเสริมการขาย เนื่องจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ราคาขายปลีกหน้าร้านขยับราคาขึ้นเฉลี่ยประมาณขวดละ 1 บาท แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการประกาศหรือแจ้งมายังผู้ค้า หรือสมาคมฯ ว่าจะมีการปรับขึ้นราคาอย่างเป็นทางการ
ภาพจาก Tanawat Chantradilokrat / Shutterstock.com
อย่างไรก็ตาม การปรับราคาสินค้าประเภทเครื่องดื่มน้ำอัดลมไม่ต้องขออนุมัติจากกรมการค้าภายใน เพียงแต่ผู้ประกอบการต้องแจ้งการปรับขึ้นราคาและเหตุผลมายังกรมฯ ให้รับทราบ เพราะสินค้าประเภทนี้ไม่ใช่สินค้าควบคุม ขณะที่ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีพบร้านค้าบางส่วน แอบจำหน่ายน้ำมันปาล์มในราคาเหนือเพดานที่ขวดละ 56-57 บาท โดยเรื่องนี้ทางนายสมชาย ยืนยันว่า น้ำมันปาล์มยังคงขายในราคาเพดานขวดละ 55 บาท ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ อยากแนะนำให้รัฐบาลปล่อยไปตามโครงสร้างราคาจริงและควรให้ผู้บริโภคยอมรับว่าช่วงไหนที่ราคาแพงช่วงไหนราคาถูก และต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าแพงขึ้นเพราะอะไร ซึ่งหากน้ำมันปาล์มราคาแพงก็ควรแนะให้หันไปบริโภคน้ำมันประเภทอื่นแทน เช่น น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น
ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนนั้น มองว่าไม่เห็นด้วย เพราะเปรียบเสมือนซื้อของแพงมาขายในราคาถูก อย่านำเงินภาษีไปช่วยชดเชยในเรื่องนี้ ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด อีกทั้งยังกังวลว่าสินค้าธงฟ้าส่วนใหญ่จะตกอยู่ในมือคนรวยที่เหมาซื้อไปหมด ส่วนคนจนเข้าซื้อไม่ถึง
