แม่ค้านมโตตำป่า ที่บุรีรัมย์ แจงปมใส่บิกินี่ขายส้มตำ ยันแค่ถ่ายโปรโมตร้าน วอนเพจดังลบโพสต์ เหตุเดือดร้อนเจอโทร. ป่วนกลางดึก แทบไม่ได้นอน ขณะที่ลูกค้าแห่อุดหนุน ต่างยอมรับสมคำล่ำลือ !
จากกรณีเพจดังเพจหนึ่งมีการโพสต์ภาพแม่ค้าขายส้มตำ ใส่ชุดบิกินี่คู่กับป้ายร้านชื่อ "นมโตตำป่า" พร้อมระบุว่า หัวใจจะวายก่อนได้กิน มีจริง ! พิกัดบ้านดงใหญ่พัฒนา ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ #นมโตตำป่า ทำเอาชาวโซเชียลบุรีรัมย์ฮือฮา แห่แชร์กันสนั่นนั้น
ล่าสุด (23 กุมภาพันธ์ 2565) เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า จาการตรวจสอบพบร้านดังกล่าวมีอยู่จริง เป็นร้านแบบเพิงตั้งอยู่ในหมู่บ้านดงใหญ่พัฒนา ต.โคกมะม่วง และมี น.ส.ปุ๊กี้ อายุ 28 ปี เป็นเจ้าของร้านและเป็นคนเดียวกับแม่ค้าในภาพที่โปรโมตลงในโซเชียล
โดย น.ส.ปุ๊กี้ เผยว่า ภาพที่แชร์ในเพจดังกล่าวเป็นภาพของตนจริง ซึ่งสามีเป็นคนถ่ายให้แล้วเอาไปโพสต์ในเฟชบุ๊กส่วนตัว จะมีเฉพาะเพื่อนในเฟซบุ๊กเท่านั้นที่เห็น เนื่องจากตนต้องการโปรโมตร้านตัวเองเท่านั้น แต่เวลาขายส้มตำจะใส่ชุดธรรมดาทั่วไปไม่เคยใส่ชุดบิกินี่ตามภาพที่โปรโมตไป
หลังจากทราบว่าเพจดังกล่าวเอาภาพไปลงโดยที่ไม่ขออนุญาต ตนได้ติดต่อไปทางเพจเพื่อให้ทำการลบภาพออก แต่ทางเพจไม่ยอมลบทั้งยังบล็อกเฟซบุ๊กของตนอีกด้วย แม้ส่วนหนึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่มีคนรู้จักร้านมากขึ้น
ขณะที่อีกด้านก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะตลอดทั้งคืนจะมีคนโทรศัพท์มากวน ตั้งแต่ 23.00 น. เป็นต้นไปยันเช้า มีคนโทร. มาตลอดเวลา และทั้งหมดแค่โทร. มาเพื่อต้องการอย่างอื่น ไม่ใช่ต้องการส้มตำเพราะไม่ใช่เวลาขาย
จึงอยากจะวิงวอนให้เพจดังกล่าวลบภาพตนออกโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นตนจะแจ้งความดำเนินคดีฐานละเมิดทันที และอยากขอร้องคนที่โทร. มากวน ว่าไม่ต้องโทร. มาเพราะตนมีสามีแล้ว อยากให้มาเยี่ยมชมร้านมากกว่า
อย่างไรก็ตามจากกระแสดังกล่าว ทำให้ร้านส้มตำมีทั้งลูกค้าหญิงและชายมาอุดหนุนเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่อยากรู้จักแม่ค้าอยากเห็นว่าจริงหรือไม่ ซึ่งลูกค้าที่มาซื้อส้มตำที่ร้านต่างยอมรับ สมคำร่ำลือ !
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีเพจดังเพจหนึ่งมีการโพสต์ภาพแม่ค้าขายส้มตำ ใส่ชุดบิกินี่คู่กับป้ายร้านชื่อ "นมโตตำป่า" พร้อมระบุว่า หัวใจจะวายก่อนได้กิน มีจริง ! พิกัดบ้านดงใหญ่พัฒนา ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ #นมโตตำป่า ทำเอาชาวโซเชียลบุรีรัมย์ฮือฮา แห่แชร์กันสนั่นนั้น
ล่าสุด (23 กุมภาพันธ์ 2565) เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า จาการตรวจสอบพบร้านดังกล่าวมีอยู่จริง เป็นร้านแบบเพิงตั้งอยู่ในหมู่บ้านดงใหญ่พัฒนา ต.โคกมะม่วง และมี น.ส.ปุ๊กี้ อายุ 28 ปี เป็นเจ้าของร้านและเป็นคนเดียวกับแม่ค้าในภาพที่โปรโมตลงในโซเชียล
โดย น.ส.ปุ๊กี้ เผยว่า ภาพที่แชร์ในเพจดังกล่าวเป็นภาพของตนจริง ซึ่งสามีเป็นคนถ่ายให้แล้วเอาไปโพสต์ในเฟชบุ๊กส่วนตัว จะมีเฉพาะเพื่อนในเฟซบุ๊กเท่านั้นที่เห็น เนื่องจากตนต้องการโปรโมตร้านตัวเองเท่านั้น แต่เวลาขายส้มตำจะใส่ชุดธรรมดาทั่วไปไม่เคยใส่ชุดบิกินี่ตามภาพที่โปรโมตไป
หลังจากทราบว่าเพจดังกล่าวเอาภาพไปลงโดยที่ไม่ขออนุญาต ตนได้ติดต่อไปทางเพจเพื่อให้ทำการลบภาพออก แต่ทางเพจไม่ยอมลบทั้งยังบล็อกเฟซบุ๊กของตนอีกด้วย แม้ส่วนหนึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่มีคนรู้จักร้านมากขึ้น
ขณะที่อีกด้านก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะตลอดทั้งคืนจะมีคนโทรศัพท์มากวน ตั้งแต่ 23.00 น. เป็นต้นไปยันเช้า มีคนโทร. มาตลอดเวลา และทั้งหมดแค่โทร. มาเพื่อต้องการอย่างอื่น ไม่ใช่ต้องการส้มตำเพราะไม่ใช่เวลาขาย
จึงอยากจะวิงวอนให้เพจดังกล่าวลบภาพตนออกโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นตนจะแจ้งความดำเนินคดีฐานละเมิดทันที และอยากขอร้องคนที่โทร. มากวน ว่าไม่ต้องโทร. มาเพราะตนมีสามีแล้ว อยากให้มาเยี่ยมชมร้านมากกว่า
อย่างไรก็ตามจากกระแสดังกล่าว ทำให้ร้านส้มตำมีทั้งลูกค้าหญิงและชายมาอุดหนุนเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่อยากรู้จักแม่ค้าอยากเห็นว่าจริงหรือไม่ ซึ่งลูกค้าที่มาซื้อส้มตำที่ร้านต่างยอมรับ สมคำร่ำลือ !
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้









