ลูกฟ้องแม่ขอพูดมุมตัวเอง ชี้ โฉนดที่ดินน้องสาวทำพินัยกรรมไว้ให้ แต่พี่สาวกับแม่รวมหัวไปคัดโฉนดแล้วเอาที่ไปขาย ยันไม่เคยได้สมบัติแม่สักบาท วอนสังคมเข้าใจ ถูกมองเป็นฝ่ายผิดทั้งที่ถูกกระทำมาตลอด
จากกรณีข่าวที่ นางเสาวนิจ วัย 83 ปี ได้ออกมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่าตนถูกลูกแท้ ๆ ยื่นฟ้องศาลดำเนินคดีทั้งทางอาญาและแพ่ง ข้อหา ยักยอกทรัพย์, แจ้งความเท็จ ซึ่งนางเสาวนิจ เผยว่าก่อนหน้านี้ลูกกับสามีได้รวมหัวกันแอบปลอมลายเซ็นโอนที่ดิน แต่ตนปล่อยเลยตามเลย เพราะถ้าดำเนินคดีลูกกับสามีต้องติดคุก เมื่อสามีและลูกคนเล็กเสียชีวิต ก็เกิดเป็นศึกชิงมรดก โดยลูกชายคนรองรีบเอาโฉนดของน้องที่ตายไปแจ้งกรมที่ดินว่าห้ามใครมาคัดโฉนด ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเสียใจมาก ตอนที่ตนป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ต้องตัดทิ้งข้างหนึ่ง เขารับราชการ ยังไม่ยอมมาเซ็นเบิกให้ตนเลย ตนต้องหมดเงินเป็นล้านเพื่อรักษา หวังว่าลูกจะมากราบเท้าขอโทษ รอลูกมา 9 ปี กลับได้หมายศาลมาแทน
อ่านข่าว : แม่ร่ำไห้ใจสลาย ถูกลูกชายแท้ ๆ ฟ้องโกงที่ดิน ต้องขึ้นศาลตอนแก่เฒ่า-ย้อนไทม์ไลน์ปมเดือด
ล่าสุด (16 มีนาคม 2565) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้รายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า นายมนัส หรือจ๊อด อายุ 61 ปี ลูกชายของนางเสาวนิจ เปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วตนไม่อยากฟ้องแม่ แต่แม่ร่วมมือกับพี่สาว ไปคัดลอกโฉนดที่ดินของน้องสาวคนเล็กที่เสียชีวิตไปแล้ว แล้วนำโฉนดใหม่ไปขาย ทั้ง ๆ ที่ตนยังเก็บโฉนดของน้องไว้ เพราะน้องทำพินัยกรรมไว้ให้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ส่วนเรื่องที่ตนรับราชการแล้วไม่ได้เซ็นเบิกที่แม่ต้องรักษามะเร็งเต้านมนั้น ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่การเบิกรักษาแม่ต้องสำรองเงินไปก่อน จนกว่าจะทำเรื่อง แต่ยังไม่ทันไร พี่สาวก็พาแม่ไปหาหัวหน้างานของตน และขอเร่งรัดให้รีบทำเรื่องเบิกเงิน ซึ่งต้องผ่านขั้นตอน ทำไม่ได้ จนตนต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบ เมื่อหัวหน้าพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคลาดเคลื่อน ไม่ใช่เรื่องจริง ตนจึงพ้นข้อครหาในครั้งนั้น
นายมนัส ทิ้งท้ายว่า อยากให้สังคมเข้าใจตนด้วย คนเป็นลูกทะเลาะกับแม่ยังไงก็ผิด ทั้ง ๆ ที่ตนเป็นฝ่ายถูกและถูกกระทำมาโดยตลอด
ขอบคุณข้อมูลจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว