พ่อดาราดัง ส้วม สุขพัฒน์ ร้องดีอีเอส โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง สูญเงินกว่า 1.3 ล้านบาท คราวนี้มามุกใหม่ บอกว่าเป็นบริษัทประกัน แถมตรงกับที่ประกันเคยทำด้วย ทำให้หลงเชื่อ
ภาพจาก Instagram suam
แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หลอกเหยื่อให้โอนเงิน ยังคงระบาดหนักในสังคมไทย นอกจากประชาชนคนธรรมดาที่โดนแล้ว แม้กระทั่งบุคลากรทางการแพทย์ก็ไม่รอด ไม่รู้เหมือนกันว่า ปัญหานี้ทางหน่วยงานรัฐจะแก้ได้เมื่อไร
วันที่ 19 มกราคม 2565 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายสุขพัฒน์ โล่ห์วัชรินทร์ หรือส้วม นักแสดงชื่อดัง เดินทางมาร้องเรียนกับนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) หลังคุณพ่อถูกกลุ่มคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน เสียหายกว่า 1 ล้านบาท พร้อมกันนั้น ยังมีการนำเอกสารการสนทนามาเป็นหลักฐานด้วย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
นายสุขพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา เมื่อพ่อของตนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหลอก อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง มีการพูดคุยเรื่องรับสินไหมที่ จ.ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม จุดที่ทำให้พ่อหลงเชื่อ เป็นเพราะพ่อเคยทำประกันชีวิตกับบริษัทนี้จริง ๆ แต่ลึก ๆ ก็เฉลียวใจเหมือนกันว่า ทำไมไปรับสินไหมที่ จ.ภูเก็ต
ต่อมา ปลายสายโอนสายให้คุยกับบุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจ หลอกพ่อว่า มีผู้นำบัญชีไปใช้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้องอายัดบัญชี 7 เดือน แต่ถ้าหากใช้เงิน ต้องโอนเงินกลับไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ดังนั้น เมื่อพ่อโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว พบว่าเป็นบัญชีบุคคล ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ จึงสงสัยสอบถามอีกฝ่าย อีกฝ่ายอ้างว่า เป็นชื่อบัญชีเจ้าหน้าที่ ปปง. และที่ไม่เป็นชื่อหน่วยงาน เพราะเป็นคดีลับ ทางพ่อไม่เฉลียวใจ จึงโอนเงินไป 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.35 ล้านบาท สุดท้ายถูกหลอก
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ด้านนายชัยวุฒิ ยืนยันว่า บัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีม้า ถูกอายัดเอาไว้แล้ว ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการ พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากมีคนโทรศัพท์มาบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบอกให้โอนเงิน อันนั้นคือ มิจฉาชีพ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
บุคลากรทางการแพทย์ โดนอ่วมไปกว่า 10 ล้านแล้ว
ขณะเดียวกัน พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เข้าพบนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้ดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และอ้างเป็นตำรวจ มาหลอกสมาชิกแพทยสภาหลายคน รวมความเสียหายไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท
ส่วนทริกการหลอกนั้น มิจฉาชีพจะบอกว่า เป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน เพื่อทำให้อีกฝ่ายตกใจ แล้วก็หลอกต่อไปว่า จับผู้ต้องหาคนหนึ่ง มีสมุดบัญชีและบัตรเครดิตของผู้เสียหายเป็นหลักฐาน จากนั้นค่อยใช้ทริกหลอกเอาเงินอีกฝ่ายด้วยการทำให้กลัว
ภาพจาก Instagram suam
ภาพจาก Instagram suam
ภาพจาก Instagram suam
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้