เปิดสภาพโรงงานรับผลิตไส้กรอก พบคนงานนั่งทำกับพื้น มีการปลอมแปลงอาหาร ใช้เนื้อไก่แทนเนื้อหมูทำหมูยอ เผยเพิ่งเปิดมาแค่ 2 เดือน ผลิตให้ 32 ยี่ห้อ
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีพบเด็กป่วยมีอาการตัวซีด หายใจลำบาก และเหนื่อยง่าย เนื่องจากภาวะที่มีสารไปจับในเม็ดเลือดแทนออกซิเจน ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน หลังจากกินไส้กรอกไม่มียี่ห้อเข้าไป ซึ่งเบื้องต้นพบโรงงานผลิตแล้วอยู่ที่ จ.ชลบุรี โดยโรงงานทำผิดหลายอย่าง คือ พบปริมาณไนไตรต์เกินมาตรฐาน, ฉลากไม่ได้แจ้งเลขสารบบอาหาร ถือเป็นฉลากไม่ถูกต้อง และสถานที่ผลิตไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน GMP ด้วยนั้น
ล่าสุด (3 กุมภาพันธ์ 2565) ข่าวช่องวัน รายงานบทสัมภาษณ์ ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้โรงงานดังกล่าว เปิดเผยว่า โรงงานดังกล่าวก่อนหน้านี้ถูกปล่อยร้างมานาน เพิ่งจะมีคนมาเช่าเปิดทำโรงงานผลิตลูกชิ้นและไส้กรอกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยคนเช่าพาคนงานมาเอง 7-8 คน ไม่ได้มาจ้างคนแถวนี้ ซึ่งก็เคยเห็นคนงานออกมาซื้อของ ก็แต่งตัวถูกคุณลักษณะดี มีหมวกคลุมผม ผ้ากันเปื้อนและรองเท้าบูต จึงไม่ได้เอะใจอะไร และเจ้าของโรงงานก็เคยเอาไส้กรอกมาให้ชาวบ้านด้วย แต่ไม่ได้กินกัน เพราะตอนทอดเนื้อมันยุ่ย และสีแดงผิดปกติ
แฉภาพโรงงาน คนงานนั่งทำกับพื้น
จากรายงาน ระบุว่า ขณะลงพื้นที่ทำข่าวพบหญิงชายคู่หนึ่งออกมาจากโรงงานกำลังจะขึ้นรถไปข้างนอก แต่เมื่อเข้าไปสอบถาม ทั้งคู่ปฏิเสธให้ข้อมูล และปฏิเสธว่าเป็นเจ้าของโรงงาน และจากการตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊ก พบว่าเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 เฟซบุ๊กของเจ้าของโรงงานได้มีการโพสต์รูปถ่ายภายในโรงงานให้เห็นภาพคนงาน ขณะกำลังบรรจุลูกชิ้นใส่ถุง ซึ่งเป็นการนั่งทำกับพื้น
ทั้งนี้ ข่าวช่องวัน รายงานเพิ่มเติมต่อว่า จากการตรวจค้นโรงงานพบว่า เป็นการผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉลากไม่แสดงเลขสารอาหาร โรงงานไม่ผ่านเกณฑ์ GMP ที่กฎหมายกำหนด และไม่มีการควบคุมการผลิต มีการใช้วัตถุเจือปนในอาหาร คือพบสารโซเดียมไนไตรต์ หรือสารกันบูด เกิน 2,000 มิลิกรัม ซึ่งเกินกว่าที่ร่างกายจะรับได้ เนื่องจากคนงานที่ผลิตไม่มีการตวงวัดในขั้นตอนการผลิต
เจ้าของโรงงานยอมรับปลอมแปลงอาหาร ใช้เนื้อไก่แทนเนื้อหมูทำหมูยอ - มี 32 ยี่ห้อ ไม่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังมีการเอาเนื้อไก่ปลอมเป็นเนื้อหมู เพื่อแปรรูปเป็นหมูยอ ซึ่งเป็นความผิด โดยเจ้าของโรงงานยอมรับว่า ทำการผลิตมาประมาณ 1 ปีเศษ ซึ่งย้ายฐานผลิตมาที่นี่ โรงงานมีการกระจายสินค้า 2 ทาง คือตลาดนัดจังหวัดชลบุรี และกระจายไปที่มหาชัย ก่อนจะกระจายไปในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
นายแพทย์ วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ร่างกายเด็กป่วยแล้ว 9 คน ใน 5 จังหวัดทั่วประเทศ คือ มีอาการขาดออกซิเจน ปลายมือและเท้าชาและเขียว จนถึงขั้นหมดสติ จึงอยากเตือนประชาชนควรดูฉลากสินค้าก่อนซื้อมารับประทาน ซึ่งหากพบว่าสินค้าไหนมีฉลากที่ไม่ระบุปริมาณในการผลิตที่แน่ชัด หรือไม่ระบุที่มาที่ไปของโรงงาน ไม่ควรซื้อมารับประทาน และเบื้องต้นพบแล้ว 32 ยี่ห้อ ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
สำหรับโรงงานดังกล่าว เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ฝ่าฝืนมาตรา 6(7) สถานที่ผลิตอาหารไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP) โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และฝ่าฝืนมาตรา 6(10) ผลิตภัณฑ์อาหารแสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
นอกจากนี้อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 25 ฐานผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษปลอมแปลงอาหาร ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, ข่าวช่องวัน