เพื่อนบ้านเปิดใจ พ่อน้องน้ำซุป จากคลิปหนูน้อยขอน้ำซุปไปคลุกข้าวกิน กินเหล้าเมาหนัก บุกขึ้นบ้านจะข่มขืน เล่านาทีสู้สุดชีวิตจนหลุดมาได้ เจ้าหน้าที่เตรียมใช้ไม้แข็ง บังคับแบ่งสัดส่วนเงินบริจาค 6 แสน ไม่อย่างนั้นหมดแน่
เป็นคลิปไวรัลที่คนแห่สงสารกันอย่างมาก กรณีเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ซึ่งทางบ้านมีฐานะยากจน ต้องเดินมาขอน้ำซุปจากร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำ เพื่อนำกลับไปคลุกกินกับข้าวพร้อมกับคนที่บ้าน ประทังชีวิต 5 ชีวิต ต่อมามีคนใจดีมากมายมอบความช่วยเหลือแก่น้อง และพากันเรียกว่าน้องน้ำซุป พร้อมกับแห่บริจาคเงินให้ครอบครัวนี้มากกว่า 6 แสนบาท
ล่าสุด วันที่ 5 เมษายน 2565 เรื่องเล่าเช้านี้ เผยเรื่องไม่คาดคิดจากครอบครัวของน้องน้ำซุป โดยตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณเพิงพัก ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกับ กำนัน ต.นาป่า และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบ น.ส.สนิท ชาญพินิจ อายุ 39 ปี ร่ำไห้ด้วยใบหน้าปูดบวม ศีรษะแตก โดยมีหน่วยกู้ภัยไตรคุณธรรม กำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ต่อมาทราบว่า น.ส.สนิท คือแม่ของน้องน้ำซุปซึ่งมีคลิปไวรัลอยู่ขณะนี้ เจ้าตัวเปิดเผยว่า นายพรพรม ศิลปมา สามี ทำร้ายร่างกายด้วยการเอาตะหลิวตีและชกต่อยตนหลายครั้ง สาเหตุเพราะอารมณ์เสียและกล่าวหาว่าตนจะมีชู้ จะหอบเงินที่ได้รับบริจาคมาหลบหนีไปเสวยสุขคนเดียว ซึ่งไม่เป็นความจริง
โดยขณะที่ตำรวจได้จับกุม นายพรพรม พ่อของน้องน้ำซุป พบว่ามีอาการเมาสุราอย่างหนัก พูดจาไม่รู้เรื่อง ตำรวจต้องนำตัวขึ้นรถไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เมืองชลบุรี
นอกจากนี้ น.ส.แต๋น อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน กล่าวอ้างว่า ก่อนที่นายพรพรม จะก่อเหตุทำร้ายภรรยา เขาบุกเข้าบ้านของตนที่อยู่ใกล้กันด้วยอาการเมา เข้ามากอดและพยายามจะปลุกปล้ำตน ผลักตนล้มลง แต่ตนต่อสู้จนเขากระเด็นล้มไป แล้วจึงรีบวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากร้านค้า กระทั่งทราบว่าไปก่อเหตุต่อยตีภรรยาจนหน้าบวมปูด
ด้านนายกัมพล สุขสว่าง กำนัน ต.นาป่า เปิดเผยว่า สองสามีภรรยาซึ่งเป็นพ่อและแม่ของเด็กที่ไปขอน้ำซุป ได้รับเงินบริจาคผ่านบัญชีของ น.ส.สนิท ผู้เป็นแม่ ยอดเงินกว่า 6 แสนบาท แต่พ่อของเด็กไปถอนเงินออกมาดื่มเหล้าจนเมาเละเทะและก่อเหตุดังกล่าว
โดยหลังจากนี้จะร่วมมือกับผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ชลบุรี เพื่อเป็นพยานไปอัปเดตยอดเงินในบัญชีว่ามีเท่าไร จากนั้นจะแบ่งไว้สร้างบ้านให้ครอบครัวนี้ ซึ่งตอนนี้ได้เช่าที่ดินของวัดนาเขื่อนไว้แล้ว ส่วนที่เหลือจะแบ่งเป็นทุนการศึกษาของเด็ก ๆ 3 คน และส่วนที่เอาไว้ใช้ประจำวันครอบครัว จากนี้ต้องบังคับกันเลย ไม่อย่างนั้นเงินบริจาคส่วนนี้คงไม่เหลือแน่นอน
