พยาบาลสาวสุดกลุ้ม คบหมอเป็นแฟน กลับถูกญาติ ๆ เขาดูถูกให้อับอาย แม้แฟนแสนรักแต่อดคิดไม่ได้ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ ฝ่ายชาวเน็ตเชียร์ เลิก ๆ ไปดีกว่า

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เว็บไซต์ ETtoday มีรายงานเรื่องราวชวนหนักอกของพยาบาลสาวรายหนึ่ง
ที่ออกมาระบายความในใจหลังถูกครอบครัวของแฟนหนุ่มดูถูกสารพัด
จนทำให้เริ่มลังเลว่าครั้งของเธอควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้
เพราะแม้ว่าแฟนหนุ่มจะรักและดูแลเธออย่างดีแค่ไหน
แต่สิ่งที่ได้พบเจอทำเอายากที่จะนึกภาพอนาคตร่วมกันจริง ๆ
โดย เอ (นามสมมติ) ได้โพสต์ระบายเรื่องของเธอผ่านชุมชนออนไลน์ของจีน บอกว่าเธอทำงานเป็นพยาบาล ส่วนแฟนหนุ่มเป็นหมอที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน เธอเจอกับแฟนหนุ่มมาหลายปีแล้ว ความสัมพันธ์ก็เป็นไปอย่างมั่นคง จนะกระทั่งไม่นานมานี้ เขาก็ตัดสินใจพาเธอกลับไปยังบ้านเกิดด้วยกัน เพื่อพาเธอไปทำความรู้จักกับญาติ ๆ ของเขาในงานเลี้ยงของครอบครัว
อย่างไรก็ตาม เธอแทบจะไม่รู้พื้นเพเกี่ยวกับครอบครัวของเขาเลย และเพิ่งจะได้ทราบตอนอยู่ในงานเลี้ยงนั้นเองว่าสมาชิกในครอบครัวของเขา ถ้าไม่ทำงานเป็นหมอ ก็เป็นศาสตราจารย์หรืออาจารย์ และนั่นทำให้เธอได้รับความอับอายอย่างมาก กับถ้อยคำแย่ ๆ สารพัด ที่พ่อแม่กับญาติ ๆ ของแฟนหนุ่มดูหมิ่นเธอ
โดยเธอบอกว่า คำพูดแย่ ๆ ทั้งหมดในชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เธอได้ยินในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูถูกพยาบาล ดูถูกเธอว่าเป็นคนไม่มีพื้นเพชาติตระกูล ซึ่งอย่างน้อยก็ควรจะมีหน้าตาที่ดี แต่เธอกลับไม่มีเลยทั้งสองอย่าง หลังจากพวกเขาซักไซ้เรื่องเกี่ยวกับพื้นเพครอบครัวเธอ ก็ยังโอ้อวดว่าตระกูลนี้มีแค่หมอกับอาจารย์ เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเขาได้เจอคนที่มีพื้นเพแบบเธอ
สิ่งที่ได้ฟังนั้นยากจะทนได้ และแฟนหนุ่มของเธอก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศในตอนนั้นไม่โอเคอย่างแรง เขาจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า "ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะแต่งงานกับเธอ" ก่อนที่จะพาแฟนสาวออกไปจากงานเลี้ยงทันที
ในขณะที่พยาบาลสาวไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ก็ได้มีผู้คนมากมายที่เคยเจอประสบการณ์คล้ายคลึงกันเข้ามาแนะนำ โดยส่วนมากเชียร์ให้เธอเลิกกับแฟนคนนี้ซะ ชี้ว่าในเมื่อครอบครัวของเขาเป็นแบบนี้ เว้นแต่เขาจะตัดญาติไป สิ่งเหล่านี้ก็ยังจะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ หลังแต่งงานกัน
อีกคนยังชี้ว่า ถ้าแฟนหนุ่มของเธอไม่ตัดคนในครอบครัวออกไป เธอก็จะสูญเสียวัยสาวไปโดยใช่เหตุ ต่อให้แต่งงานกันไปชีวิตก็จะต้องทนอยู่กับความเจียมตัว ไม่มีความสุขเลย
อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีพยาบาลหญิงอีกรายเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของเธอ บอกว่าเธอเองก็จบแค่ระดับวิทยาลัย ตอนนี้แต่งงานมีลูก 2 คนแล้ว ตอนนี้ปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่สามีก็เปลี่ยนไปเช่นกัน อย่างไรก็ตามถ้าเอยังยึดมันในความรักและตั้งใจจะแต่งงานกันจริง ๆ มันจะมีเรื่องราวต่าง ๆ รออยู่อีกมาก ซึ่งถ้ารักกันมากพอก็น่าจะมีโอกาสจะจับมือกันก้าวผ่านด่านครอบครัวของเขาไปได้






