หลานฆ่ายายยัดถัง โป๊ะแตกจากแชต - เผยเหตุจูงใจ หน้ามืดเพราะผู้ชายและเงินแสน !

          ไล่เรียงกรณี หลานฆ่ายายยัดถัง สุดสลดหน้ามืดเพราะผู้ชายและเรื่องเงิน ตระเวนหาจุดทิ้งศพทั้งวันทั้งคืน แถมวางแผนกันมาเป็นอย่างดี ด้านแชตมัด คิดว่าฆ่ายายแล้วจะไม่มีใครหาเจอ จนเป็นข่าว ยังถามไถ่ คิดว่ารอดไหม


           จากกรณีสุดสะเทือนใจ กรณีที่ น.ส.อร อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาฆ่า นางสมศรี ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายแท้ ๆ โดยพบว่า น.ส.อร ได้ฆ่านางสมศรียัดถัง และตระเวนจากโคราชไปทิ้งถึงสุพรรณบุรี ก่อนที่ น.ส.อรและนายพล แฟนหนุ่ม จะถูกจับได้ที่รถตู้แม่สอด จ.ตาก

อ่านเพิ่มเติม ไขคดี หลานฆ่ายายยัดถัง เปิดภาพสุดท้าย-ตอบทำไปทำไม ทั้งที่ยาย-หลาน รักกันมาก

แม่ทั้งสองฝ่ายยืนยัน ลูกฉันเป็นคนดี เสื้อผ้าดี ๆ มีให้ใส่ไม่ขาด ไม่รู้ลูกทำไปทำไม

           ทั้งนี้ นางเจริญศรี ลูกของนางสมศรี ผู้เสียชีวิต ได้ติดต่อขอดูศพของแม่ตัวเอง แต่ศพถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร

           โดยที่นางเจริญศรีเล่าว่า ตนเป็นลูกแท้ ๆ ของนางสมศรี ไม่ใช่ลูกบุญธรรมอย่างที่มีข่าวออกไปในตอนแรก ตนมีลูกทั้งหมด 5 คน และ น.ส.อร ผู้ก่อเหตุฆ่านางสมศรี เป็นลูกคนที่ 4 ตนได้ยก น.ส.อรให้นางสมศรีเลี้ยงตั้งแต่ที่ น.ส.อร อายุแค่ 1 ขวบ ซึ่งที่ผ่านมา หลานและยายคู่นี้จะสนิทกัน นางสมศรีดูแลหลานเป็นอย่างดี อยู่ในสายตา น.ส.อรไปเรียนที่โคราช นางสมศรีก็ไปอยู่ด้วย


           ทว่า หลานและยายจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ แต่โกรธง่ายหายเร็ว ยายชอบเล่นหวย ทั้งหวยลาว หวยฮานอย หวยไทย ถูกหวยแต่ละครั้งได้เงิน 4-5 หมื่นบาท และงวดล่าสุดถูกหวยได้เงิน 1 แสนบาท แต่ตนไม่เชื่อว่านี่เป็นสาเหตุให้ยายฆ่าหลาน ต้องไปถามนายพลว่าอยากได้เงินของยายหรือเปล่า เพราะเสื้อผ้าที่ยายซื้อให้อรใส่ก็ดี เรียนเอกชน ฐานะก็ดีไม่ได้ขาดแคลน ถูกหวยมาก็แบ่งเงินให้ น.ส.อร

           นางเจริญศรีเล่าอีกว่า ตนคุยกับนางสมศรีครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยที่ยายมากับหลาน แต่ไม่ได้เข้าบ้านเพราะกลัวโควิด 19 และตนก็ได้เจอกับแม่ของนายพล แฟนของ น.ส.อรแล้ว ทั้งคู่พูดคุยกันแล้ว แต่ไม่ทราบว่าลูกของทั้งสองคนคบกัน และไม่ทราบเหตุจูงใจที่ทำดังกล่าว

           ด้านแม่ของนายพล บอกว่า ลูกของตนเป็นคนดี ไม่คิดว่าจะก่อเหตุเช่นนี้ นายพลไม่เคยออกนอกบ้าน ปกติไปไหนมาไหน พ่อแม่จะไปด้วย และวันเกิดเหตุ นายพลได้มาขอยืมรถที่บ้าน อ้างว่าจะไปเที่ยวเขื่อน วันเกิดเหตุแม่โทร. หา ลูกเปิดกล้องให้ดู ก็คิดว่าไปเที่ยวเขื่อนจริง ๆ ส่วน น.ส.อร ทะเลาะกับยายบ่อย เป็นไปได้หรือไม่ว่า น.ส.อร เป็นคนชวนนายพลลงมือ

หลานเผยนาทีฆ่ายาย เหี้ยมโหดเกินจะทน ปมยายเข้มงวดเกินไป - หน้ามืดตาลายเพราะเงินแสน

           ด้าน น.ส. อร ได้รับสารภาพแล้วว่า สาเหตุที่ฆ่ายาย เป็นเพราะยายเข้มงวดเรื่องการใช้เงิน ทั้งที่ยายเพิ่งถูกหวยฮานอยได้เงินมาหลักแสนบาท ยายเพิ่งไปกดเงินมา น.ส.อร เลยรู้ว่ายายมีเงิน  แล้วเกิดความโลภเข้าบังตา อีกอย่างคือ ยายชอบต่อว่าด่าทอ ห้ามไม่ให้คบคนนั้นคนนี้

           น.ส.อรบอกว่า ตนเพิ่งรู้จักกับนายพลเป็นครั้งแรก แต่ไม่เคยเจอกัน นายพลอยู่จังหวัดตาก ที่ผ่านมายายค่อนข้างเข้มงวดหลายอย่าง วันเกิดเหตุ น.ส.อร มีปากเสียงกับยาย เลยคุยกับนายพลให้มาที่ห้องพัก น.ส.อร ลงมือบีบคอยายสุดกำลัง แต่ยายยังไม่เสียชีวิตแล้วใช้เชือกรัดซ้ำจนยายตาย และทิ้งศพเอาไว้ในห้องพัก แล้วนายพลซึ่งไปยืมรถกระบะของญาติมา ได้เอายายขึ้นรถแล้วตระเวนหาจุดทิ้งศพ จากโคราชไปลพบุรี วิ่งไปเรื่อย ๆ แต่ไม่เจอที่ ๆ เหมาะ


           จากนั้น ทั้งคู่ก็กลับมาที่โคราชอีกครั้ง เอาผ้าห่มห่อร่างยาย แล้วมัดด้วยเชือกฟาง แล้วช่วยกันหอบร่างยายใส่ท้ายกระบะ แล้วพยายามหาจุดทิ้งเป็นรอบ 2

           10 ก.พ. รถคันนี้ไปจอดที่ปั๊มแห่งหนึ่ง และตอนเที่ยงคืนเข้าสู่วันที่ 11 ก.พ. ทั้งคู่ก็ไปจอดที่ปั๊มอีกแห่ง จากนั้นเวลา 13.00 น. รถคันนี้วิ่งผ่านแยกนางบวช และร่างยายน่าจะอยู่หลังเบาะรถกระบะ เพื่ออำพรางกล้องทำให้มองไม่เห็นศพ จากนั้นก็ไปเช่าห้องพักที่สามชุก สุพรรณบุรี โดยมีศพยายไปด้วย แล้วทั้งคู่ก็ไปตระเวนซื้ออุปกรณ์อำพรางศพ ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ ขุยมะพร้าว และถังขยะ ทั้งคู่ขับตระเวนต่อไปจนถึงจุดที่ทิ้งศพ เห็นเป็นป่าไม่คิดว่าจะมีใครเห็น จึงนำศพไปทิ้ง

           เมื่อทิ้งศพเสร็จ น.ส.อร ก็กลับไปที่ห้องที่โคราช น.ส.อรไปพักกับเพื่อนและแชตคุยกัน และนัดแนะกันไปเจอนายพลที่ จ.ตาก โดย น.ส.อร ไปลง บขส. แม่สอด และนายพลมารับ

เปิดหลักฐานสำคัญ แชตที่มัดทั้งคู่จนดิ้นไม่หลุด คิดว่าไม่มีคนมาเจอศพ - ยังคิดว่าจะรอด

           อย่างไรก็ตาม หลักฐานสำคัญคือแชตที่ทั้งคู่พูดคุยกัน หลังจากที่ก่อเหตุฆ่า โดยที่นายพลบอกว่า เรื่องแดงแล้ว มีคนเห็นข่าวแต่ยังไม่รู้คนทำ กำลังตามสืบอยู่ จากนั้นทั้งคู่ก็โทร. หากัน

           จากนั้นนายพลก็ไลน์มาหาอีกว่าทำอะไรอยู่ อยู่ไหน น.ส.อรก็บอกว่าอยู่ที่ห้องเพื่อน ตอนนี้ไม่เครียดแค่กังวล และ น.ส.อร มีสอบวันที่ 22-23 ก.พ. นี้ นายพลเลยเสนอว่าให้หนีไปก่อน ถ้าวันนั้นยังตามสืบไม่ได้ว่าใครทำ ค่อยกลับมาสอบ

           นอกจากนี้ น.ส.อร ยังบอกว่า คุณตาโทร. มาหาหลายสายแล้ว นายพลก็บอกว่า ให้บอกคุณตาว่ากำลังจะสอบ น.ส.อรก็บอกว่า ตารู้เรื่องแล้วว่ายายตาย แต่ยังไม่รู้ว่าใครทำ ทั้งคู่จึงโทร. หากัน จากนั้น น.ส. อรก็บอกว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น นายพลก็บอกว่า ย้ายเสร็จแล้วบอกด้วย และมีช่วงหนึ่งที่ น.ส.อร ได้แสดงความกังวลว่า ตนจะรอดไหม

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, เรื่องเด่นเย็นนี้