สรุปดราม่า คดีที่แม่ร้องทุกข์ลูกชายวัน 8 ขวบถูกรถทับตาย คนชนขอแบ่งเงินประกัน 5 แสน ซ้ำตำรวจขอค่าปากกา 3 แสน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นคดีประมาทร่วม ล่าสุดออกโหนกระแส โดนสั่งเด้งทันควัน
จากกรณีที่มีแม่เด็ก 8 ขวบ ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีลูกโดนเจ้าของไร่ขับรถชนจนเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ ได้มีการขอให้แบ่งเงินประกันที่จะได้รับ 1 ล้านบาท โดยแบ่งให้ครอบครัวคนขับรถ 5 แสนบาท และมีตำรวจเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย ซึ่งทางตำรวจได้สร้างความอื้อฉาว ด้วยการขอค่าน้ำหมึกอีก 3 แสนบาทนั้น
เด็กนั่งริมทางถูกชนตาย คู่กรณีขู่ สู้คดีไปก็ไม่ชนะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2565 แม่นกกับสามี ไปรับจ้างตัดมันสำปะหลังให้นายจำปา เจ้าของไร่ในพื้นที่แห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งวันนั้นพา น้องอิฐ ลูกชายวัย 8 ขวบมาด้วย ตอนเที่ยงได้กินข้าวด้วยกัน พอในช่วงบ่ายพ่อแม่จึงออกไปทำงาน ส่วนลูกนั่งรออยู่ใต้ต้นไม้ริมถนน ทำงานไปสักพักได้ยินเสียงเมียนายจำปาตะโกนเรียกให้มาดูลูกที่ถูกรถชน ซึ่งต่อมาลูกเสียชีวิตในอ้อมกอดแม่ระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล

ตอนแรกแม่ไม่ทราบว่าลูกถูกรถชนถึงขั้นเสียชีวิตได้อย่างไร จนหมอแจ้งว่า ถ้าถูกรถชนคงจะไม่เสียชีวิต แต่กรณีนี้คือสะโพกหัก มีบาดแผลใหญ่ที่ทวารหนัก จึงไม่ใช่แค่โดนรถชน แต่เป็นการถูกรถชนแล้วทับไปเลย ซึ่งเป็นการขับมาชนตรง ๆ ไม่ใช่ถอยหลัง จึงคาใจว่าเด็กอยู่ข้างทาง เขาไม่เห็นเลยได้อย่างไร ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายจำปา ได้ขอโทษ บอกว่าไม่เห็นและไม่ได้ตั้งใจ
จากนั้นเป็นการทำพิธีศพลูก แม่เด็กเฝ้าลูกคืนที่ 2 ตอนตี 4 นายจำปาก็เข้ามาพูดคุย ได้ให้เงินค่าทำศพมา 36,000 บาท บอกว่า ถ้าเธอจะไปสู้คดีไปก็ไม่ชนะหรอก เขารู้จักคนโตเยอะ ลูกเขยเขาก็เป็นตำรวจ โดยยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยให้เธอได้เงินประกัน หากได้แล้วให้นำเงิน 36,000 มาคืนด้วย
ตำรวจเรียก3 แสน ไม่อย่างนั้นเป็นประมาทร่วม คู่กรณีขอ 5 แสนแลกรับผิดเอาประกัน
ต่อมา ตำรวจ สภ.ปลาค้าว ได้เรียกเข้าไปที่โรงพักเมื่อวันที่ 23 มกราคม หลังจากเผาศพลูก ตำรวจบอกว่าคดีนี้แม่มีความผิดร่วมด้วยที่ไม่ดูแลลูก ปล่อยปละละเลย ทั้งที่ความจริงคือพาลูกมาอยู่ด้วยตอนทำงานเพื่อไม่อยากทิ้งเด็กไว้ที่บ้านคนเดียว โดยตำรวจบอกว่าคดีนี้ต้องทำซิกแซก ขอค่าปากกา 1 แสนบาท ถ้าไม่ให้เงิน จะทำให้เป็นคดีประมาทร่วม และวันนั้นตำรวจยังขอเงินอีก 2,000 บาท เป็นค่าทำเอกสาร ตนไม่มีเงินก็ต้องไปขอยืมเงินผู้ใหญ่บ้านมาจ่าย

ต่อมา แม่ของเด็ก ได้ออกรายการโหนกระแส เผยว่าหลังเกิดเหตุ นายจำปา ไม่เคยโทร. มาหาเลย เพราะประกันของเขาล่มทั้ง 2 อย่าง แต่ยืนยันว่า ตนไม่เคยหวังเรื่องเงิน ต้องการแค่ความถูกต้อง และความชัดเจน อยากให้เอาคนผิดมาลงโทษ ยืนยันว่าเรื่องข้อตกลงดังกล่าว นายจำปา เป็นคนเรียกร้องเองทั้งหมด
คู่กรณีอ้าง แม่เด็กเสนอมอบ 5 แสนเอง แต่เหตุผลอะไรไม่รู้
ด้าน นายจำปา ชี้แจงว่า แม่ของเด็กเป็นฝ่ายเสนอที่จะมอบเงินประกัน 5 แสนให้เขาเอง ตนไม่รู้เหตุผลว่าทำไมแม่เด็กถึงจะแบ่งให้ โดยมีหลักฐานเป็นคลิปเสียง ขณะที่แม่เด็ก ก็มีหลักฐานเป็นคลิปเสียงเช่นกันที่ นายจำปา และตำรวจ มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยให้แม่เด็กมอบเงินดังกล่าวให้

ไม่พบตำรวจเรียกเงิน แต่ล่าสุดสั่งเด้งแล้วหลังออกโหนกระแส
ขณะที่เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ เผยผลตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบกรณีตำรวจเรียกรับเงิน ด้าน รักษาราชการแทนสารวัตรใหญ่ สภ.ปลาค้าว เผยในรายการโหนกระแสว่า กรณีที่ตำรวจมีการถูกกล่าวหาว่าทำคดีล่าช้า พนักงานสอบสวนเรียกรับเงิน ขณะนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธร ได้ตั้งคณะกรรมการจากตำรวจภูธรอำนาจเจริญ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และต้องรายงานผลให้ท่านทราบภายใน 15 วัน

ล่าสุด วันที่ 11 มีนาคม 2565 ข่าวช่องวัน รายงานว่า ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ. ราชัน ไตรยขันธ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ปลาค้าว ย้ายมาประจำที่ ศปก.ภ.จว.อำนาจเจริญ และตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมไปถึงได้มีการสั่งให้มีการเรียก นายจำปา กาฬจันทร์ ผู้ต้องหามาสอบสวนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้จะได้มีการเร่งรัดให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่คู่กรณีทุกฝ่าย และดำเนินการทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด

