พิมรี่พาย ไขคำตอบ ที่ขอโทษซ้ำ ๆ เคยเสียใจจริง ๆ ไหม - ไม่อนุญาตให้ด่าว่าตกต่ำ

          อ่านข่าว : พิมรี่พาย คุมตัวเองไม่อยู่ สติแตกกลางไลฟ์ คนเตือนต้องไปหาหมอ ถกสนั่นทำไมเป็นงี้


          โดยมดดำบอกว่า ประทับใจที่ครั้งหนึ่งพิมรี่พายเคยมาช่วยที่งานศพของย่าฉัน ฉันเฝ้ามองเธอมาตลอด ในระหว่างที่เธอพีค ๆ ขึ้นสูงสุด ฉันพูดกับทุกคนว่าคอยดูนะ ยิ่งขึ้นสูง พิมรี่พายจะเหลิงแล้วก็จะตก

          มดดำพูดอีกว่า ในระหว่างที่ขึ้น ต้องขึ้นให้สุด ขึ้นให้เหนื่อยแล้วกลับมาทบทวน "เขาเรียกว่าช่วงสะดุ้งไฟ อีxอก ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าตื่นxมอย" แต่นั่นใช้สำหรับเด็ก ๆ ตอนนี้มึงสะดุ้งให้เต็มที่ เมื่อก่อนเป็นคนปากหมาด่าเหมือนกัน ทัวร์ลงบ่อย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่กล้าทำคือการเปรียบเทียบคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ พิมรี่พาย กำลังทำ อยากฟังจากปากว่าสมองมึงเนี่ยคิดอะไร ถึงได้พูดถึงคนเงินเดือน 14,000 พูดถึงการต่อคิวบัตรอิออน ไม่เคยจนมาก่อนเหรอ ?
          พิมรี่พายตอบว่า เรามีวิธีรับมือกับคนที่เป็นลูกค้าและคนที่พูดไม่ดี คนที่ดีกับเราเป็นลูกค้าก็จะเรียกว่าเพื่อนรัก ส่วนคนที่พูดไม่ดีก็มีวิธีแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน สมมติคนนั้นชื่อ เอ ดูถูกเราว่า "คนน้อยจัง สงสัยตกต่ำ" เราอยากจะซัดคอมเมนต์นั้นกลับ แต่คนดูหลายหมื่นหลายแสนนั่งฟังอยู่ด้วย เขาก็คิดว่ากระทบเขา ทั้งที่เราไม่มีเจตนาจะว่าใคร เราผิดอย่างเดียวที่ไม่ได้เอ่ยชื่อเอ เลยเหมือนเราด่าภาพรวม คนในไลฟ์ 5 หมื่นคนเข้าใจ แต่คนที่ไม่ได้ดูไม่เข้าใจ ตัดเรื่องไปแค่นั้น คนเลื่อนอ่านแค่นั้นก็ด่าเราแล้ว

          เมื่อถามว่าจากคนดูหลักแสนเหลือเพียงหลักหมื่น รับไม่ได้เหรอที่คนว่าตกต่ำ ? พิมรี่พาย ตอบว่า ชีวิตตกต่ำมาตั้งแต่เกิดแล้ว ต้องเดินขายของตามตลาดนัด เดินขายของตามตรอกซอกซอย เพิ่งมาขึ้นได้ 3 ปี อย่ามาพูดว่าพิมรี่พายตกต่ำ ถ้าไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตนี้เคยจนมาขนาดไหน และไม่อนุญาตให้ใครมาชี้หน้าว่าตกต่ำ ไม่ยอม
          มดดำ ถามว่า พิมรี่พายเหลิงขึ้นไหม เจ้าตัวตอบกลับทันทีว่า ไม่เหลิง พิมรี่พายไม่เคยเหลิง แต่ที่ดังได้เพราะความมั่น และที่โดนด่าอยู่ทุกวันนี้เพราะว่าปากยังเหมือนเดิม ยังขายและทำทุกอย่างเหมือนเดิม ทั้งที่จะหาที่ปรึกษาดี ๆ แล้วจ้างคนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ได้ ส่วนตัวเองนั่งนิ่ง ๆ เป็นเจ้าของแบรนด์ แต่ก็ไม่ทำเพราะยังเป็นคนเดิม ยังพูดจาผิดพลาด พูดไม่รู้สถานการณ์ พูดไปเรื่อยจนโดนด่า แบบนี้เรียกว่าเหมือนเดิมไหม
          เมื่อถามว่ามีความเครียดสะสมหรือไม่ พิมรี่พาย ยอมรับว่าเครียดจริง ไม่ได้โกหก วันไหนเครียดก็บอกลูกค้าว่าวันนี้เครียด แต่ยังขายของต่อไป ยุคนี้ใครไม่เครียดให้ไปหาหมอ เงินหายาก หุ้นตก ข้าวยากหมากแพง ต้องแก้ปัญหาวันละ 20 อย่าง ตอนนี้เป็นสภาวะของไตรมาสแรกซึ่งตลาดจะเงียบอยู่แล้ว เรายอมรับว่าเราได้รับผลกระทบนั้น

          ทุกวันนี้มีลูกน้องอยู่ 3,000 กว่าคน ต้องมีงานให้ทำทุกวัน จังหวะนั้น มดดำพูดขึ้นมาทันทีว่า ตัวเองมีลูกน้อง 20 คนก็จะแย่อยู่แล้ว
          "ของ 3-4 โกดัง ถ้าพี่มดไปเห็นนะ ของสุดลูกหูลูกตาหนูขายอยู่คนเดียว ของ 60-70 ล้านชิ้น หนูขายคนเดียว คนเดียวเลยนะ จะไม่ให้หนูเครียดได้ยังไง หนูก็เครียดปกติมันไม่แปลก" พิมรี่พาย กล่าว
          นอกจากนี้ มดดำ ถามว่า คนอยากรู้ว่าเวลาพิมรี่พายขอโทษอะไรสักอย่าง มีความรู้สึกเหล่านี้จริงไหม เจ้าตัวตอบว่า หนูรู้สึกสำนึกทุกครั้งเวลาที่หนูยกมือไหว้ขอโทษ ร้านหนูมันใหญ่ คนเลื่อนผ่านเป็นล้าน ๆ คน หนูไม่สามารถทำให้คนถูกใจได้ทั้งหมด หนูแค่รู้สึกว่าเราเป็นคนที่รับปัญหาแบบเดียวกัน ปัญหาหุ้น ปัญหาเงินเฟ้อ ปัญหาน้ำมันแพงมะนาวแพง เงินได้เท่าเดิมแต่ของแพงขึ้น ทุกคนเครียด

          ภาวะอย่างนี้ต้องให้กำลังใจกัน พิมรี่พายวันนี้คนดูหมื่นเดียว แล้วมีคนดู 30 คน บอกว่า เฮ้ยพิม ! เป็นกำลังใจให้นะ แบบนี้โอเคแล้ว ไม่ใช่มาซ้ำเติมกัน ขออภัยจริง ๆ ถ้ายกตัวอย่างอะไรแล้วมันสะเทือนใจ ขอโทษจริง ๆ ทำไมถึงรู้ว่าคนเงินเดือน 14,000 มันลำบาก ยืนผ่อนบัตรอิออนแล้วมันลำบาก ทำไมต้องแดกมาม่า ที่กล้าพูดเพราะพวกนี้ผ่านมาหมดแล้ว
          การถูกด่าก็สมควรแล้ว สังคมขัดเกลาให้พิมรี่พายอยากเป็นคนที่ดีขึ้น พิมรี่พายในปี 2562 กับ 2565 ไม่เหมือนกัน จากที่พูดจาไม่รู้เรื่อง ฟังไม่ได้ สังคมกำลังทำให้เราดีขึ้น

          อย่างไรก็ตาม มดดำ คชาภา ยอมรับว่า พอได้มาคุยก็เข้าใจในมุมของพิมรี่พายเช่นกัน "ทำไปทำมา กูสัมภาษณ์มันแล้วยิ่งอินกับมัน มากกว่าที่กูจะด่ามันด้วย"

ขอบคุณข้อมูลจาก พิมรี่พาย